Toyota ยิ้มรับตลาดรถยนต์ไทยฟื้นตัวไว ดันยอดขายรถรุ่นยอดนิยม Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) และ Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์) เติบโตเหนือคาดการณ์ เคียงข้างรถเชิงพาณิชย์ที่กลับมาเติบโต มั่นใจพร้อมปรับไลน์ผลิตตามความต้องการของลูกค้าทันภายใน 1 เดือน
สุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการฟื้นตัวของเศรษฐกิจรวดเร็วที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียน ส่งผลให้ตลาดรถยนต์มีการฟื้นตัวเร็วตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ประเมินว่าหากไม่มีสถานการณ์อะไรเพิ่มเติมจากนี้ไป ก็หวังว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์จะกลับมาขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนตุลาคมนี้ รวมถึงจะต้องมีการปรับในเรื่องของสายการผลิตเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เพื่อลดภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจากการสต็อกรถยนต์ใหม่
Corolla Cross - Fortuner เติบโตเกินคาด
สุรศักดิ์กล่าวถึงภาพรวมของโตโยต้าจากงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา ว่าแม้ในภาพรวมยอดจองรถยนต์ในงานจะลดลงประมาณ 40% ตามการหดตัวของตลาดรวม แต่โตโยต้าก็มีข่าวดี เมื่อรถยนต์รุ่นใหม่ของบริษัทได้รับความสนใจจากลูกค้าเข้ามาจองเหนือความคาดหมาย
ไม่ว่าจะเป็น โตโยต้า โคโรลล่า ครอส รุ่นใหม่ ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ และมียอดจองเข้ามามากกว่า 2,000 คันในช่วงที่ผ่านมา รวมไปถึงโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่นปรับโฉม ที่มียอดจองเข้ามามากกว่า 800 คัน จากเป้าหมาย 500 คัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงตลาดที่กำลังกลับมาขยายตัวอีกครั้ง
"จริง ๆ เรายังประเมินไม่ได้ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร แต่บอกได้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์กลับมาเติบโตเร็วกว่าที่คิด อย่างตลาดรถยนต์เชิงพาณิชย์ก็ฟื้นตัวไปแล้วก่อนหน้านี้ ในส่วนของโตโยต้า เราก็พยายามที่จะรักษาส่วนแบ่งตลาดของเราเอาไว้ให้ได้ ซึ่งหากสถานการณ์โควิดดีขึ้นก็น่าจะโอเค"
บริหารสายการผลิตลดต้นทุนสต๊อกสินค้า
โตโยต้ายังเป็นค่ายรถที่ยืนยันว่าจะไม่มีการปลดลดคนงานหรือยกเลิกการจ้างงานในบริษัท ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารจัดการด้านการผลิตที่ยอดเยี่ยมของโรงงานในประเทศไทย เพื่อลดการสต๊อกสินค้าที่บริษัทและตัวแทนจำหน่าย นำไปสู่การลดต้นทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตลาดในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ยอดการผลิตรถยนต์ในโรงงานทุกแห่งของโตโยต้าลดลงไปจากสถานการณ์ปกติประมาณ 30% เป็นผลมาจากการที่ตลาดในประเทศและตลาดส่งออกหดตัว และหากสถานการณ์ปรับตัวดีขึ้น โตโยต้าก็พร้อมที่จะเดินหน้าเปิดสายการผลิตอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อรองรับความต้องการของตลาด
"เราสามารถปรับตัวในเรื่องการผลิตได้แบบเดือนต่อเดือน หากตลาดมีความต้องการเพิ่มเราก็พร้อมปรับตามทันที พนังงานของเรามีความพร้อมมาก และซัพพลายเออร์ทุกคนก็พร้อมมากเช่นกัน ซึ่งอุตสาหกรรมยานยนต์เรามีความเชื่อมั่นที่ดีอยู่แล้ว หากทุกอย่างมีสัญญานดี ก็พร้อมเติบโตอย่างแน่นอน"
มุ่งหน้าสู่เป้าหมาย 2.2 แสนคันในปีนี้
แม้สถานการณ์จะไม่ค่อยดีนักและยากต่อการประเมินภาพรวมของตลาดในช่วงที่เหลือของปี แต่สุรศักดิ์ประกาศชัดเจนว่าแผนงานของโตโยต้าทั้งหมดจะเดินหน้าต่อไป ทั้งการเปิดตัวสินค้าใหม่ การเดินหน้าจัดกิจกรรมทางการตลาดและกิจกรรมด้านการขาย ที่เริ่มมีมากขึ้นในช่วงต่อจากนี้
โตโยต้านั้นได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในปัจจุบันอย่างรุนแรง โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ พวกเขามียอดจำหน่ายไปเพียง 94,222 คัน ลดลง 45.1% เหนือตลาด โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่รถยนต์รุ่นใหม่อย่างโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์และโตโยต้า รีโว่ เพิ่งเปิดตัวในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม พวกเขายังตั้งเป้าหมายการฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยได้ตั้งเป้าหมายการจำหน่ายรถยนต์ในปีนี้ที่ 2.2 แสนคัน หรือมีส่วนแบ่งตลาด 33.3% และลดการหดตัวของยอดจำหน่ายลงไปเหลือเพียง 33.8% เท่านั้น ซึ่งถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ของโตโยต้าในปีนี้เลยทีเดียว