2020 Suzuki XL7 (ซูซูกิ เอ็กซ์แอล7) ผู้ท้าชิงรายล่าสุดในจักรวาลมินิ เอ็มพีวี ยกสูง ที่มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นพื้นฐานอย่าง Suzuki Ertiga (ซูซูกิ เออร์ทิก้า) ที่น่าสนใจหลายประการ แถมด้วยการทำราคาจำหน่ายที่น่าสนใจเพียง 7.79 แสนบาท ถูกกว่าคู่แข่งในท้องตลาดโดยตรงทุกราย ยิ่งทำให้รถคันนี้มีจุดขายหลายหลากเพิ่มขึ้น
การปรับโฉมหน้าไปแบบแทบจะเป็นคนละคัน ทำให้รถมีความสปอร์ตดุดัน ให้ความรู้สึกสมบุกสมบันมากขึ้น ขณะที่ห้องโดยสารก็ได้รับการออกแบบใหม่ให้ดูสปอร์ตและน่าใช้งานขึ้นด้วยการตกแต่งในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ พร้อมความเอนกประสงค์ภายในที่มีมาอยู่แล้ว ก็ทำให้ตัวรถนั้นสามารถตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายได้ไม่ยาก
AutoFun ใช้ชีวิตอยู่กับซูซูกิ เอ็กซ์แอล7 ครบ 1 สัปดาห์พอดี โดยได้มีโอกาสทั้งใช้งานในเมืองและออกไปต่างจังหวัดในทริปสั้น ๆ พร้อมผู้โดยสารและสัมภาระเต็มพิกัด ยืนยันว่าสมาชิกในครอบครัวนั้นชอบรถคันนี้มากกว่า ด้วยตำแหน่งการขึ้นลงรถที่เหมาะสม เบาะที่นั่งที่ปรับได้ง่ายดาย แถมด้วยระบบปรับอากาศเย็นฉ่ำใช้งานกลางอากาศร้อนได้สบาย
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีจุดอ่อนเสียเลย ถ้าอยากรู้จักรถคันนี้เพิ่มขึ้นเพื่อประกอบการตัดสินใจ เลื่อนลงมาอ่านกันได้เลย
Suzuki XL7 ราคาจำหน่ายพิเศษพร้อมดอกเบี้ยสุดเร้าใจ
2020 Suzuki XL7 มาพร้อมราคาจำหน่ายพิเศษในช่วงเปิดตัวที่ 7.79 แสนบาท พร้อมอัตราดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้นเพียง 1.89% เพื่อเอาใจผู้บริโภคให้สามารถจับจองเป็นเจ้าของรถคันนี้ได้ง่ายขึ้น
2020 Suzuki XL7 (ซูซูกิ เอ็กซ์แอล7) พลิกโฉมภายนอกรถเป็นคนละคัน
การเปลี่ยนแปลงของรถคันนี้นั้น หากบอกว่าเป็นการพลิกโฉมหน้าแบบแทบจะเป็นคนละคันกันก็คงไม่ผิด เพราะทีมงานของซูซูกินั้น ทำการยกครึ่งหน้าของเออร์ทิก้าออก แล้ว ออกแบบท่อนหน้าของรถคันนี้เสียใหม่ ทำให้ได้รถที่หน้าตามีความสปอร์ต ดุดัน พร้อมทั้งดูลงตัวในรูปแบบของรถเอนกประสงค์ยกสูง แตกต่างจากแฝดน้องอย่างเห็นได้ชัด
การออกแบบครึ่งหน้าใหม่นี้ ทำให้มิติตัวถังของรถคันนี้ถูกขยายออกไปเช่นเดียวกัน โดยมาพร้อมความกว้าง 1,775 มิลลิเมตร ยาว 4,450 มิลลิเมตร สูง 1,710 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,740 มิลลิเตร ออกแบบให้รถมีความคล่องตัวด้วยระยะห่างจากพื้นถึงตัวรถที่เพิ่มเป็น 200 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นความสูงที่มีความเหมาะสมในการก้าวเข้า-ออกจากห้องโดยสาร
แพลตฟอร์มในการออกแบบยังเป็นแพลตฟอร์มฮาร์ทเทคที่ใช้มาตั้งแต่ Suzuki Swift และเออร์ทิก้า แถมยังพ่วงด้วยเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลังและช่วงล่างแบบเดียวกันมาทั้งหมด แต่การออกแบบนั้น เน้นการทำงานในแบบฉบับของรถครอสโอเวอร์ ด้วยการเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ รวมถึงการลดแรงเสียดทานจากแรงลมได้มากขึ้นด้วย
การออกแบบภายนอกตัวรถเน้นเพิ่มความสปอร์ตแบบพรีเมียม ด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีดำผสมโครเมียม ดูลงตัวกับชุดไฟหน้าแบบแอลอีดีที่ปรับระดับองศาของไฟต่ำได้ พร้อม Daytime Running Light สว่างชัดเจนทุกเส้นทาง ไฟตัดหมอกหน้า ตกแต่งใต้กันชนด้วยวัสดุสีเงินรอบคัน ทำให้ครึ่งหน้าของรถดูมีความบึกบึน
ซุ้มล้อสีดำเพิ่มความรู้สึกบึกบึนแข็งแรง พร้อมล้ออะลูมิเนียมอัลลอยแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 195/60 R16 ติดตั้งราวหลังคาตลอดทั้งคันเพื่อความสามารถในการบรรทุกสัมภาระมากยิ่งขึ้น ด้านท้ายโดดเด่นด้วยไฟท้ายแบบแอลอีดีและไฟเบรกแนวตั้งเห็นชัดเจน ซึ่งแม้จะดูไม่แตกต่างจากเออร์ทิก้า แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร
ห้องโดยสารภายใน Suzuki XL7 โปร่ง กว้าง ใช้งานได้รอบด้าน
การออกแบบห้องโดยสารภายในของซูซูกิ เอ็กซ์แอล7 นั้น เน้นความโปร่ง โล่งสบาย วิสัยทัศน์ในการมองสุดลูกหูลูกตา ด้วยกระจกบังลมด้านหน้าขนาดใหญ่ ตำแหน่งของแผงแดชบอร์ดและพวงมาลัยวางต่ำลงมา ถ้าไม่ติดฟิล์มกรองแสงดีดีที่กระจกบานหน้า บอกเลยว่าในรถมีร้อนแน่นอน แถมตำแหน่งของพวงมาลัยก็ดูต่ำไปเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม พวกเขาสอบผ่านในเรื่องการเลือกใช้วัสดุและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใส่เพิ่มเข้ามา สิ่งที่ผมชอบจริง ๆ ก็คือเจ้าจอแสดงผลแบบสัมผัส 10 นิ้วที่ใหญ่โตโอฬาร เหมาะสำหรับการใช้เป็นจอแสดงผลเวลาถอยรถ หรือแม้แต่เมื่อใช้มันแสดงผลแอปเปิล คาร์เพลย์ ก็ดูดีมาก เห็นแผนที่ใหญ่โตชัดเจนเต็มตา แบบมีคะแนนเท่าไหร่ก็ให้เต็มสำหรับจอรุ่นนี้
แผงคอนโซลหน้าสไตล์สปอร์ต ตกแต่งวัสดุด้วยลายคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมคิ้วโครเมียม โดดเด่นด้วยมาตรวัดพร้อมจอแอลซีดี แสดงผลแจ้งสถานะข้อมูลสำคัญของตัวรถ ระบบความบันเทิงมาพร้อมฟังก์ชันเชื่อมต่อบลูทูธ ช่องเชื่อมต่อยูเอสบีและเอชดีเอ็มไอที่บริเวณคอนโซลหน้า และช่องจ่ายไฟสำรอง 12 โวลต์ มากถึง 3 ตำแหน่ง
มาพร้อมระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติบริเวณห้องโดยสารด้านหน้า ที่ใช้งานได้อย่างง่ายดาย พร้อมช่องระบายอากาศด้านหลังสำหรับที่นั่งแถวสองและแถวสาม เพื่อความเย็นสบายอย่างทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร ช่องวางเครื่องดื่ม 8 ตำแหน่ง พร้อมช่องเป่าลมเย็นบริเวณคอนโซลกลาง ขอบอกเลยว่ารถคันนี้นั้น แอร์เย็นมากจนถึงขั้นหนาว
ที่นั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง เบาะนั่งแถวที่สองปรับพับแยกและเลื่อนสไลด์ได้ 240 มิลลิเมตร เบาะนั่งแถวที่สามปรับพับแยกเบาะแบบ 50:50 พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงตัว D เพิ่มพื้นที่ระหว่างเบาะกับพวงมาลัย ปรับระดับสูง-ต่ำได้ พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและการสั่งการสมาร์ทโฟน มาพร้อมระบบสมาร์ทคีย์พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ครบครัน
2020 Suzuki XL7 เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังไปสบาย ๆ ทำใจเวลาเร่ง
การเปลี่ยนแปลง ทั้งหมดของรถคันนี้ไม่ได้รวมถึงเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลังและช่วงล่างของรถ ที่ถ่ายทอดมาจากเออร์ทิก้าแต่อย่างใด ดังนั้นเอ็กซ์แอล7 ก็จะยังคงใช้เครื่องยนต์ K15B เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1,462 ซีซี. จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ รีดกำลังสูงสุด 105 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที
พวกเขาได้ปรับตั้งประสิทธิภาพเครื่องยนต์และอัตราทดเกียร์ให้เหมาะกับการขับขี่ ปลอดภัยและประหยัดน้ำมัน ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ช่วงล่างด้านหลังแบบทอร์ชั่น บีม พร้อมคอยล์สปริง ได้รับการปรับแต่งให้ความนุ่มนวล หยุดรถได้อย่างมั่นใจด้วยดิสก์เบรกที่ด้านหน้า และดรัมเบรกที่ด้านหลัง
การตอบสนองของเครื่องยนต์นั้น เน้นความใจเย็นในการขับขี่ จริงอยู่ว่าเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรยุคใหม่ ๆ นั้นได้รับการพัฒนามาอย่างมากแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการตอบสนองความต้องการของคนใจร้อน แต่หากมองว่าเป็นรถยนต์สำหรับครอบครัว ที่ไม่ได้เน้นการทำความเร็วเป็นหลัก รถคันนี้ก็พร้อมที่จะตอบสนองความต้องการได้ไม่ยาก
เมื่อกดคันเร่งลงไปเร็ว ๆ ตอนออกตัว ดูเหมือนว่ารถจะคิดอยู่สักเสี้ยววินาที ว่าควรจะตอบสนองอย่างรวดเร็วในแบบที่ควรจะเป็น หรือจะตอบสนองไปเรื่อย ๆ เอื่อย ๆ ตามแบบของตัวรถเองดี และเมื่อคิดได้แล้ว การลากเครื่องจากความเร็วต่ำไปจนถึงปานกลางก็ทำได้ไม่ยากเย็น กว่าจะเริ่มนิ่ง ๆ ก็ผ่านความเร็วระดับ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไปแล้ว
ตัวรถนั้นให้การตอบสนองที่เปลี่ยนไปมากเหมือนกันระหว่างการขับคนเดียวและการบรรทุกผู้โดยสารและสัมภาระเต็มพิกัด เรียกว่าน้ำหนักมีผลต่อการควบคุมรถเยอะมาก ในกรณีที่แบกน้ำหนักมาก ก็อย่าลืมเผื่อระยะเบรก ระยะแซงเพิ่มขึ้นอีกนิด แต่ขอบอกเลยว่า อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน 13.5 กิโลเมตรต่อลิตรที่ทำได้ตามมาตรวัด ถือว่าน่าพอใจเลยล่ะ
ซูซูกิ เอ็กซ์แอล7 มาพร้อมระบบความปลอดภัยพื้นฐานที่ไม่ได้แตกต่างจากคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกกระทันหัน ระบบกระจายแรงเบรกแบบอีเลกทรอนิกส์ เสริมด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพในการทรงตัว และการปรับแต่งโมดุลในพวงมาลัยที่เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ให้เข้าโค้งได้แม่นยำ
ติดตั้งระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน มาพร้อมจุดยึดเบาะสำหรับเด็ก ISOFIX กล้องมองภาพพร้อมเซนเซอร์กะระยะในขณะถอยหลัง ป้องกันการโจรกรรมรถยนต์ด้วยกุญแจอิมโมบิไลเซอร์และระบบสัญญาณกันขโมย และไม่มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติมาให้ ซึ่งต้องบอกว่าระบบความปลอดภัยนั้น ถือเป็นจุดด้อยของรถยนต์กลุ่มนี้อยู่แล้ว
Suzuki XL7 ความลงตัวที่เรียบง่ายสำหรับตลาดครอบครัว
ก่อนหน้านี้ผมได้มีโอกาสทดลองรถมินิ เอ็มพีวี 7 ที่นั่ง หลายยี่ห้อหลากรุ่น ด้วยการนำมาใช้งานจริงกับสมาชิกในครอบครัว แล้วก็ให้สมาชิกนี่แหละช่วยกันวิจารณ์รถแต่ละคัน ที่มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ยกเว้นแต่ในเรื่องของการขับขี่ เพราะพวกเขาทำหน้าที่เป็นเพียงแค่ผู้โดยสารเท่านั้น และก็พบสิ่งที่น่าสนใจหลายประการสำหรับเอ็กซ์แอล7
หนึ่ง รถคันนี้สามารถก้าวขึ้นลงจากรถได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นเพราะเบาะแถว 2 ที่พับไปข้างหน้าและเลื่อนหน้าได้อย่างกว้างขวาง เวลาขึ้น-ลงจากแถว 3 ยังมีที่ให้ยึดได้ การเข้าออกจากตัวรถทำได้พอดี รถไม่สูงหรือต่ำเกินไป ก้าวขาเข้าไปแล้วหย่อนก้นนั่งได้เลย อันนี้เป็นสิ่งที่ผู้สูงวัยในครอบครัวผมชอบรถคันนี้มากเป็นพิเศษ
สอง ระบบปรับอากาศที่แม้จะไม่มีช่องระบายอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนที่ 3 ซึ่งถือเป็นจุดที่คะแนนติดลบสำหรับรถที่ทำตลาดอยู่ยุคใหม่ ๆ แถมตำแหน่งช่องลมที่พัดมาจากแถวสองก็ไม่ค่อยเป็นมิตรกับผู้โดยสารเท่าใดนัก แต่ระบบปรับอากาศของเอ็กซ์แอล7 นั้น เย็นฉ่ำ สามารถไล่ความร้อนของรถไม่ติดฟิล์มที่จอดอยู่กลางแดดได้สบาย
สาม เบาะที่นั่งของเอ็กซ์แอล7 ที่ดูเหมือนได้รับถ่ายทอดมาจากเออร์ทิก้า ที่ดูเป็นเบาะตัน ๆ ไม่มีลูกเล่นอะไรมาก กลับดูรับน้ำหนักและสรีระของผู้โดยสารได้เป็นอย่างดี เรียกว่าเดินทางไกลไม่มีเมื่อย และสุดท้าย ความเอนกประสงค์หลาย ๆ ด้าน เช่น ที่วางแก้วที่มีแอร์เป่า ช่องวางแก้วน้ำรอบคัน รวมถึงจอภาพขนาดใหญ่นั้น สมาชิกในครอบครัวดูโอเคอยู่
เรื่องความอืดอาดของเครื่องยนต์ 2020 Suzuki XL7
เรื่องความอืดอาดของเครื่องยนต์ของ 2020 Suzuki XL7 นั้น ไม่ได้เป็นประเด็นใหญ่ของสมาชิกในครอบครัวที่ถ้าทำความเร็วขึ้นเลข 3 หลักก็จะเริ่มบ่นกันอยู่แล้ว ช่วงล่างอาจจะออกแนวสะท้านสะเทือนอยู่บ้าง คิดว่าสามารถเอามาปรับแต่งได้ไม่ยาก เอาจริง ๆ ถ้าความต้องการในการใช้งานรถมีคล้าย ๆ กับที่พูดมาข้างบน 3 พารากราฟ มันก็โอเคอยู่นะ
แถมเรื่องที่ผมชอบโดยส่วนตัวให้อีกอย่างก็คือพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านหลังนั้นใหญ่อยู่ แถมมีช่องเก็บของแยกด้านล่างไว้เก็บรองเท้าหรือสัมภาระที่เปียกชื้นได้ด้วย ด้วยราคาขนาดนี้ถือว่าคุ้มค่าที่สุดในท้องตลาดละ ยกเว้นแต่คุณจะไม่สนใจหน้าตา แล้วหันไปหาเออร์ทิก้าที่ให้ฟีลลิ่งใกล้เคียงกันก็ได้เหมือนกัน ประหยัดตังค์ไปอีกนิด
แต่ถ้าคิดว่าแค่การใช้งานอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ ขอหน้าตาดีมาประกอบกันด้วย 2020 Suzuki XL7 (ซูซูกิ เอ็กซ์แอล7) ก็เป็นรถพ่อบ้านแม่บ้านอีกคันที่น่าสนใจและน่าเลือกคบหาไว้ใช้งานสักคัน เพราะมันสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย จ่ายไม่แพงมาก เหลือเงินไปโมรถให้ขับดีขึ้นกว่านี้ก็ได้ แต่ท้ายสุดก็อย่าลืมไปลองขับก่อนตัดสินใจเลือกละกัน