9 เรื่องน่ารู้กับ Toyota BZ4X ที่ไม่ใช่รถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของ Toyota แบบที่หลายคนเข้าใจ

หลังจากเป็นเวลาเกือบ 25 ปีที่ Toyota (โตโยต้า) ได้ทำการนำเสนอรถยนต์ไฮบริดให้คนทั่วโลกได้รู้จักใน Toyota Prius (โตโยต้า พรีอุส)

หลังจากปล่อยให้คู่แข่งผลิตรถยนตืไฟฟ้ากันมานาน ก็ใกล้จะได้เวลาวางขายรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ Toyota BZ4X (โตโยต้า บีซีโฟร์เอกซ์) กันแล้ว โดยเราจะพามาดู 10 ข้อน่ารู้เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าจากโตโยต้ากัน

1. ไม่ใช่รถไฟฟ้าคันแรกนะ

หลายคนอาจเข้าใจว่า Toyota BZ4X คือรถยนตืไฟฟ้าคันแรกของโตโยต้า ซึ่งนั่นก็ไม่ผิด เพียงแต่รุ่นแรกที่ผลิตออกมาขายกันจริง ๆ คือ Toyota RAV4 EV ที่จะมีการวางขายในรัฐ California, สหรัฐอเมริกา และประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ในช่วงปี 1997-2003 ในรุ่นแรก และรุ่นสองปี 2012-2014 ร่วมกับ Tesla (เทสล่า) แต่ต้องหยุดผลิตไปเนื่องจากช่วงนั้นมีปัญหาการฟ้องร้องกัน และราคาแบตเตอรี่แพงจึงยังไม่คุ้มค่า

ทำให้ Toyota BZ4X เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นมาเพื่อวางจำหน่ายทั่วโลกคันแรกของ Toyota นั่นเอง

2. ชื่อหมายความว่าอะไร?

สำหรับชื่อ BZ4X อักษรสองตัวแรกจะแปลว่า Beyond Zero ซึ่งเป็นแผนกย่อยใหม่ของโตโยต้า เป็นนัยว่าจะเป็นมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้า

ซึ่งยังไม่มีการอธิบายในส่วนของ 4X แต่จากการประกาศจะมีรถยนต์ไฟฟ้าใหม่อีก 7 รุ่นที่จะมาจากแผนก BZ ภายในปี 2568 มีแนวโน้มว่าแบรนด์จะสร้างรถยนต์และ SUV ที่มีขนาดเล็ก หรือใหญ่ขึ้น รวมทั้งมีการยื่นเครื่องหมายการค้าสำหรับชื่อตั้งแต่ 'BZ1' ถึง 'BZ5' และ 'BZ1X' ถึง 'BZ5X' แล้วด้วย

3. ใช้แพลตฟอร์มใหม่ล่าสุด

มีการพัฒนาแพลตฟอร์ม e-TNGA ขึ้นมาใหม่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ พัฒนาร่วมกับ Subaru (ซูบารุ) 

โดยวางแบตเตอรี่ไว้ใต้ท้องรถ ลดจุดศูนย์ถ่วงเพื่อให้ได้การควบคุมที่เฉียบคม และมี E-axle หรือเพลาไฟฟ้าใหม่จะทำให้เห็นมอเตอร์ไฟฟ้า เพลาส่งกำลัง และอินเวอร์เตอร์ที่รวมอยู่ในที่เดียว แทนที่จะแยกกัน

อ่านเพิ่มเติม "Platform" โครงสร้างสำคัญ ขับเคลื่อนรถ

4. ขนาดใหญ่แค่ไหน?

โตโยต้า บีซีโฟร์เอกซ์ สามารถวัดขนาดได้ 

ซึ่งจะทำให้มีขนาดใหญ่กว่า Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) เล็กน้อย และด้วยระยะฐานล้อที่กว้างกว่าจะทำให้มีพื้นที่สำหรับผู้โดยสาร และพื้นที่สัมภาระกว้างกว่า

5. จีนเลือกพวงมาลัยได้

สำหรับลูกค้าในประเทศจีน จะสามารถเลือกพวงมาลัยแบบ Yoke ทรงเหลี่ยม ที่มีดีไซน์มาจากเครื่องบินรบ และรถแข่ง F1 รวมถึง Tesla ก็ยังใช้ใน Model S ด้วย

เมื่อรวมกับการออกแบบหน้าจอแสดงผลการขับขี่แล้ว ก็เหมือนนั่งอยู่บนเครื่องบินรบจริง ๆ เลยทีเดียว

6. เลือกขุมกำลังได้ 2 แบบ

มีตัวเลือกขุมพลังให้ระหว่างระบบขับเคลื่อนล้อหน้า มอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวให้พละกำลัง 200 แรงม้า และแรงบิด 265 นิวตันเมตร และตัวเลือกระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กำลัง 215 แรงม้าจากมอเตอร์คู่ สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม.ได้ใน 7.7 วินาที

ซึ่งจะมีตัวเลือกแบตเตอรี่ให้แบบเดียวคือแบตลิเธี่ยมไอออนขนาด 71.4kWh สามารถวิ่งได้ 500 กม./ชาร์จ จากการทดสอบในประเทศญี่ปุ่น

7. แบตเตอรี่คือเรื่องสำคัญ

Toyota ตั้งเป้าไว้ว่าแบตเตอรี่ของ BZ4X จะยังคงรักษาความจุได้ถึง 90% หลังจากใช้งานไป 10 ปี หรือ 240,000 กม. ในการขับขี่ แล้วแต่ว่าจะถึงอย่างใดก่อน

ยังต้องรอดูกันต่อไปว่าตัวเลขร้อยละ 90 นี้จะมีตัวแปรอย่างอื่นหรือไม่ หรือจะเป็นการการันตีอย่างเป็นทางการ

อ่านเพิ่มเติม Toyota เผยหมัดเด็ด แบตเตอรี่ของ bZ4X จะยังมีความจุอยู่ที่ 90% แม้ผ่านไปแล้ว 10 ปี

8. ตัวเลือกหลังคา Solar

นอกจากนี้ในบางพื้นที่ยังมีตัวเลือกหลังคาโซล่าเซลล์ ที่เคลมว่าจะสามารถสร้างกระแสไฟฟ้าขับเคลื่อนรถได้ถึง 1800 กม./ปี และยังชาร์จได้ในยามดับเครื่อง

โตโนต้ากล่าวว่า "มันสามารถชาร์จเมื่อนำไปจอดในที่จอดรถที่ไม่มีสถานีชาร์จไฟ และสามารถนำพลังงานไฟฟ้าออกมาใช้ได้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

9. พี่น้องจาก Subaru

การพัฒนา BZ4X และแพลตฟอร์ม e-TNGA นั้นเกิดขึ้นาจากความร่วมมือระหว่าง Toyota และ Subaru นั่นทำให้ค่ายดาวลูกไก่จะมีรถของตัวเองออกมาเช่นกัน ในนาม Subaru Solterra ที่จะมีการออกแบบแตกต่างออกไปจากเดิมในด้านหน้าและไฟ

Toyota BZ4X จะถูกวางให้มาเป็นคู่แข่งโดยตรงกับทั้ง Hyundai Ioniq 5, Kia EV6, Mercedes-Benz EQB, Nissan Ariya, Tesla Model Y และ Volvo XC40 Recharge หรือครอสโอเวอร์ทั้งหลายที่มีอยู่ในปัจจุบัน

โดยจะมีการวางขายในประเทศออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา และในยุโรปกันในช่วงปลายปีหน้า ซึ่งจะถือเป็นการเปิดตัวที่ใหญ่มากสำหรับหนึ่งในยักษ์ใหญ่แห่งวงการรถยนต์

มีการคาดเดาราคาเอาไว้ในออสเตรเลียว่าจะเริ่มที่ 71,900 ถึง 75,900 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 1.7-1.8 ล้านบาทเลยทีเดียว สำหรับชาวไทยอาจยังต้องอดใจรอกันไปก่อนว่าโตโยต้า ประเทศไทยจะนำเข้ามาขายหรือไม่ แล้วจะขายกันเท่าไร

อ่านเพิ่มเติม Toyota BZ4X รถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของโตโยต้า เลื่อนการขายไปปลายปี 2022