New 2019 Toyota Vios (2019 โตโยต้า วีออส) รถยนต์นั่งขนาดเล็กที่เป็นไอคอนแห่งยุคสมัย ด้วยเกียรติประวัติอันยาวนาน ยอดจำหน่ายสะสมที่ถือว่าเป็นรุ่นท็อปรุ่นหนึ่งของประเทศไทย และการตอบรับจากผู้บริโภคทั้งในแง่ของตัวสินค้าที่มีภาพลักษณ์อันโดดเด่น
โตโยต้า (Toyota) ทำตลาดรถยนต์นั่งที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรคันนี้ของพวกเขาไปพร้อม ๆ กับการเปิดตัวรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็กกว่า ท่ามกลางคำถามว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่ และโตโยต้า วีออส จะได้รับโอกาสในการทำตลาดไปอีกนานมากน้อยเพียงใด
หากดูยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งขนาดเล็กในเดือนล่าสุด วีออสก็ยังสามารถทำยอดจำหน่ายได้เป็นอันดับ 6 ของตลาด ดีกว่ารถยนต์นั่งรุ่นใหม่หลาย ๆ รุ่น และนี่คือเหตุผล 5 ข้อ ที่เรามั่นใจว่าเป็นจุดตัดสินของผู้บริโภค ที่ทำให้รถคันนี้ยังได้ไปต่อในตลาดประเทศไทยไปจนกว่าจะหมดอายุของโฉมนี้แน่นอน
1.ผู้บริโภคยังไว้ใจเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร
อย่างที่เรารู้กันว่าคนไทยนั้นซื้อรถยนต์ 1 คัน พวกเขาจะใช้งานมันอย่างเต็มที่ ทั้งในชีวิตประจำวันที่ขับไปไหนมาไหนในเมือง ออกไปช็อปปิ้งในวันหยุด หรือแม้แต่การขับรถออกไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน เรียกว่าใช้คันเดียวครบถ้วนทุกอย่าง อยู่กันในทุกโมเมนต์ของชีวิต
รถยนต์อีโคคาร์ที่ใช้เครื่องยนต์เล็กนั้น แม้จะได้รับการพิสูจน์ว่ามีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม แต่ในความรู้สึกของผู้บริโภคที่จะซื้อรถ พวกเขาก็ยังหวาดหวั่นอยู่ ในเรื่องของความทนทานและการใช้งานระยะยาว จึงเป็นช่องว่างให้กับรถยนต์กลุ่มเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ที่ทำตลาดได้อยู่
โตโยต้า วีออส กลายเป็นทางเลือกท้าย ๆ ของผู้บริโภคที่ต้องการรถยนต์เครื่องยนต์ขนาดนี้ แถมตัวรถเองก็ได้รับการพิสูจน์มาอย่างยาวนานว่าใช้งานได้เป็นอย่างดี มีความสะดวกสบายครบถ้วนเหมาะสม แถมยังมีการพ้ฒนาเพิ่มเติมของจุกจิกเข้าไปมากขึ้นอีกในเวอร์ชั่นปรับโฉมล่าสุด
2.สมรรถนะถือว่ายังดีอยู่
เครื่องยนต์ 2NR-FBE แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว แถวเรียง พร้อมเทคโนโลยีวาล์วแปรผันอัจฉริยะ Dual VVT-i ให้กำลังสูงสุด 108 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิด 140 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที ยังเป็นเครื่องยนต์ที่ให้สมรรถนะเทียบเคียงกับอีโคคาร์รุ่นใหม่ ๆ อยู่
การส่งกำลังเป็นหน้าที่ของเกียร์อัตโนมัติแบบซีวีที ที่ล็อคพูเล่ย์ 7 จังหวะ ให้การตอบสนองที่ยอดเยี่ยม ส่งกำลังลงล้อคู่หน้า พร้อมด้วยการควบคุมที่ยอดเยี่ยมของพวงมาลัยไฟฟ้าแบบ EPS ทำให้รถคันนี้มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียงแค่ 5.1 เมตร เพิ่มความคล่องแคล่วในการขับขี่
การขับขี่ของรถให้ความคล่องแคล่วพอตัว ช่วงล่างให้การรองรับการกระแทกอย่างนุ่มนวล จะขับแบบเอื่อย ๆ ใช้งานในเมืองก็ได้ หรือจะไปต่างจังหวัดก็ดี แถมไม่ต้องลากเครื่องลากรอบกันให้เหนื่อย เอาเป็นว่านี่คือรถที่สามารถใช้งานได้ดีในชีวิตประจำวันก็แล้วกัน
3.ราคาท้าชนอีโคคาร์ได้
ในการปรับโฉมครั้งล่าสุด โตโยต้าได้ทำการปรับในส่วนของรุ่นย่อย ด้วยการตัดรุ่นย่อยที่ทำตลาดทิ้งลงไป 1 รุ่น พร้อมเปลี่ยนชื่อเรียกรุ่นย่อยที่เหลือเพียง 3 รุ่นว่า เอ็นทรี (Entry) มิด (Mid) และไฮ (High) ตามลำดับไหล่ของอุปกรณ์ที่ติดตั้งเพิ่มเข้าไปในตัวรถ
นอกจากนี้ โตโยต้าได้ทำการตรึงราคารถยนต์รุ่นบนสุดและล่างสุด แถมยังลดราคารถรุ่นกลางลงไปอีก 3 หมื่นบาท ซึ่งสวนทางกับการใส่ของใหม่ ๆ เพิ่มเข้าไปในตัวรถ ซึ่งถือว่าเป็นการทำราคาเพื่อรอรับมือกับตลาดอีโคคาร์ ด้วยจุดขายเครื่องยนต์ใหญ่กว่า ราคาไม่ต่างกันมาก
ทำให้ราคาในรุ่น Entry ยังอยู่ที่ 6.09 แสนบาท รุ่น Mid ลดลงไปเหลือ 6.99 แสนบาท และรุ่น High ราคาอยู่ที่ 7.89 แสนบาท ราคาอยู่ในช่วงของอีโคคาร์รุ่นท๋็อป ซึ่งทำให้ผู้บริโภคไม่สามารถตัดโตโยต้า วีออส ออกไปจากตัวเลือกที่น่าสนใจได้จริง ๆ
4.ระบบความปลอดภัยและอุปกรณ์ที่มากขึ้น
แม้จะเป็นรถที่ทำตลาดมาสักระยะ ทำให้ไม่สามารถติดตั้งระบบช่วยเหลือด้านการขับขี่อะไรได้มาก แต่โตโยต้า วีออส ก็มาพร้อมอุปกรณ์และระบบด้านความปลอดภัยที่ครบครันในทั้ง 3 รุ่นย่อย โดยมีถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง เป็นอุปกรณ์ป้องกันภัยให้กับผู้โดยสารในกรณีเกิดอุบัติเหตุ
ระบบป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุก็มีมาให้เท่าที่จำเป็นต้องใช้งานในรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ระบบกระจายแรงเบรกแบบอีเลกทรอนิกส์ ระบบเสริมแรงเบรก ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ซึ่งทำให้ผู้ขับขี่ใช้งานรถคันนี้ได้อย่างสบายใจ
ในรุ่นท็อปมาพร้อมกล้องบันทึกการขับขี่ที่ด้านหน้าของรถ เซนเซอร์กะระยะเพื่อช่วยถอยจอดด้านหลัง 2 ตำแหน่ว ทำงานร่วมกับกล้องส่องภาพด้านหลังขณะถอยจอด ซึ่งการเป็นรถยนต์รุ่นเก่ากว่า ทำให้ไม่สามารถใส่อุปกรณ์อะไรเข้าไปเพิ่มเยอะแยะ แต่ที่ให้มาก็ถือว่าโอเคแล้วสำหรับการขับขี่
5.อุ่นใจทั่วไทยกับศูนย์บริการเยอะที่สุด
ถ้าศูนย์บริการของรถคือสิ่งที่สามารถสร้างความสบายใจในการใช้งานให้กับผู้ขับขี่ทั่วไป โดยเฉพาะเวลาต้องไปในสถานที่แปลก ๆ หากมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นกับรถในตอนที่ใช้งานอยู่ การมีศูนย์บริการที่อยู่ใกล้เคียง ที่พร้อมดูแลก็คงเป็นเรื่องที่ดีสำหรับลูกค้าทุกคน
โตโยต้านั้นมีเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการที่มากและครบวงจรที่สุดในประเทศไทย โดบพวกเขามีเครือข่ายมากกว่า 400 แห่งทั่วประเทศไทย พร้อมด้วยช่างผู้ชำนาญการในการดูแลรถของโตโยต้าทุกรุ่น สร้างความอุ่นใจใหักับลูกค้าของพวกเขาตลอดการเดินทาง
แถมศูนย์บริการแต่ละแห่งชอบมีบริการลดแหลกแจกแถมกันเป็นระยะ เรียกว่าหากเป็นเจ้าของรถยนต์โตโยต้าแล้วก็รู้สึกอุ่นใจได้ อันนี้ยังรวมไปถึงบริการหลังการขายอื่น ๆ เช่น การรับซื้อและตีราคารถยนต์มือสองของโตโยต้า ชัวร์ (Toyota Sure) หรือบริการเช่าซื้อรถยนต์ส่วนบุคคลระยะยาวอย่างคินโต (Kinto) ด้วยนะ