Proton (โปรตอน) ค่ายรถยนต์จากเพื่อนบ้านมาเลเซียซึ่งอยู่ใต้ปีก Geely กลุ่มทุนจากจีนประกาศยืนยันว่าจะหวนคืนสู่ตลาดประเทศไทยและอินโดนีเซียอย่างแน่นอน
ยังไม่มีการกำหนดกรอบเวลาว่า Proton จะกลับเข้ามาทำตลาดบ้านเราเมื่อใด แต่มีรายงานข่าวจากแดนเสือเหลืองว่าพวกเขาอยู่ระหว่างการหารือกับ "พันธมิตร" ในทั้งสองประเทศ และจะพร้อมเริ่มจัดจำหน่ายรถยนต์รุ่นแรกภายในปี 2022
การกลับมาคราวนี้จะไม่เหมือนเดิมเพราะ Proton มีความมั่นใจเต็มเปี่ยมหลังจากประสบความสำเร็จด้านยอดขายในประเทศและการส่งออกอย่างต่อเนื่อง นำโดยรถเอสยูวี X50 (โปรตอน เอ็กซ์50) และ X70 (โปรตอน เอ็กซ์70) ซึ่งคาดว่าทั้งสองโมเดลจะทำตลาดเมืองไทยในปีหน้า
เล็งเป้ายอดขายสูงสุดติดท็อป 3 ในอาเซียน
Proton มีแผนการระยะยาวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยตั้งเป้าหมายทำยอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 3 ในภูมิภาคนี้ เน้นขับเคลื่อนการเติบโตจากการส่งออกรถยนต์ซึ่งจะสร้างความมั่นคงทางธุรกิจและช่วยให้แบรนด์แข็งแกร่งขึ้น แน่นอนว่าตลาดรถยนต์ในประเทศไทยและอินโดนีเซียมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับ Proton เพราะมีขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน
สตีเวน ชู ผู้อำนวยการฝ่ายขายระหว่างประเทศของ Proton กล่าวว่า การที่บริษัทฯ จะสามารถมุ่งสู่เป้าหมายยอดขายสูงสุดติดอันดับท็อป 3 ในอาเซียนได้นั้นจะต้องมาจากรากฐานที่แข็งแกร่งในประเทศไทยและอินโดนีเซีย
“ทั้งสองประเทศมีขนาดตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดแต่การแข่งขันก็ดุเดือดมากเช่นกัน เรากำลังดำเนินการเพื่อจับมือกับหุ้นส่วนในทั้งสองประเทศเพื่อสร้างเครือข่ายที่จะทำให้ธุรกิจของเรามีความแข็งแกร่งในระยะสั้น เป้าหมายการหวนคืนตลาดประเทศไทยคือภายในปี 2022” ชู กล่าวเพิ่มเติม
ถึงแม้ Proton จะไม่ยืนยันว่าจะส่งรถยนต์รุ่นใดที่ผลิตในมาเลเซียมาจำหน่ายในไทยบ้าง แต่คาดว่ารุ่นแรกจะเป็นรถเอสยูวี-ซี Proton X70 ที่จะแข่งขันในระดับเดียวกับ Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์-วี) Mazda CX-5 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-5) MG HS (เอ็มจี เอชเอส) และน้องใหม่ Haval H6 (ฮาวาล เอช6) โดยก่อนหน้านี้มีภาพสปายช็อตขณะวิ่งทดสอบสมรรถนะใจกลางกรุงเทพฯ แล้ว
นอกจากนี้ยังจะมีรถเอสยูวี-บีอย่าง X50 ตามมา ซึ่งเคยมีภาพสปายช็อตในเมืองไทยแล้วเช่นกัน ท่ามกลางกระแสข่าวว่า Proton ได้พัฒนาระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย Hi Proton เสร็จเรียบร้อยแล้ว
ข้อมูลทางเทคนิค X70
Proton X70 เป็นรถเอสยูวีขนาดคอมแพ็กต์ รูปลักษณ์ภายนอกเขย่ารวมความบึกบึน โฉบเฉี่ยว และหรูหราเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ความสวยงามอาจเป็นเรื่องต่างจิตต่างใจ ขณะที่การออกแบบตกแต่งภายใน เน้นความทันสมัย บนคอนโซลมีจอแสดงผลอินโฟเทนเมนท์ขนาด 8 นิ้ว รองรับการสั่งงานด้วยเสียง การสตรีมเพลง แสดงผลระบบนำทางเนวิเกชั่น การเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Bluetooth และอินเตอร์เน็ต 4G Wi-Fi พร้อมช่อง USB ทั้งหมด 6 ตำแหน่ง
เบาะและพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบขอบล่างตัดตรงหุ้มหนัง Nappa เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า และเบาะผู้ขับขี่มีฟังก์ชั่นนวดตัวติดตั้งมาให้ด้วย นอกจากนี้ยังมีระบบปรับอากาศอัตโนมัติดูอัลโซน ตัวท็อปอัดแน่นด้วยเครื่องเสียง Kenwood ลำโพง 9 ตำแหน่ง มาตรวัดดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว เบาะหลังพับแยกส่วน 60:40 มีช่องแอร์ด้านหลังพร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติและระบบฟอกอากาศ ตลอดจน Proton Link App สามารถตรวจเช็คสถานะของตัวรถ
X70 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Proton GPower เบนซิน 4 สูบ พ่วงเทอร์โบชาร์จ ขนาด 1.8 ลิตร จ่ายเชื้อเพลิงไดเรคอินเจคชั่น พละกำลัง 181 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 300 นิวตันเมตรที่ 1,750 – 4,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์ดูอัลคลัตช์ DCT ขับเคลื่อน 2 ล้อ มีโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ Normal, Eco และ Sport พร้อมแมนวลชิฟท์
อัตราเร่งของ X70 สามารถออกตัวจาก 0-100 กม.ต่อชม. ทำได้ที่ 9.5 วินาที มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง 13.2 กม.ต่อลิตร
ระบบความปลอดภัยของ X70 ครบครันพอตัว ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ได้แก่คู่หน้า ด้านข้าง และม่านนิรภัย ระบบเบรก ABS, EBD และ BA ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESC และป้องกันการลื่นไถล Traction control ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชันและควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน กล้องมองภาพ 360 องศาและเซ็นเซอร์ช่องจอดด้านหน้าและด้านหลัง
นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ทั้งระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบแจ้งเตือนการชนด้านหน้า ระบบล็อกความเร็วแปรผัน ระบบแจ้งเตือนออกจากช่องจราจร ระบบตรวจจับมุมอับสายตา ระบบแจ้งเตือนการเปิดประตูเมื่อมีรถด้านข้าง และระบบควบคุมไฟสูงอัจฉริยะ
Proton จำหน่าย X70 ทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ค่าตัวเริ่มต้นที่ 94,800 - 122,800 ริงกิตหรือประมาณ 712,000 – 923,000 บาทซึ่งถือว่าย่อมเยาอย่างมากจึงไม่น่าแปลกใจว่าจะประสบความสำเร็จในตลาดบ้านเกิด
ส่วนค่าตัวในบ้านเราจะเป็นเท่าไหร่ ต้องติดตามกันต่อไป แต่ถ้าเลี้ยงราคาให้อยู่ในระดับเดียวกับในมาเลเซีย หรือแพงกว่าเล็กน้อยได้ก็เชื่อว่าจะได้เสียงตอบรับจากลูกค้าในไทยเป็นอย่างดี