Ford Mustang (ฟอร์ด มัสแตง) ถือเป็นหนึ่งในไอคอนแห่งรถยนต์ทุกยุคสมัย ที่ไม่เคยล้มหายไปตามกาลเวลา และหากย้อนไปจากนี้หลาย ๆ ปี แล้วมีคนบอกว่าฟอร์ด ประเทศไทย จะเอารถรุ่นนี้เข้ามาทำตลาด เชื่อว่าหลายคนคงหัวเราะกันจนฟันหัก แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไป ฟอร์ดก็ตัดสินใจนำเข้ารถรุ่นนี้มาทำตลาดในประเทศไทยจริง ๆ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะว่าเห็นเกรย์มาร์เก็ตขายกันอย่างสนุกสนานหรือเปล่า เพราะเอาจริง ๆ ตลาดมัสเซิลคาร์ในประเทศไทยก็ไม่ได้ใหญ่โตอยู่แล้ว แถมฟอร์ดยังนำเข้ามาให้เลือกทั้งรุ่นท๊อปอย่างจีทีที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 5.0 ลิตร และรุ่นรองที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 2.3 ลิตร อีโคบูสต์ ที่มีระดับราคาลดหลั่นกันลงมา
การเปิดตัวรถรุ่นนี้ในประเทศไทยนั้นเป็นการเปิดตัวที่ตามหลังจากประเทศเพื่อนบ้านพอสมควร และยังมีข่าวลือมากมายเกิดขึ้นก่อนหน้าเปิดตัวจนบรรดาแฟน ๆ เริ่มถอดใจแล้วว่ารถอาจจะไม่มาทำตลาดแล้ว แต่เมื่อทุกอย่างลงตัว ฟอร์ดก็ตัดสินใจเปิดตลาดรถยนต์นั่งที่ห่างหายและเงียบเหงาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง กับมัสแตงทั้ง 2 รุ่น
AutoFun Thailand อยู่กับเจ้าม้าป่ารุ่นล่างสีแดงสดคันนี้ในช่วงเวลาสั้น ๆ และขอบอกว่ามันเป็นรถที่เตะตาผู้คนบนท้องถนนอย่างมากมาย เรียกว่าขับไปทางไหนก็มีแต่คนมองตามหลัง แต่เอาจริง ๆ เครื่องยนต์อีโคบูสต์ตัวนี้กลับไม่ได้เรียกสมรรถนะเร้าใจเสียเท่าไหร่ เหมาะกับสายโชว์ออฟมากกว่าสายสมรรถนะที่เน้นการขับขี่จริง ๆ
อย่างไรก็ตาม ด้วยค่าตัวที่อยู่ในระดับสามารถเอื้อมถึง หากความต้องการคือการเป็นเจ้าของไอคอนแห่งยุคสักคัน การบำรุงรักษาที่ง่ายกว่าเครื่องยนต์รุ่นใหญ่ และหากใช้ในชีวิตประจำวันก็ยังถือว่ามีความสะดวกสบายในระดับที่รับได้ มัสแตงก็ยังเป็นรถที่เหมาะสมจะจอดในโรงรถของคุณสักคัน อย่างน้อยไปไหนมาไหนก็หล่อกว่าใครแน่นอน
ราคาจำหน่าย 2019 Ford Mustang |
Ford Mustang GT |
3.599 ล้านบาท |
Ford Mustang EcoBoost |
4.799 ล้านบาท |
การออกแบบภายนอกล้ำสมัยแบบไอคอนิกโมเดล
การออกแบบภายนอกนั้นได้รับการถ่ายทอดความเป็นไอคอนมาอย่างเต็มที่ ด้วยภาพลักษณ์แบบสปอร์ตดุดัน ด้วยสัดส่วนตัวรถด้านหน้าที่ยาวกว่า ตัวรถมีขนาดไม่สูงมาก และออกแบบให้มีความกว้างมากกว่าปกติ ด้วยการยืดสัดส่วนของชิ้นส่วนต่าง ๆ ออกไปตามแนวนอน เรียกได้สร้างภาพลักษณ์ทันสมัยได้อย่างลงตัว
ขนาดของตัวถังนั้นไม่ได้ใหญ่โตจนควบคุมยาก แต่ด้วยตำแหน่งของที่นั่งอาจจะต้องใช้ความระมัดระวังกันสักนิด ตัวรถมาพร้อมความกว้าง 1,915 มิลลิเมตร ยาว 4,788 มิลลิเมตร พร้อมความสูง 1,379 มิลลิเมตร โดยมีระยะฐานล้อยาว 2,720 มิลลิเมตร การออกแบบเน้นความเพรียวลมเป็นพิเศษ ด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน 0.32
ชุดโคมไฟหน้าเป็นไฟแอลอีดีทั้งหมด ประกอบไปด้วยโคมไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์เลนส์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลาวิ่งกลางวัน มาพร้อมระบบเปิดปิดไฟหน้าและไฟสูงอัตโนมัติ ไฟท้ายแบบแอลอีดี มาพร้อมกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้่ยวในตัว ปรับและพับด้วยไฟฟ้า มีไฟส่องข้างรถเป็นรูปม้าอันโด่งดัง และท่อไอเสียแบบคู่
ล้ออัลลอยสีดำด้านขนาด 19 นิ้ว มาพร้อมยางพิเรลลี่ พี ซีโร่ ในรุ่นล่างนั้นไม่มีสปอยเลอร์หลังติดตั้งมาให้เหมือนกับรุ่นจีที โลโก้ท้ายรถนั้นเป็นรูปโพนี่อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งโดยรวม ๆ แล้วการออกแบบภายนอกของรถโดยภาพรวมมีความโดดเด่นและสวยงาม เป็นการเหลาความบึกบึนจากรุ่นเดิม ๆ ให้มีความทันสมัยมากขึ้น
เครื่องยนต์แมวเซา เอาไว้โชว์มากกว่าซิ่ง
ด้วยความเป็นรถยนต์สปอร์ตมัสเซิลที่ถูกคาดหวังเรื่องสมรรถนะที่เหนือชั้น ต้องบอกว่าเครื่องยนต์อีโคบูสต์ที่ฟอร์ดติดตั้งมาในรุ่นล่างนั้น ให้สมรรถนะที่ไม่ได้เลวร้าย เพียงแต่เมื่อเทียบกับรูปลักษณ์ของรถ และมีตัวเทียบเป็นรุ่นจีทีที่มีราคาจำหน่ายแพงกว่า ทำให้บอกว่าสมรรถนะของรถอยู่ในระดับพอรับได้เท่านั้นเอง
ฟอร์ดเลือกใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ พ่วงเทอร์โบ ปริมาตรกระบอกสูบ 2,264 ซีซี. มาพร้อมกำลังสูงสุด 300 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 475 นิวตันเมตรที่ 3,000 รอบต่อนาที การส่งกำลังเป็นหน้าที่ของเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะรุ่นเดียวกับที่ใช้ใน Ford Ranger Raptor ส่งกำลังลงสู่ล้อหลังในการขับเคลื่อน
การตอบสนองของเครื่องยนต์นั้นไม่ได้อืดอาดและมีความสามารถในการเร่งแซงได้อย่างไม่ติดขัดอะไร เสียงของเครื่องยนต์ก็ฟังไพเราะเสนาะหูอยู่ เพียงแต่มันมีอาการไม่สุดในการใช้งานรถอยู่มากพอสมควร เพราะเครื่องยนต์ที่ไม่ได้ออกแนวจี๊ดจ๊าดหรือมีอาการลั่นในแบบที่รถสปอร์ตระดับนี้ควรจะทำได้ดีบนท้องถนน
เครื่องยนต์รุ่นนี้ แม้จะเล็กแต่ก็สามารถวิ่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาประมาณ 5 วินาที ประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 10.8 กิโลเมตรต่อลิตรและปล่อยไอเสียแค่ 217 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น มาพร้อมฟังชั่นโอเวอร์บูสต์ ที่ช่วยเพิ่มแรงดันอากาศจากเทอร์โบ ทำให้ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วทันใจในทุกการกดคันเร่ง
ระบบควบคุมเกียร์อัตโนมัติ ที่ทำให้ปรับแต่งเครื่องตามโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย มีการปรับแต่งโช๊คอัพให้เข้าโค้งได้อย่างมั่นคง ปรับแต่งช่วงล่างเพื่อลดการบิดตัวของตัวถัง ทำให้สามารถควบคุมรถได้อย่างเฉียบคมมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีโหมดการปรับเสียงท่อไอเสียให้เหมาะสมกับการขับขี่ตามสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างสบายใจ
ความสะดวกสบายในการขับขี่เป็นผลมาจากการเลือกใช้ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ช่วงล่างด้านหลัง แบบอิสระ อินทรีกอล-ลิงค์ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง มาพร้อมเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ด สลิป ควบคุมรถอย่างง่ายดายด้วยพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าพร้อมแพดเดิลชิฟท์
โหมดการขับขี่ที่เลือกได้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่แบบธรรดา สปอร์ต สนามแข่ง โหมดหิมะ-ถนนเปียก ไปจนถึงโหมดแดร็ก มาพร้อมแอพพลิเคชั่นแทร็ก แอพ ที่แสดงผลได้อย่างหลากหลาบ ระบบช่วยเบิร์นยางเพื่อเตรียมความพร้อมในการขับขี่ รวมไปถึงพวงมาลัยที่สามารถปรับได้หลากหลายรูปแบบการขับขี่เช่นกัน
รายละเอียด Ford Mustang EcoBoost |
เครื่องยนต์ |
เบนซิน เทอร์โบ EcoBoost |
ความจุ |
2,264 ซีซี. |
กำลังสูงสุด |
300 แรงม้า |
แรงบิดสูงสุด |
475 นิวตันเมตร |
ระบบส่งกำลัง |
อัตโนมัติ 10 จังหวะ |
ระบบขับเคลื่อน |
ขับเคลื่อนล้อหลัง |
ระบบควบคุมรถ |
พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า |
ห้องโดยสารภายในแนวแคบ แต่ใช้งานได้จริง
ห้องโดยสารของฟอร์ด มัสแตง ที่ขายอยู่ดูแล้วออกแนวงงงงในตัวเองสักเล็กน้อย ว่าตรูควรจะทำตัวเองเป็นรถยนต์ยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์มากมายดี หรือจะรักษาความเป็นรถยนต์มัสเซิลคาร์แบบโบราณ ๆ ดีกว่ากัน ฟังชั่นส์หลาย ๆ อย่างก็เลยออกมาแบบไม่รู้จะไปในทิศทางไหน เอาจริง ๆ ตอนใช้งานก็มีแอบหงุดหงิด
ยกตัวอย่างเช่น เบาะเบาะแถวหน้าที่เลื่อนหน้า-หลังด้วยระบบไฟฟ้า แต่ยังรักษาการปรับพนักพิงด้วยระบบปรับด้วยมือธรรมดา เอาจริง ๆ เลยก็รู้สึกว่าจะเป็นไฟฟ้าก็เป็นไฟฟ้าไปให้หมด จะเป็นปรับมือก็ปรับมือให้หมดไปเลย มันเอามารวมกันแล้วก็ดูงงงง แถมไม่ได้ช่วยให้การทำงานดีขึ้นกว่าการเลือกระบบใดระบบหนึ่งไปเลยหรอก
ห้องโดยสารแบบ 2+2 ที่นั่ง ที่แม้การก้าวเข้าไปในห้องโดยสารจะทำได้ยากเวอร์ แถมไม่ค่อยมีที่วางขาให้อีกต่างหาก แต่ตำแหน่งการนั่งตอนหลังนั้นดีกว่าที่คาด เรียกว่าถ้าเป็นเด็ก ๆ หรือคนตัวเล็ก ๆ สามารถนั่งทางไกลได้สบายไม่อึดอัด มาพร้อมที่ห้อยถุงแกงที่ติดตั้งอยู่หลังพนักพิงศีรษะตอนหน้า เพิ่มความเอนกประสงค์กันไป
มัสแตงมาพร้อมลูกเล่นที่หลาย ๆ คนอาจจะไม่สนใจ ด้วยการที่ปุ่มสตาร์ทรถยนต์จะกะพริบไฟสีแดงในอัตรา 30 ครั้งต่อนาที เทียบเท่ากับอัตราการเต้นของหัวใจของม้าป่าในขณะที่หยุดพัก เมื่อทำการเปิดประตูรถยนต์เข้าไปแล้วยังไม่สตาร์ทเครื่องยนต์ ใครซื้อไปลองจับเวลาดูให้หน่อย ว่ากระพริบเท่านี้จริงหรือเปล่า
การตกแต่งห้องโดยสารเน้นโทนสีดำเพื่อเพิ่มความสปอร์ต แต่มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา ชุดมาตรวัดแบบดิจิตอลขนาด 12.4 นิ้ว กระจกหน้าต่างไฟฟ้า ช่องชาร์จไฟ 12 โวลต์ โดยระบบเครื่องเสียงนั้นรองรับแอปเปิล คาร์เพลย์ เป็นที่เรียบร้อย
ระบบความปลอดภัยที่จัดมาอย่างครบครัน
แน่นอนว่าการจัดระบบความปลอดภัยในรถคันนี้ก็ต้องจัดมาให้สมกับค่าตัว และเพื่อรองรับการขับขี่แบบเต็มสมรรถนะ ฟอร์ดให้อุปกรณ์มาตรฐานมาอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันล้อล็อก ระบบกระจายแรงเบรก และระบบช่วยเบรก พร้อมด้วยระบบควบคุมการทรงตัวแอดวานซ์แทร็ค และระบบป้องกันการลื่นไถล
มาพร้อมระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ระบบเตือนการชนด้านหน้า ระบบเบรกอัตโนมัติ ที่สามารตรวจจับคนเดินถนน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันและระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร เพิ่มความสะดวกสบายด้วยระบบตรวจจับลมยาง และระบบช่วยโทรฉุกเฉินในกรณีเกิดอุบัติเหตุ
ติดตั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง ม่านถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่ง และถุงลมหัวเข่าสำหรับตอนหน้า 2 ตำแหน่ง มาพร้อมกล้องมองภาพขณะถอยจอดและเซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหลัง จุดยึดเบาะนั่งเด็ก และระบบสัญญาณกันขโมย เรียกว่าติดตั้งกันมาให้อย่างครบครันแล้วในคันนี้
การเซตอัพแบบกลาง ๆ ที่ไม่ลงตัวเท่าไหร่
ถ้าถามผมว่าอยากได้ฟอร์ด มัสแตงจริง ๆ ผมจะบอกให้เก็บเงินเพิ่มไปซื้อรุ่นจีที ด้วยสาเหตุง่าย ๆ ก็คือ ผมเองไม่ค่อยชอบนิสัยของเครื่องยนต์อีโคบูสต์ที่ติดตั้งมาสักเท่าใด เสียงก็ไม่ได้กระหึ่มกึกก้องมาก การตอบสนองก็ไม่ได้ดีงามโดดเด่น แถมฟีลลิ่งในการขับขี่ในภาพรวมนั้นก็ดูออกไปทางรถบ้านทั่ว ๆ ไปเสียมากกว่า
แน่นอนว่านอกเหนือไปจากความพยายามในการขยายไลน์เครื่องยนต์อีโคบูสต์ของฟอร์ด และการลดขนาดเครื่องยนต์ที่กินน้ำมันมากมาย เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าออกไปให้กว้างขึ้นกว่าเดิม แต่ผลที่ได้คือรถที่ให้ความรู้สึกในการขับขี่เหมือนรถเก๋งขนาดใหญ่สักคัน และแทบไม่มีความดุดันอะไรออกมาให้สัมผัสกันได้
สิ่งที่ดีก็คือเบาะที่นั่งที่สบายมาก แม้จะปรับได้แบบงงงงด้วยระบบปรับแบบไฮบริดของมันเอง พวงมาลัยที่มีอาการไวต่อการควบคุม ทำให้ขับขี่สบายแต่ก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น รวมไปถึงการตกแต่งห้องโดยสารยุคใหม่ และแผงแดชบอร์ดแบบดิจิตอล ที่ดูงามตา อ่านข้อมูลง่ายสะดวก ควบคุมระบบต่าง ๆ ดีเหลือเกิน
เพราะฉะนั้นเมื่อรวม ๆ กันแล้ว ฟอร์ด มัสแตง อีโคบูสต์ ก็เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชนหน้าตาของรถคันนี้ โดยไม่ได้เน้นไปที่เรื่องของสมรรถนะในการขับขี่แต่อย่างใด แต่อยากได้รถที่มีความโดดเด่นบนท้องถนน เรียกว่าขับไปที่ไหนก็เตะตาคนให้คนหมั่นไส้เล่น ๆ แต่ถ้าเจอใครมากดท้าทายบนถนนก็อย่าไปแข่งกับเขา
รีวิวตรงๆ ก็คือถ้าหากต้องการความดุดันในการตอบสนองที่แท้จริง และมีเงินที่พร้อมจ่ายเพิ่มอีก 1.2 ล้านบาท ก็ไปเล่นรุ่นจีทีได้เลย คันนั้นมาอย่างครบครันแน่นอน หรือจะไปมองคู่แข่งFord Mustang (ฟอร์ด มัสแตง) ที่มีลักษณะใกล้เคียงกันจากค่ายอื่นแล้วรุ่นที่ราคาต่ำกว่าFord Mustang แต่อาจก็จะไม่ได้รับความสนใจบนท้องถนนมากขนาดนี้ เอาเป็นว่าถ้าเงินถึง เลือกคันไหนก็ได้ไว้ในโรงรถสักคันเถอะ!!!