โตโยต้า บริษัทรถยนต์ผู้นำตลาดเมืองไทย นำเสนอ 2019 โตโยต้า วิออส จำนวน 3 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น Entry ราคา 6.09 แสนบาท รุ่น Mid ราคา 6.99 แสนบาท และรุ่น High ราคา 7.89 แสนบาท มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร พละกำลัง 108 แรงม้า และมีแรงบิด 140 นิวตันเมตร

2019 โตโยต้า วิออส เป็นรถยนต์ซีดานขนาดเล็กที่ผลิตโดยโตโยต้า ในประเทศไทย ออกทำตลาดรถยนต์กลุ่มบีเซกเมนท์ โฉมปัจจุบันเปิดตัวในช่วงต้นปี 2562 โดยมีอัตราความประหยัดน้ำมัน 17.2 กม.ต่อลิตร

New 2019 Toyota Vios (2019 โตโยต้า วีออส) รุ่นปรับโฉมคือความพยายามอีกครั้งของโตโยต้าในการอัพเกรดรถยนต์นั่งที่ขายดีที่สุดตลาดกาลของพวกเขา ให้มีความสดใหม่เพิ่มเติม น่าใช้งานเพิ่มขึ้น และแตกต่างจากรถยนต์รุ่นน้องอย่าง Toyota Yaris ATIV (โตโยต้า ยาริส เอทีฟ) รถยนต์ในโครงการอีโคคาร์ของพวกเขา

วีออสนั้นถือเป็นรถยนต์ที่มีการทำตลาดมาอย่างยาวนานปาเข้าไปถึงเจนเนอเรชั่นที่ 5 เข้าไปแล้ว พวกเขามียอดขายสะสมตั้งแต่รุ่นแรกเกือบล้านคัน แถมมีเกียรติประวัติที่ต่อเนื่องมายาวนานในการทำตลาด นับตั้งแต่เริ่มต้นในการพัฒนา Toyota Soluna (โตโยต้า โซลูน่า) ก่อนที่จะกลายเป็นวีออสในช่วงต่อจากนั้น

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับรถในช่วงปี 2019 นั้นคือการเพิ่มอุปกรณ์มากมายให้กับตัวรถ เพื่อให้ตัวรถมีความสวยงามมากขึ้น เพิ่มความสปอร์ตในรุ่นท็อป พร้อมออพชั่นต่าง ๆ มากมาย รวมถึงการเพิ่มความคุ้มค่าในการใช้งานให้กับรุ่นกลางและรุ่นล่างสุด แถมยังปรับลดราคาในรุ่นกลางลง ส่วนอีก 2 รุ่นก็คงราคาเดิมเสียด้วย

ด้วยรูปลักษณ์ของรุ่น High ที่พวกเขาพยายามเพิ่มอุปกรณ์เน้นความดุดัน เร้าใจอย่างเต็มที่ ทำให้โตโยต้า วีออส โฉมปี 2019 มีความโดดเด่นเพิ่มมากขึ้น มีอุปกรณ์ที่น่าสนใจในการใช้ในชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้น แต่นั่นก็หมายถึงคุณจะต้องควักกระเป๋าจ่ายถึง 7.89 แสนบาทเพื่อแลกกับรถยนต์ที่มีอายุการทำตลาดมาแล้วสักระยะ

ไปลองดูกันว่าออพชั่นที่เพิ่มเข้ามานั้นเพียงพอที่จะทำให้เรายอมจ่ายหรือไม่ หรือไปซื้อรถอีโคคาร์รุ่นใหม่ ๆ กันดีกว่านะ

ปรับรุ่นย่อย เสริมความสดใสภายนอก

หนึ่งในการปรับเปลี่ยนในการอัพเกรดครั้งล่าสุดก็คือการยกเลิกการทำตลาดรุ่นกลางอย่างรุ่นอี พร้อมทั้งปรับชื่อเรียกจากเดิมมาเป็นรุ่นเอนทรี (Entry) มิด (Mid) และไฮ (High) โดยมีการปรับราคาจำหน่ายในรุ่นกลางลง 3 หมื่นบาท ขณะที่รุ่นล่างและรุ่นท็อปนั้น คงราคาจำหน่ายเดิมเอาไว้

ตัวรถมาพร้อมภาพลักษณ์ที่สปอร์ตยิ่งขึ้น ในรุ่นท็อปมีการปรับเพิ่มอุปกรณ์เข้าไป ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ พร้อม LED Light Guiding และไฟส่องสว่างเวลากลางวัน มาพร้อมไฟตัดหมอกหน้าแบบแอลอีดี และเสริมล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ลายสปอร์ต พร้อมยางหน้ากว้างในรุ่นท็อป

ดีไซน์ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระจังหน้าสีดำขนาดใหญ่ ดูลงตัวกับกรอบโคมไฟทรงเพรียวบาง กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัว เส้นสายที่ไล่จากด้านหน้าของรถไปจรดกรอบไฟด้านท้าย ซึ่งการออกแบบภายนอกในภาพรวมของวีออส ทำให้ตัวรถดูมีความทะมัดทะแมงสำหรับการใช้งานในทุกรูปแบบ

เพิ่มอุปกรณ์ในห้องโดยสารเน้นใช้งานจริง

โตโยต้าทำการยกเลิกการทำตลาดห้องโดยสารสีเบจในวีออสทุกรุ่นย่อย และหันมาใช้ห้องโดยสารโทนสีดำสปอร์ตทั้งหมด รวมถึงมีการติดตั้งอุปกรณ์ใหม่ ๆ เข้ามาในตัวรถ เพื่อให้รถนั้นมีความเอนกประสงค์ในการขับขี่มากขึ้น ขณะที่อุปกรณ์บางอย่างที่เพิ่มมานั้น ก็สามารถเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ได้เช่นกัน

วีออส รุ่นไฮ มาพร้อมเบาะหนังสีดำแบบพรีเมียม โดยเบาะคู่หน้าเป็นเบาะทรงสปอร์ต ที่รองรับและโอบรับกับสรีระของผู้ขับขี่ พร้อมเพิ่มกล้องบันทึกภาพหน้ารถมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ขณะเดียวกัน ผู้ขับขี่ก็สามารถถอยจอดรถได้อย่างมั่นใจด้วยกล้องมองหลังและสัญญานกะระยะในการถอยหลัง

ระบบเปิดประตูอัจฉริยะและระบบสตาร์ทด้วยปุ่มช่วยอำนวยความสะดวกมากยิ่งขึ้น เครื่องเสียงระบบสัมผัส มาพร้อมหน้าจอขนาด 7 นิ้ว พร้อมฟังชั่นส์ที-ลิงค์ รองรับการเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นนำทางและการฟังเพลงออนไลน์ ซึ่งฟังชั่นส์และการตกแต่งที่เพิ่มขึ้นมาทำให้รถคันนี้น่าใช้งานมากขึ้นในภาพรวม

เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรที่ยังไว้วางใจได้

ในวันที่โตโยต้าเปิดตัวรถยนต์รุ่นนี้ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรของวีออสคือหนึ่งในเครื่องยนต์ที่ไว้ใจได้ ให้การตอบสนองที่น่าพึงพอใจ และใช้งานในเมืองได้อย่างสบาย และแม้จะมีรถยนต์ในโครงการอีโคคาร์เกิดขึ้นมากมาย เครื่องยนต์ 2NR-FBE ของวีออส ก็ยังถือว่ามีสมรรถนะที่ไม่ขี้เหร่เมื่อเทียบกับคู่แข่ง

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว แถวเรียง ปริมาตรกระบอกสูบ 1,496 ซีซี. มาพร้อมระบบ Dual VVT-i ให้กำลังสูงสุด 108 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 140 นิวตันเมตรที่ 4,200 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ ซีวีที แบบ 7 จังหวะ ลงล้อคู่หน้า เครื่องยนต์รุ่นนี้รองรับแก๊สโซฮฮล์ อี85

ความคล่องตัวของเครื่องยนต์รุ่นนี้ถือว่าเหมาะสมมาก โดยเฉพาะเมื่อใช้งานในเมือง ด้วยรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดแค่ 5.1 เมตร การส่งกำลังไหลลื่นต่อเนื่องแบบไม่สะดุด ช่วงล่างแบบแมคเฟอร์สัน สตรัทที่ด้านหน้า และทอร์ชั่นบีมที่ด้านหลัง เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ด้วยดิสก์เบรกด้านหน้า

ติดตั้งระบบความปลอดภัยพร้อมใช้งาน

ด้วยการเป็นรถยนต์ที่ทำตลาดมาได้หลายปีแล้ว หลาย ๆ คนอาจจะมองว่าอุปกรณ์และระบบต่าง ๆ ที่ติดตั้งมาให้อาจจะมีไม่มาก เมื่อเทียบกับคู่แข่งรุ่นใหม่ ๆ หรือแม้แต่ไปเทียบกับพวกบรรดาอีโคคาร์เครื่องยนต์เล็กเอง แน่นอนว่าของที่ติดตัววีออสมาในเรื่องของระบบขับขี่และความปลอดภัยคงสู้ลำบาก

อย่างไรก็ตาม โตโยย้า วีออส ก็เป็นรถยนต์ที่มีระบบการขับขี่ที่มีอุปกรณ์มาให้ครบครันที่สุด นอกเหนือไปจากอุปกรณ์ใหม่ ๆ ที่ใส่เข้ามาที่กล่าวถึงไปแล้วด้านบน พวกเขายังให้ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ลูก ติดตั้งมาให้กับตั้งแต่รุ่นย่อยล่างสุด เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารในกรณีเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย อันประกอบไปด้วย ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ระบบกระจายแรงเบรกด้วยอีเลกทรอนิกส์ ระบบเสริมแรงเบรก ระบบควบคุมการทรงตัว และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ซึ่งทำงานประสานกันเพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุด

คู่แข่งเยอะแต่วีออสก็คือวีออส

อย่างที่รู้กันดีกว่า โตโยต้า วีออส รุ่นนี้ คือสินค้าที่โตโยต้าทำตลาดมาอย่างยาวนาน และแม้แต่ในช่วงแรกที่พวกเขายังไม่ได้เข้าร่วมโครงการอีโคคาร์ เฟสแรก รถยนต์รุ่นนี้ก็เปิดตัวออกมาโดยมุ่งเน้นไปที่ความต้องการของลูกค้าที่ไม่อยากได้รถยนต์เครื่องยนต์เล็ก ที่อาจจะไม่เหมาะสมกับการเดินทางไกล 

จุดขายของวีออสนั้น นอกเหนือไปจากเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ที่ไว้ใจได้ทั้งการเดินทางในเมืองและการเดินทางออกต่างจังหวัด ซึ่งเป็นแนวทางในการใช้งานของคนไทยส่วนใหญ่ พวกเขายังนำเสนอภาพลักษณ์ภายนอกที่สวยงาม ห้องโดยสารที่สวยงาม กว้างขวาง และใช้งานได้อย่างลงตัว

แน่นอนว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ใหม่กว่า หรือแม้แต่เทียบกับอีโคคาร์หลาย ๆ รุ่น ก็อาจจะมีคนที่ปันใจไปหารถรุ่นอื่น ๆ บ้าง แต่กลุ่มลูกค้าของโตโยต้าเอง หรือแม้แต่คนที่ยังมองหารถยนต์นั่งที่ไว้วางใจได้ สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน ก็ยังมองว่ารถคันนี้ มีความน่าสนใจและคุ้มค่ากับการจับจ่ายอยู่ดี

ของมันมีดีในตัว แถมมีฐานลูกค้าอีก คำถามคือ โตโยต้าจะขายรถรุ่นนี้อีกนานหรือไม่ เพราะมีข่าวลืออกมาเยอะเหลือเกินว่าพวกเขาอาจจะพิจารณาเลิกทำตลาดรถรุ่นนี้ แล้วไปลุยอีโคคาร์อย่างเต็มรูปแบบเหมือนกันในอนาคต