Maxus MIFA (แม็กซัส เอ็มไอเอฟเอ) รถแวนเอ็มพีวีรุ่นต้นแบบปรากฎโฉมครั้งแรกที่งานเซี่ยงไฮ้ มอเตอร์โชว์ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา มาพร้อมหน้าตาที่อยากให้ขายในเมืองไทยเร็ว ๆ
MIFA ถูกสร้างขึ้นเพื่อโชว์นวัตกรรมแพลตฟอร์มโมดูลาร์ Maxus Intelligent Flexible Architecture (MIFA) มีรายงานข่าวยืนยันแล้วว่ารถเอ็มพีวีรุ่นต้นแบบคันนี้จะถูกพัฒนาเป็นรุ่นโปรดักชั่นออกจำหน่ายจริงในประเทศจีนในเดือนพฤศจิกายนนี้แน่นอน
มีความเป็นไปได้ว่า MG (เอ็มจี) ซึ่งอยู่ในเครือ SAIC Motor ใต้ชายคาเดียวกับ Maxus อาจหยิบยืมตัวถังและแพลตฟอร์มนี้มาพัฒนารถเอ็มพีวีรุ่นใหม่เหมือนกับที่เคยยืม V80 (เอ็มจี วี80) ทำตลาดบ้านเรามาแล้ว โดยรูปลักษณ์แบบนี้สามารถแข่งขันกับ Toyota Majesty (โตโยต้า มาเจสตี้) ได้สบาย
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
ชมสเปกรถเอ็มพีวีไฟฟ้า Maxus MIFA
เมื่อดูจากรูปลักษณ์ภายนอก เห็นได้ชัดเจนว่าดีไซเนอร์ของ Maxus มุ่งเน้นที่ความล้ำสมัย โดยผสมผสานแนวคิด “แคปซูลยานอวกาศ” เข้ากับ “เสน่ห์แบบตะวันออก” กลายเป็นรถยนต์อเนกประสงค์หน้าตาโฉบเฉี่ยวหน้าจรดท้าย
ถึงแม้จะมีดีไซน์ล้ำอนาคต แต่สัดส่วนตัวถังของ MIFA ยังคงเป็นสไตล์แบบรถเอ็มพีวีดั้งเดิมด้วยหลังคาที่สูงและแบนราบเพื่อเพิ่มพื้นที่เหนือศรีษะ ส่วนเส้นสายเน้นความหวือหวาแต่แนบเนียน ด้านหน้ามีช่องดักอากาศทรงตั้งซึ่งเข้ากับดีไซน์ไฟท้ายที่ฉีกลงมาถึงกันชน
ตัวถังของ MIFA ใช้สีทูโทน ล้ออัลลอยรูปทรงใบพัด มือจับเปิดประตูซุกซ่อนหลบสายตา กระจกมองข้างใช้กล้องตรวจจับแทนกระจก รอบคันยังตกแต่งด้วยสีทองอร่ามหรู
ภายในห้องโดยสารล้ำยิ่งกว่า
หากคุณผู้อ่านคิดว่าหน้าตาภายนอกของ MIFA ล้ำสมัยแล้ว ลองชมห้องโดยสารที่มีการออกแบบสไตล์คอนเซปต์คาร์อย่างแท้จริง แผงแดชบอร์ดติดตั้งหน้าจอที่โค้งรับกับแนวประตู มีหน้าจอแบ่งออกเป็นสัดส่วนชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นมาตรวัดฟูลดิจิทัล อินโฟเทนเมนท์ส่วนกลาง และจอแสดงผลแทนกระจกมองข้างอีก 2 ตัว
การตกแต่งภายในห้องโดยสารใช้สีทองเช่นเดียวกับภายนอก สลับกับสีฟ้าที่แสดงถึงการใช้ระบบขับเคลื่อนพลังงานทางเลือก พวงมาลัยเหมือนหลุดมาจากรถแข่งฟอร์มูล่าวัน เบาะนั่งดีไซน์ล้ำ ๆ ไม่ต่างจากภาพยนตร์ไซไฟ
ที่น่าสนใจก็คือเบาะตอนหน้าข้างผู้ขับขี่ถูกออกแบบให้เป็นเหมือนเก้าอี้ออตโตมันสำหรับให้ผู้ขับขี่เบาะหลังวางเท้าได้อย่างสะดวกสบาย โดยเบาะตอนหลังเป็นแบบแยกส่วนเหมือนที่นั่งบนเครื่องบิน
ระบบขับเคลื่อนสุดแรง
MIFA ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่เพลาหน้าและหลัง รีดพละกำลังสูงสุดถึง 680 แรงม้า แรงบิดมหาศาล 900 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม. ใน 3.8 วินาที เรียกว่าเปลี่ยนโลกของรถเอ็มพีวีดั้งเดิมไปอย่างสิ้นเชิง
มอเตอร์ไฟฟ้าดึงพลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียม Maxus ไม่ได้ระบุขนาดแบตเตอรี่แต่ยืนยันมีระยะทางขับเคลื่อนได้ไกล 600 กม.ต่อการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง และในอนาคตเมื่อติดตั้งแบตเตอรี่โซลิดสเตทจะสามารถโลดแล่นได้ไกล 800 กม.ต่อการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง
Maxus ระบุด้วยว่า MIFA มีศักยภาพรองรับระบบขับขี่อัตโนมัติขั้นสูง นั่นจึงเป็นที่มาของการออกแบบห้องโดยสารที่เหมือนห้องนั่งเล่น
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });