เพราะอุบุติเหตุ เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น รถยนต์ใหม่ ๆ ที่ออกมาให้เห็นทุกวันนี้จึงมักจะมีการแข่งขันทางเทคโนโลยีความปลอดภัยของรถยนต์ ที่จะช่วยป้องกันอันตรายที่จะเกิดต่อชีวิตและทรัพย์สินของคุณได้
เรามักจะเห็นเทคโนโลยีที่อาจจะดูเวอร์วังอลังการในรถแพง ๆ อย่างใน Mercedes-Benz S-Class (เมอร์เซเดส เบนซ์ เอส-คลาส) ที่สามารถยกตัวรถขึ้นมา 3 นิ้วเมื่อจะโดนชนด้านข้างได้
แต่หากคุณไม่ได้มีงบประมาณที่มากมายขนาดนั้น AutoFun Thailand จึงขอรวบรวม 6 ออพชั่นที่อย่างน้อยควรมีติดรถไว้ เพื่อความปลอดภัย
อุปกรณ์ที่ควรมีอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม รถยนต์ในปัจจุบันก็พัฒนาไปมากแล้ว โดยอย่างน้อย ๆ ก็จะมีอุปกรณ์ขั้นพื้นฐานนี้มาให้ คือ
- เข็มขัดนิรภัย 3 จุด
- ถุงลมหน้า, ข้าง, เข่า แต่ถ้าขับคนเดียวมีแค่หน้าก็ได้
- เบรก ABS
ESC หรือ Electronic Stability Control
ESC เป็นระบบช่วยในการควบคุมการทรงตัวรถในขณะขับขี่ จะทำงานร่วมกับระบบป้องกันการลื่นไถล TCS (Traction Control System) และ ABS ซึ่ง ESC จะทำงานเมื่อเซ็นเซอร์จับสัญญาณได้ว่าตัวรถมีอาการลื่นไถล จากการที่ล้อใดล้อหนึ่งหมุนเร็วกว่าล้ออื่น ๆ
เช่นในกรณี การเปลี่ยนเลนกะทันหันบนพื้นผิวเปียก หรือการขับบนถนนที่มีพื้นผิวแตกต่างกัน รวมถึงการเข้าโค้งด้วยความเร็ว
Forward Collision Warning (FCW)
หรือชื่อไทยประมาณว่า ระบบจะใช้กล้องหรือเรดาร์ ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชน โดยส่งสัญญาณเสียงเตือนพร้อมแสดงสัญลักษณ์บนแผงหน้าปัด เมื่อพบว่าระยะห่างระหว่างรถกับรถยนต์คันหน้าอยู่ในระยะใกล้เกินไปและเสี่ยงต่อการชน
Automatic Emergency Braking (AEB)
ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ จะเตือนเมื่อรถสามารถจับวัตถุด้านหน้าเช่น รถหรือคน บนถนนได้ โดยจะส่งเสียงเตือนผู้ขับก่อน แต่หากไม่มีการเหยียบเบรก รถก็จะทำการหยุดให้เอง ทำงานคู่กับ FCW
สองระบบนี้อาจจะเหมาะกับคนที่ชอบเหม่อ หรืออาจเผลอเล่นโทรศัพท์ขณะขับรถ
Brake Assist (BA)
ระบบเสริมแรงเบรค จะเพิ่มแรงเบรคอัตโนมัติให้กับระบบเบรค ABS เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะขณะที่มีการเบรคฉุกเฉิน น้ำหนักของเท้าที่ลงแป้นเบรคนั้นไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะสามารถหยุดรถได้ จึงต้องใช้คอมพิวเตอร์ตรวจจับแรงเหยียบ
โดยจะได้ระยะเบรกที่สั้นลงก่อนเกิดการชนขึ้น
Lane Departure Warning (LDW)
ในบางครั้งหากขับรถอยู่แล้วคุณเผลอหลับ จนรถกินไปเลนข้าง ๆ หรือมีการเปลี่ยนเลนโดยไม่เปิดไฟเลี้ยว ระบบเตือนการออกนอกเลนก็จะส่งเสียงขึ้นมาเตือนหรือมีการสั่นที่พวงมาลัย ช่วยลดอุบัติเหตุได้มากทีเดียว
Lane-Keeping Assist (LKA)
หากใครใช้รถแพงขึ้นมาอีกหน่อยอาจจะเพิ่มระบบช่วยทำให้รถอยู่ในเลนมาให้ โดยเมื่อออกนอกเลนไปแล้วแต่ผู้ขับขี่ยังไม่ได้หมุนพวงมาลัยกลับ ตัวรถจะทำการดึงกลับให้เอง
แต่ควรจะระวังเนื่องจากในบางคันมีการดึงที่แรงมาก หรือบางคนอาจตกใจเผลอดึงพวงมาลัยเพิ่มก็มี
Adaptive Cruise Control
จริง ๆ แล้วระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติหรือ Cruise Control ธรรมดาที่เรารู้จักกันนั้น จะช่วยแค่การคงความเร็วเอาไว้เท่านั้น ไม่ได้ช่วยในการเบรกแต่อย่างใด
แต่หากใครมีระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน จะทำงานล้ำไปอีกขั้น โดยจะตรวจจับความเร็วรถคันหน้า หลังจากที่เซ็ทอัพความเร็วและระยะห่างแล้ว จะทำการวัดระยะห่างของรถคันหน้า เพื่อเพิ่ม-ลดความเร็วให้สอดคล้องกัน รวมไปถึงรักษาระยะห่างให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย
อยู่ที่คนขับ
สุดท้ายนี้ แม้จะมีรถที่ปลอดภัยมากแค่ไหน แต่ถ้าเกิดความประมาทขึ้นมา หลวงพ่อวัดไหนก็เอาไม่อยู่ เพราะระบบเหล่านี้จะช่วยแค่เสริมความปลอดภัย ทั้งหมดอยู่ที่คนขับขี่ล้วน ๆ