Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟท์) เจนเนอเรชั่นที่ 3 เป็น Eco Car คันเล็กที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2010 และสร้างยอดขายแบบถล่มทลายให้กับ Suzuki (ซูซูกิ) ด้วยความประหยัด ราคาไม่แพง รวมถึงมีคัวถังที่เล็กกระทัดรัด
ซูซูกิ สวิฟท์มือสองก็ยังได้รับความนิยมอยู่ แม้โฉมนี้จะหลายปีแล้ว แต่ก็เหมาะกับคนที่ต้องการประหยัดเงินเพื่่อซื้อรถคันแรก
ซึ่งเราแนะนำให้หารุ่นที่ผลิตปี 2012 ขึ้นไป ในรุ่นท็อป เพราะจะมีออพชั่นครบครันที่สุด ซึ่งราคาไม่ต่างจากรุ่นล่าง ๆ มากนัก อีกทั้งยังผลิตในไทย และปัญหาเกี่ยวกับตัวรถได้แก้ไขไปบ้างแล้ว
เราได้รวมรวบข้อมูลต่าง ๆ อาทิ ข้อดี-ข้อเสีย, ราคาประมาณเท่าไหร่ เพื่อช่วยคุณประกอบการพิจารณาได้
ข้อดีของ Suzuki Swift
1. อะไหล่หาง่าย
เนื่องจาก Suzuki Swift เข้ามาตั้งโรงงานในไทยตั้งแต่ปี 2008 จึงทำให้อะไหล่, เครื่องยนต์ และชิ้นส่วนต่าง ๆ ยังหาซื้อได้ง่ายทั้งแบบใหม่แกะกล่อง และเซียงกง หรือทั้งตามกลุ่มในเฟสบุ้คด้วยราคาที่ไม่แพง
2. ปัญหาแก้ได้แล้ว
ปัญหาของรุ่นที่ผลิตเป็นล็อตแรก ๆ ของซูซูกิ สวิฟท์ มีกระแสลูกค้าคอมเพลนมาให้เห็นเป็นระยะ ทั้งเรื่องแร็คพวงมาลัย, คาลิเปอร์เบรก และเกียร์ CVT
ซึ่งรุ่นหลังจากช่วงปี 2012 ทางซูซูกิได้ทำการแก้ไขแล้ว
3. ช่วงล่างเกาะถนนดี
แม้จะเป็นอีโคคาร์ แต่ถือว่ามีช่วงล่างที่แน่นหนึบพอสมควร หากเทียบกับระดับเดียวกัน
ยิ่งรุ่นปัจจุบันปี 2018 ที่ปรับปรุงเพิ่มช่วงล้อและความยาวฐานล้อ รวมถึงจุดศูนย์ถ่วงต่ำลง จะช่วยให้เพิ่มการยึดเกาะถนนมากยิ่งขึ้น
4. ขนาดเล็ก
เนื่องจาก Suzuki Swift มีมิติรถขนาดไม่ใหญ่มาก โดยโฉมนี้มีขนาด
ตัวถัง Suzuki Swift |
ยาว |
3,695 |
กว้าง |
1,690 |
สูง |
1,510 |
ซึ่งถือว่ามีความคล่องตัว เหมาะสำหรับขับขี่ในเมืองเป็นหลัก
5. ประหยัดน้ำมัน
มีความประหยัดน้ำมันพอสมควร แม้อาจไม่เท่ากับที่โฆษณาว่าทำได้ 20 กิโลเมตร/ลิตร แต่จะอยู่ในช่วง 13-16 กิโลเมตร/ลิตร แน่นอน ขึ้นอยู่กับลักษณะการขับขี่และการใช้งานของแต่ละคนเป็นหลัก
ข้อเสียของ Suzuki Swift มือสอง
1. ที่นั่งด้านหลังแคบ
เบาะนั่งด้านหลังจะออกชันเล็กน้อย ถ้านั่งนาน ๆ จะเมื่อยเอาได้ ถ้าคนตัวสูงหน่อยหัวจะติดหลังคา
2. กระจกปรับลงอัตโนมัติ
ซูซูกิ สวิฟท์มีระบบกระจกข้างปรับลงอัตโนมัติ แต่ต้องกดขึ้นเอง ซึ่งในรุ่นปัจจุบันก็ยังไม่มี
3. รถอืด
เป็นเรื่องที่ต้องทำใจ เนื่องจากรถออกแบบมาให้เป็น Eco car บวกกับเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ทำให้เวลาเร่งต้องรอรอบ จึงดูเหมือนอืด แต่ถ้าได้รอบแล้วจะวิ่งฉิว ขับสนุกพอสมควร
4. ช่วงล่างแข็ง
แม้ว่าจะเซ็ตช่วงล่างออกมาให้เกาะถนน แน่นหนึบ แต่ถ้าวิ่งบนทางขรุขระ คอสะพาน หรือช่วงความเร็วต่ำ จะรู้สึกได้ถึงความแข็ง สะเทือนของช่วงล่าง แต่ก็สามารถนำไปเปลี่ยนโช้คใหม่ได้
5. ไม่มีไฟตรงปุ่มกดล็อค
ปุ่มปลดล็อคที่แผงประตูคนขับไม่มีไฟ หากเป็นตอนกลางคืนต้องเอามือคลำ งมหากันไป หรือไม่ก็เปิดไฟห้องโดยสาร
รุ่นและราคาที่แนะนำ
ในส่วนของรุ่นที่แนะนำ จะเป็นรุ่นท็อป GLX แบบที่กล่าวมาข้างต้น เนื่องจากออพชั่นจำพวก หน้าจอสัมผัส, ปุ่ม Push Start, และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น
ส่วนราคาของ Suzuki Swift มือสองจะเริ่มต้นตั้งแต่ 250,000-400,000 ขึ้นอยู่กับสภาพของรถยนต์และรุ่น แต่ราคานี้ก็จะเป็นปีตั้งแต่ 2012-2017 หากเป็นรุ่นหรือปีที่ใหม่มากราคาก็จะเข้าใกล้มือหนึ่งเล็กน้อย
ที่สำคัญคือต้องดูปีของรถ เนื่องจากรุ่นเก่าจะยังมีปัญหาเรื่องแร็คและคาลิปเปอร์อยู่ครับ