Mazda (มาสด้า) ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะใช้เครื่องยนต์โรตารี่เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขยายระยะทางขับเคลื่อนในรถพลังงานไฟฟ้าที่จะจำหน่ายในอนาคตอันใกล้
อากิระ มารุโมโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Mazda เป็นผู้ยืนยันข่าวนี้ด้วยตนเองระหว่างการให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Autoblog โดยเปิดเผยว่า การทดสอบสมรรถนะรถพลังงานไฟฟ้าที่ใช้เครื่องยนต์โรตารี่เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้านั้นจะมีขึ้นภายในช่วงต้นปีหน้า
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
ซีอีโอของ Mazda ยืนยันด้วยว่ารถยนต์ทุกรุ่นที่จะออกจำหน่ายภายในปี 2030 จะใช้ระบบขับเคลื่อนไฮบริดหรือพลังงานไฟฟ้าเท่านั้น โดยจะไม่มีการจำหน่ายรถเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบดั้งเดิมอีกต่อไป
ขุมพลังโรตารี่ปั่นไฟฟ้าทำงานเหมือนระบบ e-Power ของ Nissan
ก่อนหน้านี้ในปี 2018 ค่ายรถจากประเทศญี่ปุ่นรายนี้เคยพัฒนา Mazda 2 รุ่นต้นแบบที่ใช้พลังงานไฟฟ้าและมีเครื่องยนต์โรตารี่ขนาด 330 ซีซีทำหน้าที่ปั่นไฟฟ้ามาแล้ว ซึ่งสามารถขับเคลื่อนได้ไกลสูงสุด 380 กม. ขณะที่ Mazda 2 รุ่นพลังงานไฟฟ้าล้วน ๆ นั้นวิ่งได้ไกลเพียง 200 กม. ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง
สำหรับรถโปรดักชั่นรุ่นแรกที่จะใช้ระบบขยายระยะทางขับเคลื่อนนี้คือ Mazda MX-30 ซึ่งยังไม่มีการยืนยันกำหนดการเปิดตัวออกจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม แต่คาดว่าหลักการทำงานพื้นฐานของ Mazda จะคล้ายกับระบบ e-Power ใน Nissan Kicks เมื่อพลังงานไฟฟ้าในแบตเตอรี่หมดลง เครื่องยนต์จะเริ่มทำงานเพื่อป้อนกระแสไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่ที่ส่งต่อกระแสไฟฟ้าไปยังตัวมอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ
การยืนยันว่า MX-30 จะมีระบบขยายระยะทางขับเคลื่อนทำให้รถเอสยูวีรุ่นนี้มีถึง 3 ระบบให้ลูกค้าเลือกสรร ได้แก่รุ่นไฮบริด รุ่นขยายระยะทางขับเคลื่อน และรุ่นพลังงานไฟฟ้าล้วน ๆ
โดยรุ่นพลังงานไฟฟ้าล้วน ๆ ใช้ระบบขับเคลื่อนที่มีชื่อว่า e-Skyactiv ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว มีพละกำลังอยู่ที่ 141 แรงม้า และมีแรงบิด 264 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า แบตเตอรี่ขนาด 35.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งได้ระยะทางประมาณ 200 กม. ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง
ขณะที่ MX-30 รุ่นไมลด์ไฮบริดซึ่งเพิ่งเปิดตัวออกจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น สนนราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 2,420,000 – 3,393,500 เยน (ประมาณ 711,000 – 997,000 บาท) โดยมีการตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 12,000 คันต่อปี
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });