MG HS เอสยูวีที่สร้างกระแสขายดีชนะแบรนด์ญี่ปุ่นที่ทำตลาดมานาน ทำให้หลายสงสัยว่าทำไมมันขายดี บทความนี้จะจับรถที่ผ่านมือคนขับมาแล้ว 10,000 กว่ากม. เพื่อหาคำตอบว่ามีอะไรดี ระหว่างที่หาคำตอบไปก็ได้พบบางอย่างอยากให้ปรับปรุงด้วย เป็นข้อเสียที่ยี่ห้ออื่นไม่มีกัน ใครจะซื้อต้องทำใจรับให้ได้ดังนี้
คันเร่งตอบสนองช้า ในโหมดธรรมดา
การที่จำลองตัวเป็นคนขับแบบทั่วไป ก็ต้องใช้โหมด Normal ก่อน เพื่อให้เข้าใจกับธรรมชาติของรถคันนี้ แต่ยิ่งขับไปก็ยิ่งไม่เข้าใจธรรมชาติของคันเร่งรถรุ่นนี้ มันแตกต่างจากรถทุกรุ่นที่เคยสัมผัสมา เพราะให้การตอบสนองคันเร่งที่เชื่องช้า กดเท้าลงแป้นลึงลงครึ่งหนึ่ง ก็ยังไม่รู้สึกความเร่งทันทีตามเท้า ยิ่งโหมดประหยัด Eco นี่แล้วใหญ่ เมื่อกดคันเร่งลึกลงไป ยังมีการหน่วงเวลาประมาณ 1 วินาทีถึงจะเริ่มส่งแรงขับออกมา
ความช้าของคันเร่ง ก็ยังเป็นอยู่ในตอนถอนเท้าออกจากคันเร่งทันทีทันใด แล้วรถตัดกำลังเครื่องยนต์ได้ช้ากว่าจังหวะเท้า ทำให้รู้สึกว่ารถยังถูกเร่งค้างอยู่ 1 วินาทีหลังจากถอนเท้าออกจากคันเร่งไปแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายมาก ทั้งในจังหวะเร่งแซงบางครั้ง และจังหวะที่ต้องการชะลอรถทันที ดังนั้นในโหมดธรรมดานี้ต้องแก้ที่ตัวเราเอง ปรับตัวเหยียบแป้นนิดเดียว ค่อย ๆ กดไล่น้ำหนักเท้าลงแป้น และเมื่อเวลาแซงใคร ให้เผื่อจังหวะเร่งและเบรคล่วงหน้าไว้ด้วย
กินน้ำมันเป็นขนม
อัตราเฉลี่ย 9-10 กม./ลิตร ถือเป็นเรื่องปกติที่เราเจอ ในการขับบนถนนกรุงเทพช่วงชั่วโมงเร่งด่วน มีใช้งานบนทางด่วนบ้าง แต่ไม่มากพอจะฉุดค่าลงได้ แม้ว่าเราจะทำใจไว้แล้วว่าเป็นรถเอสยูวีต้องกินน้ำมัน แต่เมื่อเทียบกับเอสยูวีค่ายญี่ปุ่นอีกญี่ห้อหนึ่งที่ทีมงานใช้อยู่ ก็ยังพบว่ากินมากกว่าเล็กน้อย ดังนั้นจากที่ทำใจไว้แล้ว ก็ต้องทำใจเพิ่มอีกนิด ถ้าคิดจะคบกับรถอาตี๋รุ่นนี้
หน้าจอสัมผัสช้า
การใช้งานแบบคนทั่วไปที่ชอบแอร์เย็นเพลงเพราะ ก็ลองปรับแอร์และเครื่องเสียงดู พบว่าระบบอินโฟเทนเม้นท์ไม่ได้เปลี่ยนค่าให้เราทันทีที่นิ้วแตะจอ ความช้าของระบบนี้ มันช้าขนาดที่ว่า เราแตะและถอนนิ้วออกมาจากจอแล้ว เพิ่งจะเปลี่ยนเมนูต่าง ๆ เช่น เข้าโหมดเพลง เพิ่มแรงแอร์ หรือใช้นิ้วถ่างเพื่อซูมแผนที่ก็ทำได้กระตุกกว่าหน้าจอรถรุ่นอื่น ๆ ในระดับราคาล้านกว่าบาท
ประตูไฟฟ้าต้องใจเย็น ๆ
รถอเนกประสงค์ก็ต้องใช้ให้คุ้มค่า ด้วยการเปิดใช้ห้องสัมภาระ โดยหลังจากใช้นิ้วดันสวิตช์ฝาท้ายเบา ๆ ก็จะเกิดเดธแอร์ช่วงเวลาให้รถยนต์คิดได้ว่าควรจะยกฝาท้ายขึ้น แล้วมันถึงจะเปิดฝาท้ายขึ้นช้า ๆ อย่างผู้ดีอังกฤษ (ทั้งที่ผลิตในจีนแล้ว) ส่วนการปิดฝาท้ายลง แม้ทำได้เร็วขึ้นกว่าตอนเปิดนิดหน่อย แต่เมื่อเทียบกับคู่แข่งราคาล้านต้น ๆ เหมือนกันแล้ว ยังช้ากว่าอย่างเห็นได้ชัด หากใครใจร้อนก็ใช้มือปิดเอาเองได้เลย แต่ความทนทานของโช้คฝาท้ายก็เป็นไปตามแรงมือปิดด้วยนะ
มีเสียงเกียร์กึกกัก
แม้ขับด้วยโหมดปกติ Normal ก็ยังมีเสียงเกียร์ตอนเปลี่ยนดังกึกกักให้ได้ยิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้งานในเมืองที่ต้องมีทั้งเร่งและหยุดสลับกันบ่อย ๆ ทำให้คลัตช์คู่เกียร์ DCT นี้ต้องทำงานรัว ๆ ทั้งที่มีเลขไมล์แค่ 1 หมื่นกว่ากิโลเมตร ยังมีเสียงดังขึ้นมาได้ ถ้าหากบุคคลทั่วไปใช้งานแบบนี้จนถึง 1 แสนกม. จะหลวมและดังขนาดไหน ซึ่งเสียงดังนี้อาจจะไม่ได้ดังจนน่ารำคาญ แค่เปิดวิทยุเสียงค่อย ๆ ก็กลบได้หมดแล้ว
ขับสนุกต้องโหมด Super sport เท่านั้น
จากคนปกติ เรากลับมาเป็นนักทดสอบรถ ที่ต้องเค้นความสามารถอีกด้านของรถมาด้วย โดยกดปุ่ม Super Sport เข้าโหมดขับขี่จริงจัง นี่เป็นการกำจัดข้อเสียของคันเร่งหน่วงไปจนหมด แต่ได้ความกระชากเข้ามาแทน ขับในเมืองคงไม่เหมาะเช่นเดิม แต่ขับนอกเมืองแล้วสนุกมาก คันเร่งสั่งเทอร์โบสร้างแรงกระชากติดเบาะตามน้ำหนักเท้าได้ทันใจ เวลาถอนก็มีแรงหน่วงแบบเอนจิ้นเบรคชัดเจน เร่งแซงใครก็ใช้ช่วงสั้นลง ทำให้ไม่ต้องกะระยะยืดยาวให้อันตรายแบบรถอื่น ๆ ในระดับเดียวกัน
เกียร์ DCT ขับมันมาก
เกียร์คลัตช์คู่ในการขับนอกเมือง คือดีงามมาก เพราะมันเปลี่ยนเกียร์ได้ฉับไว ต่อเกียร์ได้แรงส่งไม่มีตก พร้อมใส่แป้น Paddle shift เข้ามาให้เล่นเกียร์เองก็ได้ โดยการขับนอกเมืองแบบนี้ ไม่มีเสียงคลัตช์เปลี่ยนฟันเฟืองดังกึกกักออกมาให้ได้ยินแต่อย่างใด เรียกว่า ยิ่งขับเร็ว ยิ่งดีต่อเกียร์ ลืมไปเลยว่ามันเป็นเครื่องและเกียร์ลูกเดียวกับที่เคยอยู่ใน MG GS มาก่อน
เกียร์ DCT ไม่เหมาะกับการขับในเมือง
ก็ยังยืนยันความคิดเดิมตั้งแต่ตอนได้ขับ MG GS ไปแล้วว่า เกียร์คลัตช์คู่ DCT แบบนี้ ไม่เหมาะกับการขับรถในเมือง เพราะมีการตัดต่อกำลังตะกุกตะกัก ที่เกิดจากลักษณะการขับในเมืองที่เร่งและเบรคติดต่อกัน เมื่อใช้ไปนาน ๆ จะเกิดความสึกหรอของคลัตช์ได้ง่ายกว่าการขับนอกเมือง หรือหากรถอยู่ในมือผู้ใช้ที่ไม่ถนอม ผ่านไปหลายหมื่นกม. จะมีโอกาสเสียไวกว่าเกียร์ออโต้แบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์
สิ่งที่อยากให้ปรับปรุง
หากมีรุ่นไมเนอร์เชนจ์เปิดตัวใหม่ อยากให้ปรับปรุงการตอบสนองตอนถอนคันเร่ง ให้ไม่มีความหน่วงเลยเฉพาะตอนถอนเท้าออกจากคันเร่งอย่างรวดเร็ว เพราะเมื่อคนขับต้องการชะลอความเร็วรถลง ไม่ว่าอยู่ในโหมดประหยัดหรือปกติ ก็ควรจะตัดกำลังเครื่องยนต์ทันทีตามเท้า เพื่อความปลอดภัย
คุณกัสคาดการณ์: ขายดีเพราะมีครบ
MG HS เป็นรถที่ตอบความคาดหวังของผู้บริโภคได้หลากหลายแนว ทั้งคนชอบทรงสวยหล่อ, คนที่ชอบกำลังแรง, ลูกค้าที่ชอบออพชั่นไฮเทค และคนที่รักความคุ้มค่า จ่ายน้อยได้ของเยอะ ไม่ว่าลูกค้าชอบแนวไหน เอ็มจีเอชเอสก็ปล่อยของออกมาดักคอลูกค้าไว้ได้หมด เพราะเหตุนี้ทำให้มันขายได้ และขายได้ดีด้วย
ตราบใดที่คนไทยยังใช้รถเพื่อภาพลักษณ์และหน้าตา MG HS ก็ยังขายดีต่อไป โดยลูกค้าหลายคนพร้อมที่จะเสี่ยงกับคุณภาพความทนทานในอนาคต แม้ว่าจะมีเสียงบ่นในโลกโซเชียลว่าคุณภาพระยะยาวไม่ดี และช่างแก้ปัญหาจบยาก ซึ่งจะจริงตามที่คอมเมนท์หรือไม่ นั่นเป็นสิ่งที่นักทดสอบรถพิสูจน์ไม่ได้ ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ยาว ๆ ไปโดยผู้ใช้ก่อนหน้านี้ครับ
อ่านสเปคและราคาของ MG HS ทุกรุ่นย่อยที่นี่