การให้ลูกค้าลองขับรถตามขั้นตอนทั่วไป มักจะได้ลองแถวโชว์รูมรถ ยังไม่ทันขึ้นเกียร์ 5 ก็ต้องขับกลับเข้าศูนย์แล้ว แต่สำหรับซูบารุไม่ใช่ เพราะเขาจัดงานในสนามปิด ให้ลองขับรถกันแบบชนิดที่ว่า ยางไม่ร้อง ห้ามลงจากรถ เป็นสิ่งที่ไม่ได้เจอกันบ่อยๆ ในการลองรถทั่วไป ที่สำคัญคือ งานนี้ไม่มีเซลล์มาคอยเดินตามมาโอ้อวดสรรพคุณ แต่ลูกค้าทุกคนออกปากชมรถด้วยตัวเองอย่างไม่มีใครอวย นี่มันอุปทานหมู่รึเปล่า ไปดูงานนี้ว่าขับกันยังไง
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
Subaru Ultimate Test Drive จัดงานในสนามแข่ง
งานลองขับรถซูบารุนี้ จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 ระหว่างวันที่ 25 – 27 กันยายน 2563 ณ สนามปทุมธานีสปีดเวย์ อันเป็นสนามแข่งรถทางเรียบ ที่มีรถแข่งกำลังแรง มาซิ่งกันมากมาย แต่งานซูบารุนี้ กลับมีแค่เอสยูวีบ้านๆ มาให้ลองขับ Subaru Forester เท่านั้น ตอนแรกก็คิดว่าไม่น่ามีพิษสงอะไร
Subaru Forester แรงม้าน้อยไม่น่ามีพิษสงอะไร
เห็นในงานนำรถแม่บ้านมาให้ลองขับเพียงรุ่นเดียวคือ Subaru Forester ที่ใช้เครื่องเบนซิน 4 สูบนอน Boxer ที่มีกำลังเพียง 150 แรงม้า แบกน้ำหนักมากกว่า 1.5 ตัน ซึ่งไม่ต้องถามเรื่องอัตราเร่งกระชากติดเบาะอะไรมากนัก แต่ควรถามว่า มันจะเลี้ยวได้ขนาดไหนเชียว
รถแม่บ้าน ที่เลี้ยวจนล้อเอี๊ยด
ทีมงานจัดฉากแกล้งรถ ด้วยการราดน้ำแฟ้บลงพื้นปูน ตีฟองฟูรวมกับน้ำจนชุ่มชื่นลื่นแฉะ แล้วให้เรานั่งขับรถเอสยูวีรุ่นนี้ วนเป็นเส้นเลข 8 ในรอบแรกก็แกล้งรถด้วยการปิดโหมด Traction Control พบว่ารถลื่นพรืดที่ความเร็ว 40 กม./ชม. แต่รอบสองเปิดโหมดดังกล่าว ใช้ความเร็วเท่าเดิม แต่รถเบนเข้าโค้งตามที่พวงมาลัยสั่ง ไม่แถบานออกแบบพวกรถไร้ระบบนี้ แน่นอนว่าเราลองจนล้อเอี๊ยดก็ยังไม่หลุดแนวกรวยเลย
รถทรงสูง ที่โยกเลนได้สุดแรงเกิด
ต่อมาเป็นการลองขับรถเปลี่ยนเลนกะทันหัน จำลองเส้นทางด้วยกรวย บังคับให้ทางหักมุมแคบ และบังคับให้เราขับรถที่ 40 กม./ชม. ให้หักหลบกรวยพ้นไปได้โดยห้ามแตะเบรค ด้วยความที่เป็นรถทรงสูง การหักพวงมาลัยกะทันหัน มันทำให้รถมีช่วงยุบตัวสูงมาก ตัวรถเอนจากซ้ายไปขวาอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ยากเกินควบคุมพวงมาลัย เพราะระบบมันช่วยถ่ายแรงบิดในเสี้ยววินาที แถมยังมีเครื่องยนต์ที่มีจุดศูนย์ถ่วงน้ำหนักลงใกล้พื้นโลกกว่ายี่ห้ออื่น ทำให้โดนแรงเหวี่ยงข้างน้อยลง การโยกรถไปมาโดยไม่เบรคเลย จึงทำได้หนึบอย่างไม่ต้องพยายามออกแรงแข็งขืนรถให้กลับเข้าเส้นทางแต่อย่างใด
รถหน้าตาเชยๆ แต่ไฮเทคมาก
ต่อมาก็ได้ทดลองขับแบบตามตูดคันหน้า โดยปล่อยเท้าจากแป้นได้เลย รถจะเบรคและเร่งให้เอง แถมตั้งระยะห่างจากคันหน้าก็ได้ด้วย ถ้ารถคันหน้าเลี้ยวออกนอกสายตา Eyesight ระบบก็จะหาภาพรถคันใหม่มาจับตำแหน่ง ซึ่งเป็นรถยี่ห้อเดียวในโลก ที่ใช้กล้องความละเอียดสูง 2 ตัวทำงานซ้อนภาพกัน เพื่อประมวลผลวัตุหน้ารถทั้งหมด ตั้งแต่จักรยานเล็กๆ ไปจนถึงรถบัสทั้งคัน แม่นยำกว่าพวกโซนาร์ทั้งในทางทฤษฏีและทางปฏิบัติจริง เพราะสามารถตรวจจับวัตถุเมื่อใกล้ชน พร้อมแทรกแซงเบรคให้อัตโนมัติอย่างรวดเร็ว
ใครว่าไม่แรง นักแข่งจัดหนักให้นั่ง
เหมือนว่าทางผู้จัดงาน รู้ว่ามีคนปรามาสไว้ว่ารถไม่แรง เลยจัดให้ไปลองนั่งในรถทดสอบที่มีคนขับเป็นนักขับรถมืออาชีพ ผู้เจนจัดสนามแข่งนี้ และคุ้นเคยกับรถอย่างดี มาซิ่งรถแม่บ้านให้เรานั่ง ส่งกำลังแรงม้า 150 ตัวลงพื้นออกตัวไปทั้ง 3 คันพร้อมกัน ขับตามกันแบบปิดระบบ Eyesight จี้ตูดทุกเส้นทาง ยัดโค้งที่ความเร็ว 120 กม./ชม. ก็ทำได้จริง หรือเลี้ยวหักศอกมุมฉาก ก็ใส่เข้าที่ความเร็ว 80 กม./ชม. เล่นเอาพ่อบ้าน/แม่บ้าน เหวอไปตามๆกันว่า รถจ่ายกับข้าว ทำได้ขนาดนี้เชียวหรือ
ใครที่พลาดงานนี้ ที่โชว์รูมก็จัดหนักพอกัน
งานทดลองขับในสนามปิดแบบนี้ มีปีละหน หากใครพลาดก็ยังมีการทดลองขับในโชว์รูม Subaru ซึ่งจะจัดหนักให้เป็นพิเศษ ในวันที่ 17-18 ตุลาคมนี้ ณ โชว์รูมซูบารุทั่วประเทศ ใครเข้าไปลองรถ ก็ได้ของที่ระลึกจากซูบารุ เอาไว้เปรียบเทียบฟิลลิ่งกับรถยี่ห้ออื่นดูเอาเอง
การปากของผู้คนที่ได้ลงทะเบียนมาลองขับที่งาน Subaru Ultimate Test Drive โดยไม่มีเซลล์มายืนประกบ หรือมาโม้สรรพคุณใดๆ ปล่อยให้ลองและค้นพบข้อดีของตัวรถเอาเอง ซึ่งการทำแบบนี้ได้ แสดงว่าต้องมั่นใจในคุณภาพสินค้า ให้มันขายได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องไปโฆษณาโอเวอร์ หรือบลัฟคู่แข่งให้ดูแย่ หลังจากขับก็ต่างออกปากว่าชมกันในหมู่ผู้ใช้เองแบบไม่ได้อวย ผู้เขียนก็ได้แต่ภาวนาว่า ปีหน้าจะมีงานแบบนี้มาให้คนทั่วไปได้รู้จักความดีงามของซูบารุอีกครั้ง
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });