Kia (เกีย) ที่ทำตลาดในประเทศไทยมาอย่างไม่คึกคักมากนัก แม้จะได้กระแส Kia Carnival (เกีย คาร์นิวัล) รุ่นใหม่ไปมากพอสมควร อาจจะกลับมาสยายปีกได้อีกครั้งในอนาคต หลังการเปิดสายการผลิตรถของเกียในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นความร่วมมือกันพันธมิตรรายใหม่
ก่อนหน้านี้ รถยนต์ที่ทำตลาดในประเทศไทย เป็นการนำเข้าจากประเทศเกาหลีเกือบทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถทำให้ราคาจำหน่ายแข่งขันได้มากนัก เห็นได้จากราคาของแกรนด์ คาร์นิวัลและคาร์นิวัล ที่พุ่งขึ้นไปแตะ 2 ล้านบาท เป็นผลพวงจากภาษีนำเข้าอัตราสูงของประเทศไทย
แม้พวกเขาจะแก้เกมด้วยการนำเข้าแกรนด์ คาร์นิวัล รุ่นล่างสุดเข้ามาจากประเทศเวียดนาม ทำให้สามารถทำราคาจำหน่ายได้ที่ล้านต้น ๆ แต่ในรุ่นปัจจุบัน ก็ยังไม่มีรถใหม่จากเวียดนามมาทำตลาด และเวียดนามเองก็เน้นการผลิตพวงมาลัยซ้ายเป็นหลัก ทำให้ไม่สนับสนุนไทยเท่าใดนัก
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
ทำไมโรงงานที่มาเลเซียถึงดูดีกว่าที่อื่น
นอกจากโรงงานในเกาหลีใต้นั้น เกียยังมีโรงงานประกอบรถยนต์อีก 2 แห่งใกล้ ๆ บ้านเรา ประกอบไปด้วย โรงงานที่อินเดีย ซึ่งเกียถือหุ้นทั้งหมด แต่อินเดียไม่ได้มีข้อตกลงด้านการส่งออกรถยนต์กับไทย ขณะที่โรงงานเวียดนามเป็นลักษณะของการประกอบเพื่อตลาดในประเทศเป็นหลัก
เมื่อเกียไม่ได้ถือหุ้นในโรงงานที่เวียดนาม พวกเขาจึงเบนเข็มการลงทุนมาที่ตลาดอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียน และก็ประสบจังหวะดีเมื่อมีการเปลี่ยนดิสทริบิวเตอร์ของเกียในมาเลเซียพอดี การจับมือกับเบอร์มาซ ออโต้ก่อตั้งเกีย มาเลเซีย ขึ้นมาเพื่อทำการผลิตรถยนต์ในภูมิภาคนี้อย่างเป็นทางการ
เกียระบุว่าโรงงานแห่งใหม่ของพวกเขาในมาเลเซีย จะเป็นฐานการผลิตสำหรับการผลิตระดับภูมิภาค และถือเป็นโรงงานที่เป็นการจับมือกับพันธมิตรแห่งแรกในเอเชียนอกเหนือจากโรงงานในประเทศจีน ซึ่งในโรงงานแห่งนี้ เกีย มอเตอร์ จะถือหุ้นมากถึง 66.7% และเบอร์มาซจะถืออยู่ 33.3%
จะมีรถอะไรผลิตที่โรงงานแห่งนี้บ้าง
มีรายงานยืนยันว่าโรงงานที่มาเลเซียนั้นจะทำการผลิตรถ 3 รุ่นด้วยการในช่วงเริ่มต้น โดยหนึ่งในนั้นก็คือ Kia Carnival ซึ่งหากมีการผลิตจริงก็น่าจะมีการส่งออกในภูมิภาคนี้ รวมไปถึงประเทศไทย ที่จะทำให้รถคันนี้มีราคาน่าใช้งานมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเป็นรุ่นตัดออพชั่นทิ้งไปเกือบทั้งคัน
นอกจากนี้ ก็จะทำการผลิตครอสโอเวอร์ 7 ที่นั่งอย่าง Kia Seltos (เกีย เซลทอส) ที่มียอดจำหน่ายเติบโตอย่างมากในหลายตลาด อาทิ ในเวียดนามที่สามารถเอาชนะ Honda HR-V (ฮอนด้า เอชอาร์-วี) ได้มากถึง 5 เท่าตัวในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ก็น่าจะเป็นอีกสินค้าที่อาจจะส่งออกได้ทั้งภูมิภาค
ขณะที่สินค้ารุ่นที่ 3 นั้นยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดออกมาว่าจะเป็นรุ่นใด แต่ยืนยันแล้วว่าจะเป็นเอสยูวีอย่างแน่นอน ซึ่งตัวเลือกนั้น ก็อาจจะเป็นคอมแพคท์ เอสยูวีอย่าง Kia Sportage (เกีย สปอร์ตเทจ) หรือรุ่นใหญ่อย่าง Kia Sorento (เกีย โซเรนโต้) ก็สามาถเป็นไปได้ทั้งสิ้น
ดูเหมือนเกียจะเริ่มเอาจริงกับภูมิภาคอาเซียน
การจับมือกับเบอร์มาซในมาเลเซียอาจจะเป็นสัญญาณที่ดีว่าเกียเองเริ่มมองเห็นปัญหาในภูมิภาคนี้ และต้องการเข้ามาแก้ไขทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องปัญหาในประเทศมาเลเซียที่เกิดจากดิสทริบิวเตอร์รายเดิม หรือยอดจำหน่ายในหลาย ๆ ตลาดที่ยังไม่เติบโต จากผลกระทบหลาย ๆ เรื่องที่ผ่านมา
การเปิดโรงงานในมาเลเซียนั้น เป็นการยืนยันได้คร่าว ๆ ว่าพวกเขาพร้อมที่จะบุกตลาดอินโดนีเซียมากขึ้น ซึ่งเซลทอสน่าจะเป็นสินค้าหลักสำหรับตลาดที่ต้องการรถยนต์ 7 ที่นั่งขนาดเล็ก ขณะที่ประเทศไทยเอง ก็อาจจะได้ประโยชน์จากการที่มีสินค้าใหม่ ๆ เข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้นด้วยราคาที่เหมาะสม
สิ่งที่น่าติดตามอีกอย่างก็คือ เมื่อเกียเข้ามาเดินหน้าทำตลาดอย่างจริงจังและเริ่มด้วยการปรับดิสทริบิวเตอร์ในประเทศแรกไปแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในประเทศอื่น ๆ ตามมาหรือไม่ และอนาคตของเกียในประเทศไทย ภายใต้ยนตรกิจเกียมอเตอร์จะเดินหน้าต่อไปอย่างนี้หรือเปล่า ต้องมาติดตามกันให้ดี
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });