2021 MG EP (2021 เอ็มจี อีพี) รถยนต์ไฟฟ้าทรงวากอนจากค่าย MG ที่เปิดตัวมาเป็นรถไฟฟ้ารุ่นที่ 2 ต่อจาก MG ZS EV (เอ็มจี แซดเอส อีวี) ด้วยหน้าตาดูทันสมัย เป็นผู้ใหญ่ แต่แอบแฝงความแรงไว้ในดัวจากมอเตอร์ไฟฟ้า โดย MG วางแผนว่าจะให้เป็นรุ่นที่มีความย่อมเยาว์ ทุกคนเข้าถึงได้ อ่านรายละเอียดได้ที่นี่
วันนี้เรามาดูข้อดีขอข้อเสียของเขากัน ว่าทำได้ดีกว่าเดิมจากรุ่นพี่หรือไม่
สิ่งที่ชอบ
1. แบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น
แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 50.3 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ทำให้เอ็มจี อีพี สามารถวิ่งได้ไกลถึง 380 กิโลเมตร ใช้เวลาชาร์จไว 0-80% ได้ภายใน 40 นาที และชาร์จเต็ม 100% ภายใน 7 ชั่วโมง 15 นาที แบตเตอรี่มากกว่า MG ZS EV ที่วิ่งได้ 337 กิโลเมตรถึง 43 กิโลเมตร
2. ที่เก็บของกว้างขวาง
ด้วยพื้นที่ขนาด 1,456 ลิตร เมื่อพับเบาะลงแล้ว คุณสามารถเก็บจักรยาน กล่องขนาดใหญ่ 2 ใบ และกีต้าร์ได้สบาย ๆ เหมาะกับสายพ่อบ้านที่แท้จริง
3. โหมด Kers ชาร์จไฟกลับเข้าเครื่อง
เอ็มจี อีพี สามารถชาร์จไฟกลับเข้าเครื่องด้วยระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System)ซึ่งเป็นระบบสำรองพลังงานที่รวมเอาพลังงานที่เสียไปจากการเบรกมาแปลงเป็นกระแสไฟฟ้าที่เก็บไว้ในแบตเตอรี
4. ค่าซ่อมบำรุงถูก
ความเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ที่ไม่มีเครื่องยนต์สันดาปภายใน ทำให้ไม่ต้องเสียค่าเปลี่ยนของน้ำมันเครื่องบ่อย ๆ มีค่าซ่อมบำรุงเพียงแค่ 7,828 บาทต่อ 100,000 กิโลเมตร เท่านั้น ซึ่งเป็นค่าเปลี่ยนถ่ายจำพวกคูลแลนท์ หรือน้ำยาแอร์
สิ่งที่ควรจะเปลี่ยนแปลง
1. ฐานล้อสั้น
ด้วยฐานล้อที่มีความยาว 2,665 มิลลิเมตร จะทำให้รถเสียพื้นที่ในห้องโดยสารไป ซึ่งจะสามารถเอาไปเพิ่มในที่เก็บของได้ อีกทั้งยังเสียด้านการทรงตัวของรถในทางตรงอีกด้วย เนื่องจากมีพื้นที่ให้ล้อจับถนนน้อยกว่า
2. รถมีความสูงจากพื้นที่น้อย
รถมีความสูงอยู่ที่ 1,513 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานทั่วไป หากขับผ่านหลุมผ่านบ่ออาจต้องระมัดระวัง ขับผ่านช้า ๆ
3. ไฟหน้าไม่ใช่ LED
ไฟหน้าของ MG EP ยังเป็นไฟแบบโปรเจคเตอร์ แต่ไฟ Daytime Running Light เป็น LED ซึ่งจะเสียด้านความสว่าง แต่ก้จะดีเรื่องความทนทาน ใช้งานได้นาน
4. เบาะยังไม่ใช่ไฟฟ้า
ด้วยความที่เอ็มจีจะให้รถคันนี้เป็นรถไฟฟ้าที่ทุกคนจับต้องได้ ราคาไม่แพง เลยมีการตัดออพชั่นที่ไม่จำเป็นออก จึงยังใช้เป็นปรับมือแบบเดิม
ไม่มีระบบ i-Smart
ระบบ i-Smart ถือเป็นระบบชูธงของ MG ที่สามารถสั่งการระบบต่าง ๆ ภายในรถได้ด้วยเสียงภาษาไทย เช่น โทรเข้า-ออก, เพิ่ม-ลดแอร์, หรือช่วยตรวจสอบความผิดปกติและแจ้งสถานะการทำงานของรถ อาทิ เครื่องยนต์ ลมยาง ระบบเบรก ถุงลมนิรภัย และการล็อกประตู
สิ่งที่รออย่างเดียวสำหรับ 2021 MG EP ก็คือราคา ที่จะมาเปิดตัวกันในงาน Motor Expo 2020 วันที่ 2-13 ธันวาคมที่จะถึงนี้
ซึ่งอันที่จริงแล้วก็เป็นรถที่มีความน่าสนใจ ด้วยการที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่วิ่งได้ไกล สมรรถนะดี บรรจุของได้เยอะ อุปกรณ์ให้มาเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ทำให้เอ็มจี อีพี อาจมีราคาที่ไม่ถึงล้าน เพื่อให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าได้ง่าย สำหรับใครที่สนใจ กำเงินรอไว้แล้วเจอกันที่งานมอเตอร์ เอกซ์โปได้เลยครับ