ใกล้วันเปิดราคาอย่างเป็นทางการของ 2021 MG5 (เอ็มจี5) เข้าไปทุกวัน ซึ่งก็มีหลายคนคาดการณ์ว่าจะมีราคาเริ่มต้นที่ 600,000 บาทเพื่อให้พอลงมาสู้กับกลุ่มบีเซกเมนต์ได้บ้าง
แต่หากมองในด้านเครื่องยนต์ ก็ถือว่าน่าเสียดายที่ทาง MG (เอ็มจี) ยังไม่ได้จัดเครื่องยนต์เทอร์โบมาให้กับประเทศไทย แล้วแบบนี้เขามีเครื่องยนต์และออพชั่นอะไรเพื่อที่จะมาสู้กับกลุ่มซีเซกเมนต์ในบ้านเราได้บ้าง
ทำไมเทอร์โบไม่มานะ
จริง ๆ ถือว่าน่าเสียดายมากที่เครื่องยนต์เทอร์โบของเอ็มจี5 นั้นยังไม่เข้าไทย เพราะทางเอ็มจีบอกว่า เครื่องยนต์, เกียร์ และเฟืองท้ายนั้นยกมาจาก MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) ทั้งหมด แต่เรื่องการขับขี่นั้นคาดว่าจะทำได้ดีกว่า เนื่องจากมีความเพรียวลม และน้ำหนักที่เบา
ไทยได้เป็น เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบ/นาที จับคู่ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 สปีด
ระบบช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบช่วงล่างหลัง Torsion Beam
เครื่องยนต์ในจีน
ซึ่งจะค่อนข้างต่างจากเวอร์ชั่นที่ขายในประเทศจีน เพราะมีให้เลือก 2 แบบคือ เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 120 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 150 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด
และเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร 173 แรงม้าที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิด 275 นิวตันเมตรที่ 1,750-4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดคลัตช์คู่ DCT
ส่วนหนึ่งที่ยังไม่นำเทอร์โบมา เดาว่าเพราะส่วนหนึ่งอยากขายให้ได้ราคาที่ถูก แต่ก็อย่าพึ่งหมดหวังไป มีความเป็นไปได้ว่าเขาจะนำมาใช้ในรุ่นไมเนอร์เชนจ์แทนก็ได้ ต้องรอดูความคืบหน้าต่อไป
Honda Civic 1.8 & 1.5 Turbo
สำหรับซีเซกเมนต์ที่ขายดีที่สุดในประเทศไทย Honda Civic (ฮอนด้า ซีวิค) ถือว่าค่อนข้างได้เปรียบกว่าคนอื่น เนื่องจากมีเครื่องยนต์ให้เลือกถึง 2 ขนาด ทั้ง 1.8 ลิตรธรรมดาและ 1.5 ลิตรเทอร์โบ
จุดเด่นของเครื่องยนต์ฮอนด้า คือระบบ i-VTEC ที่ให้สมรรถนะความแรงในช่วงรอบสูง พร้อมควบคุมประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ให้เหมาะสมที่สุดในแต่ละสภาวะรอบเครื่องและลักษณะการขับขี่
เทียบ 1.8 Vs. 1.5 Turbo |
สมรรถนะ |
1.8 |
1.5 Turbo |
ความจุ |
1800 ซีซี |
1500 ซีซี |
กำลังสูงสุด |
141 |
173 |
แรงบิดสูงสุด |
174 |
220 |
หากพูดถึงในเรื่องเครื่องยนต์ อาจจะต้องขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละท่านว่าชอบความแรงแค่ไหน และจุดประสงค์ในการใช้งาน
หากคุณขับแต่ในเมือง ไม่ได้ต้องการความแรง ไม่ต้องการเร่งแซงเยอะ เครื่อง 1.8 ก็เพียงพอแล้ว แต่หากออกต่างจังหวัดบ่อย หรือชอบความแรงของเครื่องยนต์ 1.5 Turbo คือคำตอบที่ดีกว่า
Toyota Corolla Altis มีดีที่ไฮบริด
แม้ Toyota Corolla Altis (โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส) จะมีหน้าตาไม่โดดเด่นเท่าคนอื่น แต่เขามีข้อดีที่มีเครื่องยนต์ให้เลือกหลายแบบ ทั้ง 1.6 ลิคร, 1.8 ลิตรและ 1.8 Hybrid ที่มีความประหยัดน้ำมัน
ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตรให้กำลังสูงสุดที่ 125 แรงม้าที่ 6,050 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 156 นิวตันเมตร ที่ 5,200 รอบ/นาที
รุ่น GR Sport และ 1.8 Sport ใหม่ใช้เครื่อง 1.8 ลิตรให้กำลังสูงสุด 140 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที
ส่วนรุ่นไฮบริดทั้ง 3 รุ่นใช้เครื่องยนต์พื้นฐานเดียวกับรุ่น 1.8 ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้าที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตรที่ 3,600 รอบ/นาที เมื่อรวมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแล้ว จะได้แรงเพิ่มเป็น 122 แรงม้า
มีดีที่ได้ความประหยัด มีอัตราประหยัดน้ำมัน 23.3 กม/ลิตร
Mazda 3 Skyactiv-G แรงไม่ต้องเพิ่มเติม
ในส่วนของ Mazda 3 (มาสด้า 3) ใช้เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ซึ่งถือว่าให้มาเยอะ แม้จะยังไม่เท่าซีวิตเทอร์โบก็ตาม
จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ SKYACTIV ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับน้ำมันสูงสุด E85 นอกจากนี้ยังมีข้อดีที่ทุกคนเอ่ยปากถึง คือช่วงล่างที่เกาะถนน ขับขี่ได้นุ่มนวล
แม้ 2021 MG5 จะมีขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่าเจ้าตลาดที่ขายกันอยู่ แต่ตัวเครื่องหากยังไม่ได้รับการเพิ่มกำลัง หรือมีรุ่นเทอร์โบให้เลือก ก็อาจจะยากที่จะเข้าแข่งขันด้วย
แต่ก็ต้องรอดูตอนทดลองขับจริงว่าจะเป็นอย่างไร สมกับที่ต้องการหรือไม่ รอรับชมครับ