All-New 2020 Land Rover Defender (2020 แลนด์โรเวอร์ ดีเฟนเดอร์) เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ด้วยทางเลือกของตัวถังทั้งแบบ 3 ประตูและ 5 ประตู พร้อมด้วยทางเลือกเครื่องยนต์ที่หลากหลายทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในตลาด
ดีเฟนเดอร์ใหม่ มาพร้อมการปรับปรุงภาพลักษณ์ครั้งใหญ่ ด้วยการเพิ่มความสดใหม่และติดตั้งเทคโนโลยีเข้าไปมากมายในตัวถังขนาดใหญ่ ทำให้ได้รถที่ดูปราดเปรียว แม้จะมีขนาดใหญ่โต แถมผู้ใช้งานยังสามารถเลือกติดตั้งออพชั่นต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ตามความต้องการในการใช้งาน
ทีมออกแบบของแลนด์โรเวอร์ ได้ประสานความหลงใหลเข้ากับความเคารพต่อรถยนต์รุ่นดั้งเดิม พัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ทรงพลังและเทคโนโลยีขั้นสูงสุดในการขับขี่ในทุกสภาพผิว โดยคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณแห่งการบุกเบิกอันเป็นเครื่องหมายของแบรนด์มากว่า 71 ปี
ราคาจำหน่าย All-New 2020 Land Rover Defender
|
2020 Land Rover Defender 90 (3 ประตู) |
เริ่มต้นที่ 5.4 ล้านบาท |
2020 Land Rover Defender 110 (5 ประตู) |
เริ่มต้นที่ 5.8 ล้านบาท |
รูปลักษณ์และการออกแบบพร้อมลุย
แลนด์โรเวอร์ ดีเฟนเดอร์ 90 รุ่น 3 ประตู มาพร้อมความกว้าง 2,008 มิลลิเมตร ยาว 4,583 มิลลิเมตร รวมยางอะไหล่ สูง 1,974 มิลลิเมตร พร้อมระยะฐานล้อ 2,360 มิลลิเมตร ขณะที่รุ่น 110 พร้อม 5 ประตู กว้าง 2,008 มิลลิเมตร ยาว 5,018 มิลลิเมตร รวมยางอะไหล่ และสูง 1,967 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,794 มิลลิเมตร
มีความสามารถในการบุกตะลุยในทุกสภาพพื้นผิวด้วยจุดต่ำสุดของรถจากพื้น 291 มิลลิเมตร มาพร้อมมุมไต่ 110 องศาและมุมจาก 40 องศา โดยมีมุม breakover 28 องศา และสามารถลุยน้ำได้ลึกสุด 900 มิลลิเมตร เรียกว่าเป็นหนึ่งในรถตรวจการณ์ที่ออกแบบมารองรับการใช้งานระดับสูงสุด
รถตระกูลขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีสมรรถนะสูงและทนทานที่สุดในโลก มีห้องโดยสารแบบ 5+2 ที่นั่ง และดีเฟนเดอร์ รุ่น 3 ประตู ที่มีขนาดเล็กกว่า กะทัดรัด ฐานล้อสั้น สำหรับการใช้งานอเนกประสงค์ที่ทนทานกว่ารุ่นอื่น ๆ โดยมาพร้อมล้ออัลลอย 19 นิ้ว ยางสำหรับทุกสภาพการขับขี่และยางอะไหล่ฟูลไซส์
ห้องโดยสารที่สวยงามน่าใช้
การออกแบบห้องโดยสารภายในเน้นความหรูหราและความสามารถในการใช้งานได้จริง แม้จะเป็นรถตรวจการณ์ขนาดใหญ่ แต่เลือกใช้พื้นผิวสัมผัสของวัสดุระดับพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็นหนังหรือพลาสติกที่ให้บรรยากาศที่ยอดเยี่ยม เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสะดวกสบายตลอดการเดินทาง
พวงมาลัยมัลติฟังชั่นส์หุ้มด้วยหนัง มาพร้อมคานตัดขวาง พ่นด้วยสีเทาอ่อน หลังคาภายในห้องโดยารสีสว่างงามตา คอนโซลกลางพร้อมที่วางแขนขนาดใหญ่ เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสลับผ้า สามารถปรับได้12 ทิศทางทั้งด้านผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า หัวเกียร์ขนาดใหญ่หุ้มด้วยหนังเพิ่มความหรูหรา
มาพร้อมจุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX สำหรับครอบครัวเพื่อพาลูกไปลุยด้วย ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา พื้นรถภายในและที่เก็บสัมภาระเป็นยางเพิ่มความทนทาน ระบบเครื่องเสียงพร้อมเนวิเกเตอร์ หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว มาพร้อมช่องชาร์จไฟในรถแบบครบครัน
เครื่องยนต์ทางเลือกที่หลากหลาย
ดีเฟนเดอร์ใหม่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลให้ลูกค้าเลือกใช้งานได้ตามความต้องการ โดยมีเครื่องยนต์รุ่นย่อยของดีเซล 2 รุ่นและเบนซิน 2 รุ่น โดยรุ่นเล็กสุดรหัสดี200 เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 1,999 ซีซี. พ่วงเทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 200 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
เครื่องยนต์ดีเซลตัวแรง มาพร้อมรหัสดี240 ขนาด 1,999 ซีซี. พ่วงเทอร์โบคู่ อัพเกรดสมรรถนะให้ได้พละกำลังสูงสุด 240 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ขณะที่เครื่องยนต์เบนซินรุ่นล่างรหัสพี300 ขนาด 1,997 ซีซี. พ่วงเทอร์โบ กำลังสูงสุด 300 แรงม้าแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
และเครื่องยนต์รุ่นท็อปสุด รหัส พี400 เอ็มเอชอีวี เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ ขนาด 2,996 ซีซี. พ่วงเทอร์โบ พร้อมระบบ Mild Hybrid 48 โวลต์ ช่วยในการออกตัว ให้กำลังสูงสุด 400 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นออพชั่นรุ่นท็อปให้ลูกค้าเลือกได้ตามต้องการ
ระบบที่เตรียมพร้อมสำหรับการขับเคลื่อน
เครื่องยนต์ทุกแบบขับเคลื่อนด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดจากแซดเอฟ ที่ลื่นไหลและตอบสนองว่องไว ระบบเกียร์แบบ twin-speed ส่งกำลังในอัตราความเร็วต่ำขณะลากจูงหรือขับขี่บนเส้นทางขรุขระ ซึ่งต้องใช้การควบคุมมากกว่าปกติ สร้างนิยามใหม่ของขีดจำกัดความสามารถให้หลากหลาย
รถสามารถบรรทุกน้ำหนักสูงสุดถึง 900 กิโลกรัม โดยหลังคารถสามารถรับน้ำหนักสูงสุดขณะจอดนิ่งที่ 300 กิโลกรัมและน้ำหนักสูงสุดขณะขับขี่ที่ 168 กิโลกรัม และความสามารถในการลุยน้ำได้สูงสุดที่ความลึก 900 มิลลิเมตร รองรับด้วยโปรแกรมตรวจสอบความลึกของน้ำในระบบ Terrain Response 2 ที่ช่วยให้ขับลุยน้ำด้วยความมั่นใจเต็มร้อย
นำระบบ Configurable Terrain Response มาใช้กับดีเฟนเดอร์ ใหม่ เป็นครั้งแรก สามารถปรับการตั้งค่าในการขับขี่แต่ละครั้งให้เหมาะสมกับสภาวะต่าง ๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ฟังก์ชั่นอัตโนมัติแบบอัจฉริยะ มาพร้อมเทคโนโลยีระบบข้อมูลและความบันเทิง Pivi-Pro แบบใหม่ หน้าจอสัมผัสที่ล้ำสมัยสามารถใช้งานได้ง่าย
รถคันนี้ยังยกระดับการอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่านสัญญาณแบบไร้สาย ทำให้ได้รับซอฟต์แวร์ใหม่ล่าสุดตลอดเวลา ด้วยการดาวน์โหลดข้อมูลขณะที่ลูกค้ากำลังนอนหลับอยู่ที่บ้านหรืออยู่ในสถานที่ห่างไกล โดยส่งสัญญาณข้อมูลสำหรับการอัปเดตจะไปยังตัวรถยนต์อัตโนมัติอย่างรวดเร็ว ทำให้ลูกค้าไม่ต้องเดินทางไปยังศูนย์บริการ
นอกจากนี้ ลูกค้าสามารถปรับแต่งเพื่อแสดงตัวตน ตั้งแต่ดีไซน์ตัวถังแบบ 3 ประตู หรือแบบ 5 ประตู ปรับแต่งรถได้หลากหลายรูปแบบด้วยชุดอุปกรณ์เสริม 4 แบบ และยังมีอุปกรณ์แบบแยกชิ้นให้เลือกหลากหลาย เช่น เตนท์หลังคารถ ผ้าใบกันสาดแบบเป่าลม ไปจนถึงชุดอุปกรณ์ลากจูงและโครงเหล็กบรรทุกสัมภาระบนหลังคารถ
2020 Land Rover Defender มีจำหน่ายในรูปแบบ 2 ตัวถัง ประกอบไปด้วย Defender 90 แบบตัวถัง 3 ประตู ราคาจำหน่ายเริ่มต้น 5.4 ล้านบาท และ Defender 110 แบบตัวถัง 5 ประตู ราคาจำหน่ายเริ่มต้น 5.8 ล้านบาท พร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถ ฟรีค่าบำรุงรักษาและบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี