GolF ก็ว่า... กฎจราจรทุกอย่างตั้งกันมาได้ ผู้พิทักษ์กฎก็ช่วยเข้มงวดกับกฎกันด้วยนะ

ช่วงนี้เริ่มมีกระแสข่าวเรื่องที่เกี่ยวข้องกับมาตรการและกฎหมายข้อบังคับด้านการจราจรออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบังคับห้ามจอดรถในซอยเพิ่มเติม หรือการที่ผบ.ตร.คนใหม่ออกมาประกาศยกเลิกการตั้งด่านทั่วประเทศ แล้วหันมาใช้กล้องวงจรปิดทำหน้าที่แทนในหลายพื้นที่

เรียกเสียงฮือฮาจากบรรดาผู้ใช้รถใช้ถนนกันโดยถ้วนหน้า โดยเสียงที่สะท้อนมาจะวน ๆ กันอยู่แค่ 2 เรื่องเท่านั้น ประกอบไปด้วย หนึ่ง ดีใจจัง ทำเสียที ทำที่นี่เพิ่มหน่อย และ สอง จะทำได้หรือ เอื้ออะไรใครอีกหรือเปล่า ซึ่งดูเหมือนเสียงสองนั้นจะดังมากกว่าอยู่เล็กน้อยในสังคมประเทศไทย

การที่มีคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้กันค่อนข้างมากนั้น ย่อมสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ดั้งเดิมของผู้ประกาศกฎเหล่านี้ได้ในระดับหนึ่ง และที่เราจะกล่าวถึงก็คือ อยากให้เจ้าหน้าที่ผู้พิทักษณ์ ที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า ตำรวจ นั้น มีความจริงจังและมุ่งมั่นกับกฎที่ประกาศออกมาทั้งหมดด้วย

ล้างภาพลักษณ์ไม่ดี สู่องค์กรมืออาชีพ

การประกาศยกเลิกการตั้งด่านก็ดี หรือการประกาศห้ามรถจอดตามสถานที่ต่าง ๆ ก็ดี ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการประกาศใช้อย่างชัดเจน และทุกครั้งก็มักจะถูกตั้งคำถามมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเปิดช่องทางให้จัดการผู้ทำผิดกฎหมายได้มากขึ้นหรือไม่ หรือจะเป็นช่องทางในการหารายได้ให้มากกว่าเดิม

แยกกันทีละเรื่อง การตั้งด่านของเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ในหลาย ๆ ครั้งนั้น ถูกมองว่าเป็นช่องทางที่ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถกวดขันเข้มงวดกับผู้ใช้รถใช้ถนนได้ง่ายขึ้น และมักจะนำไปสู่การจับผู้กระทำผิดกฎหมายที่มากขึ้นเช่นกัน แม้จะก่อให้เกิดปัญหาทางการจราจรติดขัดในหลายพื้นที่และช่วงเวลาก็ตาม

คำถามก็คือ กระแสที่ออกมาหลายต่อหลายครั้งนั้น ผู้กระทำผิดหลายรายก็เลือกที่จะใช้วิธีการเคลียร์ที่ด่าน ซึ่งก็เป็นความสามารถในการเจรจาของผู้กระทำผิดแต่ละราย เมื่อมีการประกาศยกเลิกตั้งด่านและหันมาใช้กล้องวงจรปิดจัดการแทน ก็จะทำให้เกิดการกวดขันด้วยมาตรการที่แตกต่างกันออกไป

เมื่อมีผู้กระทำผิดแล้วถูกจับได้ นำไปสู่การออกใบสั่งอย่างเป็นทางการ เพื่อให้นำไปเสียค่าปรับที่สถานีตำรวจ แน่นอนว่าตัดปัญหาในเรื่องการจราจรติดขัดไปได้ และยังทำให้วงจรของการชำระค่าปรับเป็นไปอย่างถูกต้อง ไม่เกิดการต่อรอง ส่งผลดีให้สามารถเก็บเงินเข้าภาครัฐได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

ในสายตาของผู้ขับขี่นั้น แม้จะเห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว แต่หลาย ๆ คนก็มีประสบการณ์ด่านลอยที่ตั้งขึ้นมา แม้ว่าจะมีประกาศห้ามตั้งแล้วก็ตามในอดีต หรืออาจจะวิตกว่าจะทำให้พวกเขาเสียเงินค่าปรับมากขึ้น โดยลืมคิดไปว่าถ้าพวกเขาไม่ทำอะไรผิดกฎหมายเสียอย่าง ใครจะไปทำอะไรพวกเขาได้

หรืออย่างข่าวคราวเรื่องการประกาศห้ามจอดรถเพิ่มในตรอกซอยต่าง ๆ ตามที่กำหนดก็เหมือนกัน มีหลาย ๆ คนเรียกร้องให้เพิ่มความเข้มงวดในตรอกซอยต่าง ๆ มากขึ้นไปอีก ซึ่งก็ต้องเป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ในการตัดสินใจว่าจะมีการขยายเขตความเข้มงวดในเรื่องนี้ออกไปอีกหรือไม่ในอนาคต

ทั้งหมดนี้ จะเห็นความพยายามในการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะทำให้ภาพลักษณ์ขององค์กรนั้นมีความเป็นมืออาชีพ โปร่งใสและยุติธรรมมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ก็ขึ้นกับการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานต่าง ๆ ว่าจะทำให้ภาพดังกล่าวมีความชัดเจนขึ้นมาหรือไม่ หรือจะไม่แตกต่างจากเดิม

กฎหมายหลายตัวยังล้าหลัง ควรปรับหรือไม่

หนึ่งในปัญหาที่หลาย ๆ คนคิดค่อนข้างตรงกันก็คือ กฎหมายหลาย ๆ ตัวในประเทศไทยนั้นถือว่าล้าหลัง เนื่องจากเป็นกฎหมายเก่าที่ออกมานานและใช้มาแบบไม่ปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับยุคสมัย ทั้งที่เทคโนโลยีต่าง ๆ นั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย ทั้งเรื่องของรถยนต์เองหรือถนนหนทาง

หนึ่งในเรื่องที่ถกเถียงกันมาหลายปีก็คือเรื่องข้อจำกัดทางด้านความเร็วในการใช้รถใช้ถนน ที่เคยมีกระแสข่าวว่าอยากจะปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน แต่ก็เงียบหายไป ทำไมเมื่อถนนดีขึ้น กว้างขึ้น และรถมีสมรรถนะและความปลอดภัยที่สูงขึ้น แต่เรายังใช้ความเร็วดั้งเดิมอยู่

จริง ๆ กฎหมายจราจรและข้อกำหนดของกรมการขนส่งทางบกที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์นั้น มีหลายข้อมาก ๆ ที่เก่าแก่จนควรจะปรับเปลี่ยนกันได้แล้ว แต่ก็ยังใช้งานกันอยู่ และหลาย ๆ ครั้งที่เราโดนจับ ก็ได้แต่กุมขมับปลง ๆ ไปกับข้อกฎหมายนั้น ๆ แล้วก็ถามกันล่ะว่าเมื่อไหร่จะเปลี่ยนนะ

คำถามยอดฮิต ตำรวจกับขนส่งเชื่อมกันหรือยัง

เป็นคำถามยอดฮิตที่ถูกถามขึ้นมาบ่อยมากถึงการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกรมการขนส่งทางบกและตำรวจ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย เพื่อให้เจ้าของรถคันที่ทำผิดไม่สามารถหลีกเลี่ยงการชำระค่าปรับตามความผิดที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งมีคนถามบ่อยมาก ว่าตกลงนั้นเชื่อมกันหรือไม่

เพราะตามหลักการแล้ว หากตำรวจสามารถจับผู้กระทำผิดได้จากกล้องวงจรปิด แล้วส่งจดหมายไปยังบ้านของผู้กระทำผิด พร้อมแจ้งให้ไปจ่ายค่าปรับ หากผู้กระทำผิดไม่ยอมไปชำระค่าปรับ เมื่อพวกเขาต้องไปต่อทะเบียนรถ กรมการขนส่งทางบกควรจะเป็นผู้จัดการเรื่องนี้ให้ที่ปลายทาง

แต่เอาจริง ๆ แม้จะมีข่าวออกมาจริงจังว่าพวกเขาทำการเชื่อมโยงข้อมูลนี้เข้าถึงกันเสียทีในช่วงที่ผ่านมา หลังจากคุยกันไปคนละทางมาหลายปี แต่กรมการขนส่งทางบกเองก็ออกช่องทางการต่อทะเบียนรถยนต์ออกมาหลากหลายมาก และหลายช่องทางก็ทำให้ผู้กระทำผิดหลบเลี่ยงไปได้อยู่ดี

เพราะฉะนั้นก็กลับไปที่หัวข้อด้านบนที่เราว่าไว้ กฎทุกอย่างสามารถออกมาได้หมดอยู่แล้ว เพียงแต่เจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จะต้องมีความเข้มงวดในการดูแล รักษาและบังคับใช้กฎเหล่านี้อย่างจริงจัง เพราะหากไม่จริงจังแล้ว กฎหมายเหล่านี้ก็จะถูกละเลยและผู้กระทำผิดก็ไม่สนใจอยู่ดี

ต้องบอกว่าผู้ใช้รถใช้ถนนในประเทศไทยเองก็เจ้าเล่ห์ไม่ใช่เล่นเหมือนกัน เพราะฉะนั้นการหาข้ออ้างหลีกเลี่ยงกฎหมายนั้นเป็นความสามารถพิเศษของพวกเขาอยู่แล้ว การทำให้กฎหมายรัดกุม ผู้ใช้งานมีความชำนาญและเชี่ยวชาญ รวมถึงมีความยุติธรรมในการใช้กฎหมายจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก

GolF ก็ว่า... อยากให้ทุกคนเคารพกฎหมายล่ะ

ไม่ว่ากฎหมายจะเก่าแก่ ล้าสมัยหรือไม่น่าเชื่อถือในความคิดของเรา แต่อย่าลืมว่า กฎหมายก็คือหลักกลางที่ทุกคนจะต้องรู้จัก ยอมรับและปรับไปใช้ในทุกยุคทุกสมัย อยู่ดีดี เราจะบอกว่าเราไม่เห็นด้วยกับการกำหนดความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะออกไปขับ 160 แล้วบอกว่าไม่ได้ทำผิดก็คงไม่ได้

กฎหมายนั้นจะต้องรวมความสามารถของผู้บังคับใช้เข้าไปด้วย หลาย ๆ ทีที่เราโดนจับ แล้วพอคุยเรื่องกฎหมายกัน บางทีเราก็รู้สึกว่าเจ้าหน้าที่อาจจะไม่ได้แม่นยำในเรื่องการบังคับใช้ อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นในการบังคับใช้กฎหมายอย่างมากมาย ด้วยมาตรฐานที่แตกต่างกันไปเสียด้วยนะ

ไม่ว่าคุณจะขับรถยี่ห้ออะไร อีโคคาร์หรือซูเปอร์คาร์ คุณก็อยากให้เจ้าหน้าที่มีความยุติธรรมเหมือนกันใช่ไหมล่ะ เพราะฉะนั้นก็อย่าไปหงุดหงิดเวลาเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบ และก็หวังว่าจะเจอเจ้าหน้าที่ที่ดี มีความยุติธรรม ไม่ทำให้ต้องหงุดหงิดใจ ใช้กฎหมายเป็นหลักในการคุย แค่นี้ก็น่าจะดีละล่ะ...