หากมองการซื้อรถยนต์แล้ว หลายคนมักจะเล็งไปที่การซื้อตัวท้อป ที่แพงที่สุดแต่ก็ได้ออพชั่นดี ๆ เยอะสุด ช่วงนี้ที่เป็นที่นิยมกันคือ 2021 Honda City (ฮอนด้า ซิตี้) ที่ได้รับการปรับโฉมทั้งคัน เพิ่มออพชั่น อัดเทอร์โบเข้าไป
และเขาก็ยังมีพี่น้องที่แพงกว่า แต่ปลอดภัยและประหยัดกว่าคือ 2021 Honda City e:HEV (ฮอนด้า ซิตี้ อีเอชอีวี) แบบนี้เขาผ่อนต่างกันเท่าไร ควรซื้อคันไหนดี?
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
Honda City RS
ราคา 739,000 บาท จากในเว็บไซต์ Honda (ฮอนด้า) แคมเปญที่คุ้มสุดคือ ดอกเบี้ย 2.29% พร้อมฮอนด้าช่วยผ่อน เดือนละ 1,000 บาท นาน 12 เดือน รวมมูลค่า 12,000 บาท เมื่อดาวน์ 25% ผ่อน 12-48 เดือน
Honda City RS |
ดาวน์ 25% |
48 เดือน |
184,750 บาท |
12,605 บาท |
Honda City e:HEV
ราคา 839,000 บาท ข้อเสนอดอกเบี้ย 2.99% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี เมื่อดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน
Honda City e:HEV |
ดาวน์ 25% |
48 เดือน |
209,750 บาท |
14,678 บาท |
เมื่อลองทียบกันดูแล้ว รุ่นอี:เอชอีวี จะแพงกว่า 100,000 บาท ดาวน์เยอะกว่า 25,000 บาท และผ่อนต่อเดือนแพงกว่า 2,073 บาท ซึ่งถือว่าไม่ต่างกันมาก แต่ได้ออพชั่นดี ๆ อีกเพียบ
สิ่งที่ e:HEV มีมากกว่า
แน่นอนว่าราคาแพงกว่า สิ่งที่เขามีดีกว่าหลัก ๆ คือ เบรคมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Auto Brake Hold
เพิ่มแอร์หลัง ซึ่งถือว่าถูกใจมาก ๆ เพราะ Eco Car คันอื่น ๆ เขายังไม่มีกัน
เทียบเครื่องยนต์
Turbo Vs. e:HEV |
เครื่องยนต์ |
เบนซิน 1.5 |
e:HEV |
แรงม้า |
122 |
126 |
แรงบิด |
173 |
253 |
ประหยัดน้ำมันกว่า
เคลมว่ามีอัตราการประหยัดน้ำมัน 27 กม./ล. จากรุ่นเดิมที่เคลมไว้ประมาณ 23 กม./ล. ดังนั้นการเพิ่มเงิน 1 แสนบาท นั้นจะได้เงินคืนมาเป็นการลดค่าน้ำมันแทน
ระบบความปลอดภัยเหนือกว่า
รุ่นไฮบริดนี้มีการเพิ่มระบบความปลอดภัย Honda Sensing (ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง) ประกอบไปด้วย
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
และสิ่งที่หลายคนอาจไม่รู้ คือ Honda City e:HEv ใช้เป็นดิสก์เบรกทั้งล้อหน้า-หลัง ในขณะที่ City ธรรมดาเบรกหลังยังเป็นดรัมเบรกอยู่
แล้วเลือกคันไหนดี?
จริง ๆ ก็ต้องบอกว่าเลือกยากสักนิดสำหรับ 2 คันนี้ เพราะมองได้หลายมุมมอง หากใช้งานในเมือง Honda City เทอร์โบจะเหมาะกว่า เนื่องจากระบบต่าง ๆ ก็เพียงพอแล้ว
หากคุณออกต่างจังหวัดบ่อย หรือต้องการความประหยัดและปลอดภัย ให้ไปหา Honda City e:HEV จะครบเครื่องกว่า แต่ก็แพงกว่า 100,000 บาท แลกมาด้วยความปลอดภัยและประหยัดค่าน้ำมันไปได้เล็กน้อยก็ถือว่าดี
สุดท้าย ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งานของแต่ละคน ใครสนใจคันไหน ก็เดินเข้าโชว์รูม Honda กันได้เลยครับ
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });