ทำไม? เอารถถังมาวิ่งบนถนนแล้วพื้นยางมะตอยไม่พัง อธิบายได้ด้วยหลักคณิตศาสตร์ง่าย ๆ

เมื่อไม่กี่วันก่อน ในประเทศมาเลเซียการซ้อมพาเหรดวัน National Day ได้มีกรนำรถถังขึ้นมาวิ่งซ้อมบนถนนกันด้วย

ก่อให้เกิดกระแสบนอินเตอร์เน็ตถามกันว่า การขับรถถังของทหารบนถนนธรรมดานั้นจะไม่ทำให้ถนนเสียกันหรือ? ซึ่งจริง ๆ แล้วมันไม่ใช่แบบนั้นเลย

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ

คำตอบก็คือ "ไม่" เลยครับ แต่ก็ต้องอยู่ในตัวแปรต่าง ๆ ที่เท่ากัน และถนนนั้นถูกสร้างมาเพื่อให้รองรับกับรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่

ซึ่งสาเหตุที่ทำให้การนำรถถังมาขับบนถนนแล้วไม่พังแม้จะมีน้ำหนักตัวมาก นั่นคือการใช้ตีนตะขายที่มีความกว้างแทนที่ยางนั่นเอง

อ่านเพิ่มเติม 10 ฟังก์ชั่นที่มาก่อนกาล เคยล้มเหลวแต่กลับมาฮิตอีก

การกระจายน้ำหนัก

อาจเป็นเรื่องที่เชื่อได้ยาก แต่ด้วยหลักการทางคณิตศาสตร์ทำให้รถถังที่สามารถทับรถเก๋งจนแบนได้นั้นจะออกแรงกดบนพื้นน้อยกว่าคนทั้งคนเสียอีก

ยกตัวอย่างหากคุณเคยเห็นรถที่ใช้ขับบนพื้นพิมะดังเช่นในแถบขั้วโลกเหนือและแอนตาร์กติก้า คุณจะเห็นได้ว่าพวกเขามีการใช้ตีนตะขาบแทนยางธรรมดา

ด้วยเหตุที่ว่าตีนตะขาบนั้นจะช่วยกระจายน้ำหนักของรถที่มีน้ำหนักตัวมากบนพื้นผิวได้ดีกว่าล้อรถยนต์ปกติ ทำให้ช่วยลดโอกาสที่มันจะจมลงไปบนหิมะหรือพื้นน้ำแข็งที่อยู่ด้านล่าง

ซึ่งก็เป็นเหตุผลเดียวกับที่ชาวเอสกิโมนั้นใช้รองเท้าหิมะที่มีความกว้างและมีตาข่ายด้านล่าง เพราะว่ายิ่งมีพื้นที่กว้างเท่าไร แรงดันต่อหน่วยของพื้นที่ผิวก็จะยิ่งลดลงต่อพื้นดินด้านล่าง

ตีนตะขาบยาง

อีกเหตุผลหนึ่งก็คือรถถังใหม่ส่วนใหญ่ จะใช้วัสดุตีนตะขาบที่ทำมาจากยาง ฉะนั้นหากตัวตีนตะขาบนี้ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ก็จะไม่ส่งผลเสียต่อพื้นยางมะตอยไม่ว่าจะขับไปมากแค่ไหน

และก็ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้แทรคเตอร์การเกษตรที่ถูกออกแบบมาเพื่อขับบนดินอ่อนมีขนาดล้อและยางที่กว้างและใหญ่มาก 

รวมถึงว่าทำไมนักขับออฟโร้ดที่มีประสบการณ์จะต้องลดลมยางของรถ 4x4 ก่อนที่จะขับบนถนนนิ่ม