All New Haval H6 (ฮาวาล เอช 6) เป็นรถอเนกประสงค์ SUV จากค่ายจีนแผ่นดินใหญ่ Great Wall Motors โดยได้เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ส่วนราคาและการเริ่มวางจำหน่ายจะประกาศในช่วงครึ่งหลังของปีนี้  All New Haval H6 เรียกได้ว่าเป็นรถเอสยูวีที่น่าจับตามองอีกรุ่น

All New Haval H6 ขับเคลื่อนด้วยพลังไฮบริดที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน มาพร้อมขุมพลังที่ให้กำลังสูงถึง 243 แรงม้า และ All New Haval H6 จะมีความสามารถเพียงพอที่จะท้าทายคู่แข่งรุ่นพี่อย่าง MG HS กลุ่มรถอเนกประสงค์ Compact SUV ได้หรือไม่ก็คงต้องรอดูต่อไป แต่ก่อนจะไปวิเคราะห์ AutoFun จะพาไปรู้จัก All New Haval H6 รถอเนกประสงค์ไฮบริดรุ่นนี้กันก่อนว่าน่าสนใจยังไง

2011 Haval H6

Haval H6 เป็นรถครอสโอเวอร์ SUV ไซส์กะทัดรัดที่ผลิตโดย Great Wall Motors ผู้ผลิตจีนภายใต้แบรนด์ Haval ตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งเปิดตัวในงาน Shanghai Auto Show 2011 Haval H6 เจเนอร์เรชั่นแรก ซึ่งเดิมใช้ชื่อ Great Wall Haval H6 ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น Haval H6 โมีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบคือ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเทอร์โบที่ให้กำลัง 150 แรงม้า และเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.3 ลิตรที่ให้กำลัง 138 แรงม้า

Haval H6 มาพร้อมการตกแต่งที่ค่อนข้างโดดเด่น โครงสร้างตัวถังออกแบบให้มีความแข็งแรงทนทาน ทั้งยังติดตั้งเทคโนโลยีฟังก์ชั่นสิ่งอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะเป็นหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วพร้อมระบบมัลติมีเดียที่สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เบาะนั่งคนขับที่ปรับได้ 10 ทิศทาง เบาะหน้ามีระบบอุ่น ระบบควบคุมสภาพอากาศพร้อมช่องระบายอากาศที่เบาะหลัง ไฟหน้าอัตโนมัติ ซันรูฟไฟฟ้า 

เทคโนโลยีระบบความปลอดภัยก็จัดเต็มทั้งถุงลมนิรภัยด้านหน้า ด้านข้างและม่านถุงลมนิรภัย, ระบบช่วยเบรก, ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง, เซ็นเซอร์ถอยจอดและกล้องมองหลัง, ระบบควบคุมความเร็วคงที่, ระบบเบรก ABS และ EBD, ระบบควบคุมเสถียรภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ (ESC), ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระ MacPherson strut และระบบกันสะเทือนหลังแบบอิสระพร้อมแขนไขว้คู่และสปริงทอร์ชั่นบาร์ ขับเคลื่อนด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ

หลังจาก Haval H6 ออกสู่ตลาดได้ระยะหนึ่ง ต่อมาในเดือนตุลาคม 2015 Haval H6 ก็ขึ้นแท่นเป็นรถ SUV ที่ขายดีที่สุดในจีน ซึ่งยาวนานเกือบสองปีเลยทีเดียว

2017 Haval H6

Haval H6 เจเนอร์เรชั่นสองก็ยังใช้แพลตฟอร์มเดียวกับรุ่นก่อน Haval H6 รุ่นนี้มีให้เลือกสองรุ่นย่อย โดยมีการออกแบบที่แตกต่างกันสำหรับกลุ่มตลาดเป้าหมายที่แตกต่างกัน รุ่นย่อยแรกเป็น Haval H6 Blue Label ที่มีตราสัญลักษณ์ Haval เป็นสีน้ำเงิน ในขณะที่อีกรุ่น Haval H6 Red Label มีตราสัญลักษณ์ Haval เป็นสีแดง นอกจากนี้ทั้งสองรุ่นยังมีดีไซน์ภายนอกที่แตกต่างกัน ทั้งกันชนหน้า ด้านท้าย ประตูท้าย ท่อไอเสีย แต่ในปี 2020 รุ่น Haval H6 Blue Label นี้ก็ถูกยกเลิกไปกลายเป็น Haval H6 Black Label แทน ใน Haval H6 เจเนอร์เรชั่นสองนี้เป็นเครื่องยนต์เดียวกับที่ขับเคลื่อน WEY 02 ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.0 ลิตรที่ให้กำลัง 197 แรงม้า 

2020 Haval H6

Haval H6 เจนเนอเรชั่นสามได้เปิดตัวในงาน Chengdu Motor Show 2020 โดยได้เปิดให้จองอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคม 2020 ราคาขายล่วงหน้ามีตั้งแต่ 122,000 หยวนถึง 141,000 หยวน (ประมาณ 594,000-688,000 บาท) 

Haval H6 รุ่นที่สามนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนทั้งภายนอกและภายใน โดยรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกของ Haval ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม Lemon Haval H6 เจนเนอเรชั่นใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเทอร์โบหรือเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเทอร์โบเป็นรุ่นอัพเกรดของเครื่องยนต์ปัจจุบันที่มีกำลังสูงสุด 169 แรงม้า (124kW) และแรงบิด 285 นิวตันเมตร ส่วนเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบเป็นเครื่องยนต์ที่พัฒนาขึ้นใหม่จาก GWM ที่ให้กำลังสูงสุด 224 แรงม้า (165kW) และแรงบิด 385 นิวตันเมตร ระบบเกียร์ของ H6 รุ่นที่สามเป็นระบบเกียร์คลัตช์คู่ 9 สปีดใหม่

ต่อมาในเดือนมีนาคมปี 2021 Haval H6 ก็ออกรุ่นพิเศษในชื่อ China-Chic Edition ซึ่ง Haval H6 รุ่นพิเศษ China-Chic ใช้พื้นฐานของ Haval H6 รุ่นที่สอง โดยได้มีการออกแบบใหม่ให้ดูทันสมัยกว่าเดิม และมีอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมงอยู่ที่ 7.6 วินาที 

2021 All New Haval H6 Hybrid SUV 

Haval H6 ถือเป็นรุ่นเจเนอร์เรชั่น 3 โดยเป็นรุ่นแรกที่มีการใช้เทคโนโลยีไฮบริด L.E.M.O.N. DHT ประเทศไทยได้มีการเปิดตัว Haval H6 อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยมีดีไซน์ที่ค่อนข้างทันสมัย มาพร้อมเทคโนโลยี สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และระบบความปลอดภัยดีเยี่ยม ซึ่งมีการประกาศว่าจะมีเผยราคาพร้อมจำหน่ายในช่วงเดือนมิถุนายนในปีนี้เช่นกัน 

การออกแบบภายนอก All New Haval H6 

All New Haval H6 มีขนาดที่ใหญ่กว่ารถกลุ่ม C-SUV ทั่วไป แต่ถึงอย่างไรก็ยังคงมีรูปลักษณ์ภายนอกที่หรูหราทันสมัยสไตล์ยุโรป ซึ่งได้รับการออกแบบจากนักออกแบบระดับโลกอย่าง ฟิล ซิมมอนส์ (Phil Simmons) ที่ออกแบบรถยนต์แบรนด์หรูยุโรปมาแล้วมากมาย

All New Haval H6 มีลายเส้นและเส้นโค้งที่เรียบง่ายที่มีเอกลักษณ์แบบ Body Waistline ด้านหน้าหรูหราตามไสล์ Exquisite front design กระจังหน้าหุ้มด้วยโครเมียม บริเวณโลโก้มีกล้องที่ใช้คู่กับอีกหลายฟีเจอร์ โคมไฟหน้า LED อัจฉริยะ Intelligent LED headlamp เพิ่มความปลอดภัยด้วยไฟตัดหมอที่มุมกันชนทั้งสองฝั่ง และติดเซ็นเซอร์ทั้งกันชนหน้าและหลัง ไฟท้ายเป็น LED ที่พาดยาวจากซ้ายไปขวาแบบ LED taillight strip มีโลโก้ Haval สีโครเมียมพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 ที่สปอยเลอร์ ส่วนด้านล่างเป็นล้ออัลลอยลาย 5 ก้านคู่หุ้มยางแบบทูโทน 19 นิ้ว

มิติตัวถัง All New Haval H6 

การออกแบบภายใน All New Haval H6 

ห้องโดยสารภายในของ All New Haval H6 ออกแบบเรียบง่ายแต่แฝงด้วยความสปอร์ต เน้นสีทูโทน เมื่อเสริมด้วยไฟ Ambience light ก็ทำให้ความรู้สึกถึงโลกอนาคต เบาะนั่งหุ้มด้วยเบาะคุณภาพสูงที่ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์แบบทูโทนเช่นกัน เบาะคู่หน้าแบบไฟฟ้า เบาะหลังมีปุ่มปรับเบาะที่ช่วยปรับให้นั่งสบาย หากต้องการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยเพื่อเก็บสัมภาระก็สามารถปรับพับเบาะหลังลงได้ พวงมาลัยเป็นแบบ Multi-Function หุ้มขอบด้วยหนังแท้คู่หัวเกียร์ไฟฟ้า Electronic shifter แบบ High-Gloss

จอแสดงผลแบบ Head Up Display (HUD) แสดงภาพข้อมูลการขับขี่ได้อย่างครบครันบนกระจกบังลมหน้า ทำให้ไม่ต้องละสายตาจากท้องถนน แผงหน้าปัดลอยตัวพร้อมจอกลาง Infotainment มาในสไตล์ Full Digital ขนาดใหญ่ ที่แสดงการทำงานของระบบต่างๆ ในด้านความสะดวกสบายและความปลอดภัยหลากหลากฟังก์ชั่น ซึ่งให้ภาพคมชัด สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทั้ง Android Auto และ Apple Car Play เพิ่มความสะดวกสบายด้วยที่ชาร์จแบบไร้สาย Wireless charger  เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแบบคู่ พร้อมตัวกรอง CN95 และช่องแอร์ด้านหลังที่ทำให้เย็นสบายขณะเดียวกันก็ได้อากาศบริสุทธิ์ นอกจากนี้ยังเพิ่มความหรูพรีเมียมด้วยหลังคากระจก Panoramic Sunroof ขนาดใหญ่ที่เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า

ขุมพลังเครื่องยนต์ All New Haval H6 

All New Haval H6 มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบซูเปอร์ชาร์จเจอร์ (VGT) ทำงานประสานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้พลกำลังสูงสุดถึง 130 กิโลวัตต์ ให้แรงม้าสูงสุด 179 กิโลวัตต์ หรือ 243 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 530 นิวตันเมตร สามารถปรับโหมดการขับขี่ได้ 4 แบบ ได้แก่ โหมดมาตรฐาน โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด และโหมดสภาพถนนลื่น ส่งกำลังด้วยเกียร์ไฮบริดที่มี 2 เกียร์ บริเวณด้านเครื่องยนต์และด้านมอเตอร์ขับเคลื่อน ให้ความมั่นใจในการขับขี่ด้วยเพลาขับเคลื่อนอิเล็กทรอนิกส์แบบมัลติโหมด DHT ที่รองรับการขับขี่ได้ความต้องการ

เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย All New Haval H6 

ตัวถังรถของ All New Haval H6 ประกอบด้วยเหล็กกล้าที่มีความแข็งแรงสูงเป็นพิเศษกรอบประตูเหล็กแบบขึ้นรูป พร้อมคอพวงมาลัยที่ดูดซับแรงกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และถุงลมนิรภัย 6 จุด ทั้งยังติดตั้งระบบอัจฉริยะอย่าง LIFE+ (LIFE PLUS) ที่ตอบสนองความต้องการและปลอดภัยในการขับขี่ทุกการเดินทางอย่าง L: L2 ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Level 2 มาพร้อม 22 ฟังก์ชั่นอัจฉริยะที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยขึ้นกว่าเดิม เช่น ระบบช่วยจอดรถยนต์อัตโนมัติ 3 รูปแบบ หรือ Integration Auto Parking (IAP) ที่มีกล้องมองภาพ 360 องศาและเซนเซอร์อัลตร้าโซนิคที่สามารถค้นหาที่จอดรถ คำนวณพื้นที่จอดรถได้อย่างแม่นยำ โดยสามารถช่วยจอดได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ จอดแบบเข้าช่อง จอดแบบขนานเส้นทางเดินรถ และจอดแบบตามแนวเฉียง, ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ หรือ Auto Reversing Assistance (ARA) โดยระบบจะจดจำเส้นทางเมื่อรถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำว่า 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง และสามารถถอยจอดกลับเส้นทางเดิมในระยะทางถึง 50 เมตร และระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง Wisdom Dodge System (WDS) โดยระบบจะตรวจจับรถบรรทุกและรถขนาดใหญ่ เพื่อควบคุมให้รถยนต์รักษาระยะห่างจากรถบรรทุก

All New Haval H6 ยังมีระบบอัจฉริยะที่ช่วยให้การขับขี่สะดวกสบายยิ่งขึ้นอย่าง I: Intelligence V3.5 ที่มีระบบโต้ตอบด้วยเสียง (Voice Interaction) ระบบอินเทอร์เน็ตอัจฉริยะ (Intelligent Internet) รวมไปถึง ระบบหน้าจออัจฉริยะที่ช่วยเชื่อมต่อข้อมูลและหาข้อมูลการเดินทางได้อย่างง่ายดาย, F: FOTA ระบบการอัปเกรดโปรแกรมออนไลน์ ระบบที่สามารถอัปเกรด Firmware ได้เองผ่านออนไลน์ โดยไม่ต้องเอารถเข้าศูนย์บริการ และ E: EYE Q4 ชิปอัจฉริยะสามารถประมวลผลภาพจากกล้องหลายตัวได้ในเวลาเดียวกัน ทำให้ประมวลผลได้เร็วขึ้นกว่าเดิม และยังสามารถรักษาเสถียรภาพการทำงานได้ดีหากมีการชนหรือมีอุบัติเหตุ

ทั้งนี้ All New HAVAL H6 Hybrid SUV จะมีการประกาศราคาและเปิดให้จองรถในประเทศไทยในช่วงเดือนมิถุนายน แม้ว่ายังไม่มีข้อมูลราคา แต่คาดว่าประมาณเกือบล้านหรือล้านต้นๆ ไม่น่าจะต่างจาก MG HS มากนัก ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไป เชื่อว่าถ้า All New HAVAL H6 Hybrid SUV นี้เปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ คงทำให้วงการรถกลุ่มนี้คึกคักขึ้นอีกพอสมควร