![Subaru ยืนยันพัฒนา EyeSight พื้นฐาน AI แต่ไม่เน้นระบบขับขี่อัตโนมัติ เพราะเหตุใด? 01]()
Subaru (ซูบารุ) ยืนยันว่ากำลังพัฒนาระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ EyeSight เจนเนอเรชั่นใหม่ที่จะนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ EyeSight รุ่นใหม่ของ Subaru เตรียมเปิดตัวใช้งานในรถโปรดักชั่นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป เน้นใช้เทคโนโลยีกล้องตรวจจับแบบ stereo camera เป็นหลักพร้อมประมวลผลด้วย AI เพื่อยกระดับการทำงานในสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างถนนที่มีการก่อสร้างหรือเมื่อปกคลุมด้วยหิมะ
จุดเด่นของเทคโนโลยี AI คือความสามารถในการประเมินวัตถุกีดขวางเบื้องหน้าได้อย่างแม่นยำเมื่อทัศนวิสัยไม่สู้ดีนัก นอกจากช่วยเหลือการขับขี่ขณะหิมะตกแล้ว ยังสามารถตรวจจับคนที่นอนอยู่กลางถนนหรือเส้นจราจรที่เลือนหายได้อีกด้วย
ค่ายรถตราดาวลูกไก่ระบุว่า ทีมวิศวกรได้ใช้เทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่องจักร (machine learning) เพื่อเร่งระยะทางการวิจัยและพัฒนาให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน EyeSight รุ่นใหม่ยังจะมีการอัพเดทไร้สายแบบ over the air อีกด้วย
![Subaru ยืนยันพัฒนา EyeSight พื้นฐาน AI แต่ไม่เน้นระบบขับขี่อัตโนมัติ เพราะเหตุใด? 01]()
เป้าหมายอยู่ที่การลดอุบัติเหตุ
เออิจิ ชิบาตะ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเทคโนโลยี Subaru Lab กล่าวว่า เป้าหมายของบริษัทฯ ในการพัฒนาระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่คือการลดอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิตบนท้องถนนให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“เป้าหมายของเราไม่ได้อยู่ที่การพัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติ แต่เราต้องการทำให้อุบัติเหตุที่มีผู้เสียชีวิตลดเหลือศูนย์” ชิบาตะ กล่าว พร้อมกับชี้ว่าเทคโนโลยี EyeSight ทำให้ Subaru มีความแตกต่างจากค่ายรถยนต์รายอื่น
ทั้งนี้ Subaru Lab เป็นศูนย์การพัฒนาเทคโนโลยี AI ที่ตั้งอยู่ในย่านชิบุยะ กลางกรุงโตเกียว เพิ่งเปิดทำการเมื่อปลายปี 2020
![Subaru ยืนยันพัฒนา EyeSight พื้นฐาน AI แต่ไม่เน้นระบบขับขี่อัตโนมัติ เพราะเหตุใด? 02]()
ชิบาตะไม่ได้ยืนยันว่าระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ EyeSight รุ่นใหม่นั้นจะเข้าข่ายเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติระดับใด แต่ยืนยันว่าระบบดังกล่าวช่วยลดอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับคนเดินถนนลงได้ 60% และยังทำให้อุบัติเหตุชนท้ายลดลงเกือบ 80% เลยทีเดียว
Subaru เชื่อมั่นว่าการใช้กล้องตรวจจับ stereo camera ร่วมกับเทคโนโลยี AI มีประสิทธิภาพมากกว่าในการมุ่งสู่เป้าหมายลดอุบัติเหตุเมื่เทียบกับการใช้ LiDar เหมือนกับค่ายรถรายอื่น
“การใช้กล้อง stereo camera มีประโยชน์อย่างมากเมื่อทำงานร่วมกับ AI ค่ายรถรายอื่นใช้หลายเทคโนโลยีร่วมกันอย่างเรดาร์ กล้องทั่วไป และ LiDar แต่เรามองว่ากล้อง stereo camera มีศักยภาพในการทำงานสูงอย่างยิ่ง” โทรุ ไซโตะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเทคโนโลยี Subaru Lab กล่าว
Subaru ระบุด้วยว่า 1 ใน 3 ของอุบัติเหตุเกิดขึ้นในลานจอดรถซึ่งทำให้บริษัทฯ มุ่งเน้นพัฒนาระบบช่วยจอดอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพสูงยิ่งและเตรียมใช้ตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป