2021 Mercedes-Benz GLA-Class รถครอสโอเวอร์ SUV ขนาดซับคอมแพคท์หรูที่ล่าสุดก็ได้เปิดตัวรถใหม่รุ่นประกอบในประเทศ ซึ่งนับเป็นเจนเนเรชั่นที่ 2 รถ 2021 Mercedes-Benz GLA-Class รุ่นโฉมใหม่ประกอบไทยก็ยังคงโดดเด่นในเรื่องดีไซน์ และเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่ดีเยี่ยม ด้วยการออกแบบที่สร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของคนยุคใหม่ ตั้งแต่เปิดตัวรุ่นแรกเมื่อปี 2014 ทาง Mercedes-Benz ก็ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับ 2021 Mercedes-Benz GLA-Class รุ่นประกอบไทยนี้จัดจำหน่ายรุ่น Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic ด้วยราคา 2,150,000 บาท โดยเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งราคาต่ำกว่ารุ่นนำเข้าหลักแสน ต้องรอดูกันต่อไปว่า 2021 Mercedes-Benz GLA-Class รุ่นประกอบไทยจะสามารถชิงส่วนแบ่งตลาดจาก BMW X1 ได้หรือไม่ แต่ก่อนที่จะไปวิเคราะห์ AutoFun จะพาไปทำความรู้จัก Mercedes-Benz GLA-Class ว่าจากรุ่นแรกถึงรุ่นปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
2014 Mercedes Benz GLA
Mercedes-Benz GLA-Class ในรุ่นแรกใช้พื้นฐานการออกแบบและงานวิศวกรรมร่วมกับ Mercedes-Benz A-Class ที่มาพร้อมเส้นสายสวยงาม ภายนอกประกอบกันอย่างประณีต ระบบไฟหน้าเป็น Bi-Xenon ที่โดดเด่นในเรื่องของการส่องสว่างวงกว้าง พร้อมไฟเบรกและไฟท้าย LED ให้ความสว่างชัดเจน ประกอบกับการตกแต่งของรถที่มีชุดสเกิร์ตตกแต่งรอบคัน ตัวถังยกสูง ท่อไอเสียคู่ปลายโครเมียม ล้อแม๊กซ์ขนาด 18 นิ้ว
ทางด้านดีไซน์ภายในกว้างขวาง เพิ่มความเป็นสปอร์ตครอสโอเวอร์มากขึ้นด้วยเบาะนั่งสปอร์ตหุ้มหนังสลับผ้า คอนโซนหน้าลายอะลูมิเนียม อุปกรณ์ต่างๆมีการจัดวางให้สามารถใช้งานได้ง่าย ฝั่งของผู้โดยสารก็กว้างขวางสามารถยืดขาได้สบาย อีกทั้งยังสามารถพับเบาะนั่งหลังได้แบบ 60:40 ช่วยเพิ่มพื้นที่โซนห้องเก็บสัมภาระ นอกจากนี้ยังมีระบบ Infotainment ที่อยู่ตรงกลางรถ มีระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ที่ทำให้ภายในห้องโดยสารเย็นสบาย พร้อมพวงมาลัยพร้อมฟังก์ชั่น Paddle Shift
ส่วนระบบขับเคลื่อนของ 2014 Mercedes-Benz GLA-Class ในไทยนำมาจำหน่ายแค่รุ่นเดียวคือ GLA 200 เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ เทอร์โบ มีความจุ 1,600 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7G-DCT เร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วดมง ภายใน 8.8 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 215 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 20.4 กิโลเมตรต่อลิตร ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าและมีเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยครบครัน ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และที่พนักพิงศีรษะ ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (ASR) ระบบป้องกันเบรกล็อก (ABS) ระบบช่วยเบรก (BAS) ระบบช่วยออกตัวขณะขึ้นทางชัน เป็นต้น
2019 Mercedes Benz GLA
2019 Mercedes-Benz GLA-Class เป็นเจนเนเรชั่น 2 ของตระกูลนี้ โดยได้เปิดตัวเมื่อปลายปี 2019 โดยถูกสร้างให้ตอบโจทย์การใช้งานของคนยุคใหม่ หน้าตาดูทันสมัยมากขึ้น แต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์สไตล์รถอเนกประสงค์หรู ความสูงของตัวรถสูงขึ้นกว่ารุ่นเดิม การดีไซน์ให้อารมณ์ความเป็นสปอร์ตตั้งแต่หน้ารถจนถึงท้ายรถ ระบบไฟหน้าทั้งหมดเป็นสไตล์ High Performance ที่ส่องสว่างได้อย่างดีเยี่ยม แสดงไฟช่วยลดความเมื่อยล้าในการขับขี่ กระจังหน้าถูกออกแบบใหม่สอดคล้องกับไฟหน้าได้อย่างลงตัว
การออกแบบภายในห้องโดยสารเมื่อเทียบกับรุ่นเดิมมีความกว้างขึ้นทั้งด้านหน้าและหลัง การดีไซน์ให้ความรู้สีกแตกต่างจาก Compact Car ทั่วไป เบาะนั่งสบายทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร การจัดดวางส่วนต่างๆให้ใช้งานง่าย ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน การตกแต่งภายในเน้นคนขับเป็นจุดศูนย์กลาง มีการผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อทำให้การใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น 2019 Mercedes-Benz GLA-Class มาพร้อมหน้าจอคู่ Dual Screen Cockpit ขนาด 10.25 นิ้ว มาตรวัด Fully-Digital 10.25 นิ้วที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ Classic Sport Supersport ตามรูปแบบการขับขี่ พร้อมระบบควบคุม Multimedia ” MBUX (Mercedes-Benz User Experience) ที่ช่วยให้การขับขี่ง่ายยิ่งขึ้น
เครื่องยนต์ใน 2019 Mercedes-Benz GLA-Class รุ่นนำเข้ามีให้เลือก 2 ขนาดคือ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ เทอร์โบ ขนาด 1.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า และเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 211 แรงม้า ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด แบบ 7G-DCT ทั้งคู่
2021 Mercedes Benz GLA รุ่นประกอบในไทย
Mercedes Benz GLA การออกแบบภายนอก
2021 Mercedes-Benz GLA-Class ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อกลางเดือนนี้เป็นรุ่นประกอบในไทยทั้งหมดและมีเพียงรุ่นเดียวคือ Mercedes-Benz New GLA200 AMG โดยมีการออกแบบเน้นความทันสมัย ให้มิติสูงขึ้นกว่าเดิมอีกประมาณ 10 เซนติเมตร คือ 1,611 มิลลิเมตร หากรวมราวแร็คหลังคาก็จะสูง 1,616 มิลลิเมตร ทำให้พื้นที่เหนือศีรษะของห้องโดยสารด้านหน้าจึงมีพื้นที่มากขึ้น ส่วนความยาวของตัวรถเป็น 4,410 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,834 มิลลิเมตร และระยะความยาวฐานล้อ 2,729 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1,485 กิโลกรัม ความจุถังน้ำมัน 43 ลิตร การออกแบบลายเส้นด้านข้างและเส้นกระจกข้างยังคงมีความปราดเปรียวตามแบบฉบับในสไตล์คูเป้ ไฟหน้า LED พร้อมไฟส่องสว่างกลางวัน LED Daytime Running Light ไฟท้ายแบ่งเป็น 2 ส่วนในแต่ละฝั่ง ประตูหลังสามารถเปิดได้ใหญ่กว่าเดิมทำให้สะดวกในการเก็บสัมภาระมากยิ่งขึ้น ด้านล่างเป็นล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว
2021 Mercedes-Benz GLA-Class |
ความสูง (มม.) |
1,611 |
ความกว้าง (มม.) |
1,834 |
ความยาว (มม.) |
4,410 |
ระยะฐานล้อ (มม.) |
2,729 |
น้ำหนัก (กก.) |
1,485 |
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) |
43 |
Mercedes Benz GLA การออกแบบภา ยในห้องโดยสาร
การตกแต่งภายในห้องโดยสารของ 2021 Mercedes-Benz GLA-Class มากับชุดแต่ง AMG Interior Package ดีไซน์สไตล์สปอร์ตโมเติร์น หน้าปัดออกแบบล้ำสมัยด้วยทรงปีกนกที่ทดอยาวตั้งแต่ประตูหน้าคอนโซลกลางเชื่อมไปถึงฝั่งผู้ขับขี่ พวงมาลัยมัลติดฟังก์ชั่นทรงสปอร์ตหุ้มหนัง Nappa มีมาตรวัดแบบดิจิตอล ที่สามารถเชื่อมต่อจอแสดงผลระบบ Infotainment แบบ Widescreen แต่ละจอมีขนาด 10.25 นิ้ว ต่อกัน 2 จอ โดยแบ่งการแสดงผลเป็น 2 ส่วนคือ แผงหน้าปัดสำหรับแสดงมาตรวัด และหน้าจอ Infotainment พร้อมเทคโนโลยี MBUX หรือ Mercedes-Benz User Experience ที่ทำงานคู่กับ Mercedes me connect ที่สามารถรอบรับคำสั่งเสียงได้
เครื่องยนต์ 2021 Mercedes Benz GLA
เครื่องยนต์ 2021 Mercedes-Benz GLA-Class ที่ผลิตในประเทศเป็นเครื่องยนต์ GLA 200 AMG Dynamic เครื่องเบนซินขนาดเล็กแบบ 4 สูบเรียง ความจุ 1,332 ซีซี อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ (7G - DCT) พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Steering-wheel Gearshift Paddles) ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 5500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1620-4000 รอบต่อนาที ความเร็วสูงสุด 207 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 16.6 – 17.5 กิโลเมตรต่อลิตร อัตราการคายคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสีย 130 – 137 กรัมต่อกิโลเมตร
2021 Mercedes-Benz GLA-Class |
เครื่องยนต์ |
GLA 200 AMG Dynamic |
ความจุ |
1,332 ซีซี |
เกียร์ |
อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ (7G - DCT) |
ให้กำลังสูงสุด |
163 แรงม้า |
แรงบิดสูงสุด |
250 นิวตันเมตร |
อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย |
16.6 – 17.5 กิโลเมตรต่อลิตร |
สำหรับ 2021 Mercedes-Benz GLA-Class รุ่นประกอบในไทยนี้เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อกลางเดือน โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 2,399,000 บาท เมื่อเทียบกับ BMW X1 แล้วมีราคาสูงกว่า แม้ว่าจะเป็นรุ่นประกอบในไทยก็ตาม ด้วยราคาเริ่มต้น 1,969,000 บาท แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นกับผู้ใช้งานจริงว่าชอบแบบไหน รุ่นไหนตอบโจทย์มากกว่ากัน