ตอนนี้รถยนต์อเนกประสงค์ถือว่าเป็นรถยนต์ที่กำลังมาแรงที่สุดก็ว่าได้ ด้วยความเป็นอเนกประสงค์ใช้งานได้หลากหลาย ทำให้ตอบโจทย์ใครหลายคน และแต่ละค่ายก็นำรถอเนกประสงค์ต่อสู้กันอย่างดุเดือด และคราวนี้ AutoFun ขอนำรุ่นท็อปของ 2 ค่ายอย่าง MG HS 2019 (เอ็มจี เฮชเอส) กับ Mazda CX-30 2019 (มาสด้า ซีเอ็กซ์ 30) มาเทียบกันให้เห็นกันว่าคันไหนโดนใจคุณมากกว่ากัน
ราคา
เริ่มกันที่ราคาของ MG HS 2019 มี 3 รุ่นให้เลือก ได้แก่ รุ่น C อยู่ที่ 919,000 บาท รุ่น D อยู่ที่ 1,019,000 บาท และรุ่นตัวท็อปอย่างรุ่น X อยู่ที่ 1,119,000 บาท
ส่วนทางด้าน Mazda CX-30 2019 ก็มีให้เลือก 3 รุ่นย่อยเช่นกัน ได้แก่ รุ่น 2.0 C อยู่ที่ 989,000 บาท รุ่น 2.0 S อยู่ที่ 1,099,000 บาท และรุ่นท็อปอย่าง 2.0 SP อยู่ที่ราคา 1,119,000 บาท
มิติตัวถัง
ตารางเปรียบเทียบ |
|
MG HS
|
Mazda CX-30
|
ความยาว (มม.)
|
4,574 |
4,395 |
ความกว้าง (มม.)
|
1,876 |
1,795 |
ความสูง (มม.)
|
1,664 |
1,540 |
ระยะฐานล้อ (มม.)
|
2,720 |
2,655 |
ระยะต่ำสุดจากพื้น (มม.)
|
145 |
175 |
น้ำหนักรถ (กก.)
|
1,510-1,570 |
1,412 |
ถังน้ำมัน (ลิตร)
|
55 |
51 |
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด (ม.)
|
5.95 |
5.3 |
ที่เก็บสัมภาระด้านท้าย
|
463 |
430 |
การออกแบบภายนอก
รูปทรงภายนอกของ MG HS ให้ความรู้สึกหรูหรา แต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของรถ SUV สไตล์ MG โดดเด่นด้วยเส้นสายตัวถังแบบ British Shoulder Line ที่ช่วยให้โค้งมนดูลงตัวในทุกมุมมอง กระจังหน้าเป็น Diamond Grille ช่วยทำให้หรูหรามากขึ้น MG HS ยังมาพร้อมไฟหน้าและไฟส่องสว่างกลางวัน ไฟท้ายเป็นแบบ Space Light Field กระจกมองข้างสามารถพับและปรับไฟฟ้าได้
ส่วนการออกแบบภายนอกของ Mazda CX-30 ดีไซน์ตามแนวคิด KODO ที่มาเรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความสง่างาม กระจังหน้าปรับเปลี่ยนใหม่ให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น ไฟหน้าเป็น led ที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ด้วยรูปทรงกระบอกภายในตัว ทำให้ดูสปอร์ตมากกว่าเดิม มีระบบเปิดปิดอัตโนมมัติ ไฟเลี้ยวเป็นแบบ LED ไฟท้ายและไฟตัดหมอกหลังของ Mazda CX-30 ก็เป็นแบบ LED ทำให้ Mazda CX-30 เป็นรถสปอร์ตโดดเด่นบนท้องถนน
สำหรับการออกแบบภายนอกของทั้ง MG HS และ Mazda CX-30 เรียกได้ว่าไม่มีใครยอมใคร การออกแบบดีไซน์นั้นมีความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละค่าย แฝงด้วยความแกร่งและโฉบเฉี่ยวทั้งคู่ ซึ่งแล้วแต่คนมองว่ารุ่นไหนจะสวยกว่ากัน
ดีไซน์ภายใน
การออกแบบภายใน MG HS ค่อนข้างกว้างขวาง ตกแต่งแบบสปอร์ตด้วยวัสดุซอฟท์ทัชสัมผัสได้ถึงความหรูหรา ด้านหน้าเบาะคู่ทำด้วยวัสดุหนัง การดีไซน์เบาะหนังสีดำตัดแดงทำให้ดูหรูขึ้น เบาะคนขับปรับได้ถึง 6 ทิศทาง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นก็ปรับได้ 4 ทิศทาง ทำให้การขับขี่ MG HS รู้สึกสบายเพราะได้ปรับให้เหมาะกับสรีระผู้ขับขี่ ส่วนด้านหลังสุดสามารถเก็บสัมภาระได้ถึง 463 ลิตรแต่เมื่อพับเบาะหลังจะสามารถเพิ่มพื้นที่ได้ถึง 1,287 ลิตร ทำให้ใช้งานได้หลากหลายขึ้น
การออกแบบภายในของ Mazda CX-30 เน้นคอนเซปต์ KODO ที่เรียบง่ายแต่หรูหรา มีความกว้างขึ้น สีภายในเป็นโทนสีน้ำตาลตัดดำ ทำให้มีความดุดันแต่แฝงด้วยความหรูหรา ภายในทำด้วยวัสดุคุณภาพสูง สัมผัสได้ถึงความนุ่มนวล เบาะของคนขับสามารถปรับไฟฟ้าได้ถึง 10 ทิศทาง ส่วนพวงมาลัยเป็นมัลติฟังกชั่น 3 ก้าน เสริมความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ประตูท้ายสามารถเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า ทำให้สะดวกในการใช้งาน
สำหรับการออกแบบภายในของ MG HS แสดงถึงความสปอร์ตได้อย่างดีเยี่ยม ดีไซน์ภายในก็ดูดีทั้งคู่ขึ้นกับความชอบ แต่สำหรับพื้นที่ใช้สอย MG HS ภายในจะกว้างขวางและมีพื้นที่ให้เก็บสัมภาระได้มากกว่า Mazda CX-30
สิ่งอำนวยความสะดวก
ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกที่ MG HS ติดตั้งมานั้นก็มีหน้าจอแสดงมาตรวัดขนาด 7 นิ้ว แบบ Interactive Multi - Function ที่แสดงข้อมูลการขับขี่ ความปลอดภัย ระบบนำทาง หน้าจอกลางขนาด 10 นิ้วเป็น Smart Touchscreen ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ในรุ่น D ขึ้นไปจะมีระบบ i-Smart ระบบสั่งการอัจฉริยะ ที่ทำให้การขับขี่ง่ายขึ้น ส่วนระบบแอร์ภายในรถก็เป็นแบบอัตโนมัติ Dual Zone พร้อมทั้งยังมีกุญแจ Smart Key และปุ่ม Push Start ให้ความสะดวกเมื่อขับขี่ ฝากระโปรงท้ายของ MG HS ก็ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าทำให้ง่ายในการใช้งาน
ส่วน Mazda CX-30 มาตรวัดความเร็วและแผงหน้าปัดจะเป็นรูปแบบดิจิตอลใช้งานง่าย สะดวกด้วยหน้าจอ TFT LCD ขนาด 7 นิ้วแสดงผลข้อมูลต่างๆ ครบครันและชัดเจน โดยอยู่ในลานสายตาของผู้ขับจึงไม่จำเป็นต้องละสายตาออกจากถนน ทำให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่มากยิ่งขึ้น ระบบปรับอากาศเป็นแบบ Dual Zone นอกจากนี้ภายใน Mazda CX-30 ยังมี Mazda Connect ที่จะใช้งานผ่านทาง Apple Car Play ได้อย่างสะดวก ที่แสดงผลผ่านหน้าจอสีขนาด 8.8 นิ้ว แบบ Center Display Wide Screen มีระบบ Center Command บนพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ที่ทำให้การควบคุมเป็นไปได้ง่าย
สิ่งอำนวยความสะดวกของทั้ง MG HS และ Mazda CX-30 นั้นขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่นว่าต้องการมากน้อยแค่ไหน หากเป็นรุ่นตัวท็อปของทั้งสองค่ายสิ่งอำนวยความสะดวกก็จะได้มากกว่า
ระบบความปลอดภัย
ระบบความปลอดภัยของทั้ง MG HS และ Mazda CX-30 ให้จัดเต็มทั้งคู่อยู่แล้ว ในด้าน MG HS โดดเด่นด้านโครงสร้างที่ออกแบบให้ค่อนข้างแข็งแรง ให้ระบบความปลอดภัยมาตรฐานครบครันในทุกรุ่น มีระบบเบรกมือไฟฟ้า ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ มีระบบความปลอดภัย Advance Synchronized Protection System อย่างระบบป้องกันล้อล็อก ระบบเสริมแรงเบรก ระบบกระจายแรงเบรก ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบควบคุมการเข้าโค้ง เป็นต้น สำหรับรุ่ตัวท็อปอย่าง MG HS รุ่น X นั้นจะมีเพิ่มระบบเตือนต่างๆเข้ามา เช่น ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน ระบบเตือนมุมอับสายตา เป็นต้น
ทางด้าน Mazda CX-30 นั้น ในทุกรุ่นก็ให้ระบบความปลอดภัยมาตรฐรนแบบจุดเต็มไม่ต่างจาก MG HS ทั้งระบบป้องกันล้อล็อก ระบบกระจายแรงเบรก ระบบเสริมแรงเบรก ระบบควบคุมการทรงตัว เป็นต้น และก็เช่นกันเมื่อเป็นรุ่นตัวท็อป 2.0 SP ของ Mazda CX-30 ก็มีระบบความปลอดภัยเพิ่มขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบเตือนมุมอับสายตา ระบบเบรกและหยุดอัตโนมัติขณะถอยหลัง เป็นต้น
สำหรับด้านความปลอดภัยของทั้ง MG HS และ Mazda CX-30 ก็ทำได้ดีไม่ต่างกัน ระบบความปลอดภัยมาตรฐานมีให้ครบครัน แต่เมื่อเป็นรุ่นตัวท็อปก็จะใส่เทคโนโลยีระบบความปลอดภัยมาให้มากขึ้นเยอะ ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละรุ่นตอบโจทย์การใช้งานมากน้อยแค่ไหน
สมรรถนะ
ด้าน MG HS มาด้วยเครื่องยนต์เบนซิน DOHC ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว Turbo TGI ระบบจ่ายน้ำมันเป็นแบบ Direct Injection ให้กำลังสูงสุด 162 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับเกียร์ Twin Clutch Sportronic Transmission 7 สปีด แต่ว่าการทำงานประสานระหว่างคันเร่งกับเกียร์ยังไม่ค่อยดี การตอบสนองเครื่องยนต์อาจมีปัญหาบ้างเวลาที่เข้าโค้ง จึงทำให้ยังรู้สึกว่าสมรรถนะยังไม่เต็มที่
ขณะที่ Mazda CX-30 เป็นเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv G ขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC และเลือกใช้เป็น Dual S-VT Electronic Direct Injection ที่ให้พละกำลังสูงสุดถึง 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร การขับขี่อัตราเร่งค่อนข้างดี ให้ความเร็วแบบสามารถขับได้เรื่อยๆตามน้ำหนักเท้า แต่ด้านระบบเบรกค่อนข้างเบา ทำให้ต้องทำความคุ้นเคยกับการขับขี่ Mazda CX-30 ชินสักพัก
สมรรถนะการขับขี่ของ MG HS ก็ถือว่าทำได้ระดับดีพอสมควร มีโหมดให้เลือก ระบบสั่งงานต่างๆ การเร่งเครื่อง เข้าโค้ง ก็ทำออกมาดี แค่อาจมีปัญหาเรื่องการตอบสนองบ้าง ส่วน Mazda CX-30 เครื่องยนต์ก็ให้อัตราเร่งดี ตอบสนองดีในทุกจังหวะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นกับการขับขี่ของแต่ละคนว่าคุ้นชินแบบไหนมากกว่ากัน
สรุป
ในด้านดีไซน์ สมรรถนะการขับขี่ สิ่งอำนวยความสะดวก ความปลอดภัย ก็ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานได้ดีพอสมควร ถือว่าเป็นหนึ่งในรถอเนกประสงค์ที่สามารถพาเดินทางทางได้ทุกที่ ส่วน Mazda CX-30 ดีไซน์จะเน้นไปที่คนรุ่นใหม่มากกว่า ที่ให้ความเท่ ความโดดเด่น และสามารถตอบโจทย์ได้อย่างครบครัน ทั้งยังมีเทคโนโลยีเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัย
เรียกได้ว่าทั้ง MG HS กับ Mazda CX-30 ก็มีจุดเด่นไม่น้อยไปกว่ากัน ขึ้นกับว่ารุ่นไหนตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากกว่า ซึ่ง AutoFun ขอแนะนำว่าไปสัมผัสตัวจริงที่โชว์รูมจะดีกว่า เพื่อจะได้รถที่ถูกใจ และตอบโจทย์การใช้งานของคุณจริงๆ