Isuzu (อีซูซุ) ผู้นำตลาดรถยนต์รวมในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คาดการณ์ยอดจำหน่ายรถกระบะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีเทศกาลสงกรานต์เป็นตัวผลักดัน ชี้ลูกค้าอยากขับรถใหม่กลับบ้านช่วงเทศกาล มั่นใจตลาดโต 9-10% หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย
ปนัดดา เจณณวาสิน กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เปิดเผยว่าสถานการณ์ด้านยอดจำหน่ายในปัจจุบันเริ่มปรับตัวดีขึ้น หลังจากการผ่อนคลายการควบคุมการจัดกิจกรรมอย่างเข้มงวดในช่วงของการระบาดระลอกใหม่ เมื่อเดือนธันวาคม 2563
ทั้งนี้ เมื่อเกิดการแพร่ระบาด ทำให้บริษัทไม่สามารถจัดกิจกรรมแบบออฟไลน์เพื่อพบปะกับลูกค้าได้ จึงมียอดจำหน่ายที่ลดลงในช่วงปลายปีที่ผ่านมา และเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นในช่วงต้นปี ประกอบกับเริ่มมีวัคซีนเข้ามา ทำให้ยอดจำหน่ายของอีซูซุเริ่มปรับตัวดีขึ้น
โดยมองว่า อีซูซุนั้นมีข้อได้เปรียบในเรื่องของผลิตภัณฑ์ที่มีการเปิดตัวมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Isuzu D-Max (อีซูซุ ดีแมคซ์) ที่มีการเพิ่มรุ่นใหม่ ๆ มาตลอดทั้งปี รวมถึงการเปิดตัว Isuzu MU-X (อีซูซุ มิว-เอ็กซ์) ในช่วงปลายปี 2563 ที่ผ่านมา ทำให้มีสินค้าครอบคลุมทั้งหมด
"นอกจากนี้ ในช่วงนี้ยังมีปัจจัยบวกในเรื่องของเทศกาลสงกรานต์ที่เป็นฤดูกาลจำหน่ายรถปิกอัพ เพราะคนที่กลับต่างจังหวัดก็ต้องการขับรถใหม่ไปอวดคนที่บ้าน ซึ่งปีที่ผ่านมาเป็นช่วงล็อกดาวน์ อีกทั้งการจัดงานมอเตอร์โชว์ ก็มีส่วนช่วยกระตุ้นการขายในช่วงนี้เช่นเดียวกัน"
ชูความคุ้มค่าเงินสูงสุดนำตลาดเข้าถึงความต้องการลูกค้า
ปนัดดากล่าวต่อว่า สิ่งที่ทำให้อีซูซุเติบโตมาโดยตลอด และถือเป็นจุดแข็งของบริษัท ก็คือปัจจัยเรื่องความคุ้มค่าเงินสูงสุดในความคิดเห็นของลูกค้า ซึ่งมาจากองค์ประกอบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของตัวรถ อัตราการประหยัดน้ำมัน ราคาขายต่อ และเครือข่ายศูนย์บริการที่ดีมาก
รวมไปถึงข้อได้เปรียบของรถปิกอัพที่เป็นสินค้าหลักที่บริษัททำตลาดอยู่ เนื่องจากเป็นรถเอนกประสงค์ที่สามารถใช้ทำงานได้และใช้งานส่วนตัวได้ ทำให้เชื่อว่าโมเมนตัมของตลาดจะยังเติบโตแบบนี้อยู่ และการที่ลูกค้าต้องเลือกซื้อรถในภาวะที่ยากลำบาก จึงต้องการสินค้าที่มีความคุ้มค่า
อย่างไรก็ตาม ปีนี้เป็นปีที่ยังยากต่อการคาดการณ์สถานการณ์ตลาดรถยนต์อยู่ เนื่องจากมีปัจจัยที่ยังไม่แน่นอนอยู่เยอะมาก โดยเฉพาะเรื่องของสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในประเทศและทั่วโลก ถ้าคลี่คลายเร็ว เศรษฐกิจก็จะกลับมาไวทั้งการส่งออกและการท่องเที่ยว ที่ส่งผลดีกับอุตสาหกรรมยานยนต์
คาดการณ์ตลาดปีนี้โต 9-10% ทะลุ 8.6 แสนคัน
สำหรับภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ มียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 114,506 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่่ผ่านมา 18.2% อย่างไรก็ตาม อีซูซุประเมินว่า ตลาดรวมในปีนี้ น่าจะกลับมาเติบโตได้ที่ 9-10% หรือมียอดจำหน่าย 8.6-8.7 แสนคันอย่างแน่นอน
"ตัวเลขดังกล่าวประเมินจากสถานการณ์กลาง ๆ ที่หากรักษาระดับนี้เอาไว้ได้ก็ป็นเรื่องที่ดีแล้ว แต่หากสถานการณ์ดีขึ้นกว่านี้ ยอดขายรถยนต์ก็อาจจะเติบโตตามไปเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเรื่องของไฟแนนซ์ว่าจะเข้มงวดกับการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ในปีนี้ขนาดไหนอีกด้วย"
สำหรับในช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมา อีซูซุมียอดจำหน่ายรถปิกอัพรวม 26,313 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 50.4% มียอดจำหน่ายพีพีวี 3,285 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 36.1% และมียอดจำหน่ายรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่จำนวน 2,127 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 45.4%
ด้วยยอดจำหน่ายรวม 31,725 คัน ทำให้อีซูซุอยู่ในฐานะผู้นำตลาดรถยนต์รวมและผู้นำตลาดรถปิกอัพในช่วงต้นปี และเชื่อว่าความนิยมของรถทุกรุ่นของบริษัทจะแรงต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน เนื่องจากลูกค้ายังรอคอยรถอยู่ แต่ก็ไม่ประมาท เพราะยังมีปัจจัยที่ไม่แน่นอนอยู่
ทั้งนี้ ปนัดดาระบุว่า เป้าหมายของอีซูซุในปีนี้ ต้องการที่จะรักษาเป้าหมายการจำหน่ายเอาไว้ให้ได้เท่ากับปีที่ผ่านมา ที่มียอดขายรวม 181,194 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 22.9% ของตลาดรถยนต์รวม หรือ 44% ของตลาดรถปิกอัพ พีพีวีมีส่วนแบ่งตลาด 18.3% และรถบรรทุกขนาดกลาง-ใหญ่ 50%