2021 BMW iX และ 2021 BMW iX3 (2021 บีเอ็ม ไอเอ็กซ์ และ 2021 บีเอ็มดับเบิลยู ไอเอ็กซ์3) เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว นับถอยหลังสิ้นสุดเครื่องยนต์สันดาปแบบดั้งเดิม

BMW ระบุว่า iX3 ที่จำหน่ายในประเทศไทยเป็นการนำเข้าจากประเทศจีน ส่วน iX จะมาจากโรงงานดิงโกลฟิงในประเทศเยอรมนี กำหนดการส่งมอบรถทั้งสองรุ่นให้ลูกค้าในบ้านเราตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปีนี้เป็นต้นไป ค่ายรถยักษ์ใหญ่เยอรมันมีความมั่นใจอย่างมากว่าจะรักษาตำแหน่งผู้นำเซกเมนท์พรีเมียมอย่างต่อเนื่อง

ก่อนที่จะทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั้งสองรุ่น BMW ระบุว่าพวกเขาได้ฟีดแบ็กที่ยอดเยี่ยมจากลูกค้า อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถยืนยันเป้ายอดขายได้ ผู้บริหารของค่ายรถตราฟ้าขาวยังระบุด้วยว่ายังไม่มีแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยในอนาคตอันใกล้

BMW iX3 แตกไลน์รถอเนกประสงค์พลังงานไฟฟ้า

รถเอสเอวี (Sport Activity Vehicle) รุ่นแรกของ BMW ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า 100% พัฒนาบนแพลตฟอร์มเดียวกับ BMW X3 (บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์3) ถูกสร้างขึ้นด้วยแนวคิดเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าสามารถจับจองใช้งานตามไลฟ์สไตล์ของตนเอง

รูปลักษณ์มีเอกลักษณ์แตกต่างจากรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน เริ่มต้นจากโลโก้ BMW ที่ล้อมกรอบด้วยวงแหวนสีน้ำเงิน ล้ออัลลอยแบบแอโรไดนามิกขนาด 20 นิ้ว ตัวถังภายนอกมีทั้งหมด 5 สีให้เลือกสรร ได้แก่ สีดำ Carbon Black สีขาว Mineral White สีฟ้า Phytonic Blue สีแดง Piemont Red และสีเทา Sophisto Grey

ภายในห้องโดยสารยกโครงสร้างมาจาก X3 รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ แตกต่างกันที่โลโก้ BMW ที่มีกรอบวงแหวนน้ำเงินเช่นกัน หัวเกียร์ตกแต่งด้วยแถบสีฟ้า และมีตราสัญลักษณ์ iX3 เน้นบรรยากาศแบบรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ

ไฮไลท์ของ iX3 ยังอยู่ที่ความหลากหลายในการใช้งาน มาพร้อมพื้นที่กว้างขวางกว่า X3 รุ่นอื่น ๆ เบาะหลังพับได้แบบ 40 : 20 : 40  ซึ่งช่วยเพิ่มปริมาตรการบรรจุสัมภาระจาก 510 ถึง 1,560 ลิตร เสริมความเอ็กซ์คลูซีฟด้วยระบบเสียง BMW IconicSounds Electric ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน 

iX3 ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว พละกำลังสูงสุด 286 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง อัตราเร่ง 0-100 กม. ต่อชม. ใน 6.8 วินาที ใช้แพ็คแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 74 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง สามารถโลดแล่นด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกลสูงสุด 470 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

รองรับการชาร์จแบบเร็ว DC กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถชาร์จ 0-80% ในเวลาเพียง 34 นาที ขณะที่การชาร์จแบบปกติ AC ชาร์จ 0-100% ประมาณ 7.5 ชั่วโมง ระหว่างชาร์จไฟ ผู้ใช้สามารถเช็คสถานะผ่านสมาร์ทโฟนได้

ราคาจำหน่าย BMW iX3 อยู่ที่ 3,399,000 บาท แถมไอ-วอลล์บ็อกซ์ 11 กิโลวัตต์ และแพ็คเกจ BSI ดูแลรักษานาน 4 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง

ปัจจุบัน ราคาจำหน่ายของ BMW X3 รุ่นมาตรฐานซึ่งมีทั้งเครื่องยนต์ดีเซล และเบนซินปลั๊กอินไฮบริด เริ่มต้นที่ 3,269,000 – 3,829,000 บาท

BMW iX สุดยอดรถอีวีที่น่าใช้ที่สุดเวลานี้

BMW iX คือรถพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกที่สร้างบนแพลตฟอร์มใหม่เอี่ยมสำหรับรถอีวีโดยเฉพาะ พัฒนาต่อยอดจากรถต้นแบบ iNext รูปลักษณ์เน้นความล้ำสมัยและหรูหรา สะดุดตาด้วยกระจังหน้าไตคู่ kidney grille ขนาดโอเวอร์ไซส์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวเก็บเซ็นเซอร์ต่าง ๆ สำหรับควบคุมการทำงานของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่

ถึงแม้จะมีตัวถังสไตล์รถอเนกประสงค์ แต่สัดส่วนทรวดทรงของ iX มีความปราดเปรียวด้วยค่าแรงเสียดทานอากาศเพียง Cd 0.25 เท่านั้น โลโก้ BMW ด้านหน้ายังมีการซ่อนจุดฉีดน้ำล้างกระจกหน้าอีกด้วย ภายนอกมีทั้งหมด 6 สีให้เลือกสรร ได้แก่สีแดง  Aventurin Red สีดำ Black Sapphire สีขาว Mineral White สีฟ้า Phytonic Blue, สีเทา Sophisto Grey และสี Storm Bay

ล้อดีไซน์แอโรไดนามิกขนาด 22 นิ้ว แบบสลับสี ขัดเงาสามมิติ เสริมด้วยยางล้อลดเสียงรบกวนที่มีชั้นโฟมบริเวณพื้นผิวด้านในเพื่อลดการเกิดเสียงได้รับการติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน

BMW ระบุว่าขนาดตัวถังของ iX มีความยาวใกล้เคียงกับรถเอสเอวี X5 (บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์5) ความสูงเทียบเท่า X6 (บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์6) และล้ออัลลอยมีขนาดเทียบเคียงกับ X7 (บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์7) เรียกว่าผสมผสานรถเอสเอวีหลายรุ่นเข้าไว้ในรถพลังงานไฟฟ้ารุ่นนี้

ภายในได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ภายใต้แนวคิดเน้นพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง บรรยากาศเหมือนนั่งอยู่บนเครื่องบินเฟิร์สคลาส เรียบหรู ใช้งานง่าย และมีความสะดวกสบาย

พวงมาลัยมีดีไซน์แบบ 6 เหลี่ยม จอดิสเพลย์เป็นทรงโค้ง Curved Display แสดงผลแบบความละเอียดสูง ผสมผสานจอแสดงผลการทำงาน 12.3 นิ้วของตัวรถเข้ากับจออินโฟเทนเมนท์ 14.9 นิ้ว ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด OS8 ของ BMW  

สำหรับรุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทยนั้นเป็นรุ่นท็อปที่ครบครันอุปกรณ์อำนวยความสะดวกแบบจัดเต็ม ตัวควบคุม iDrive ติดตั้งอยู่บนแผงคอนโซลกลางที่ทำด้วยวัสดุไม้ ระบบเครื่องเสียง Bowers & Wilkins Diamond Surround Sound System ลำโพงถูกติดตั้งแบบฝังอยู่ในเบาะและแผงประตู เรียบเนียนสายตา และให้สุ้มเสียงแบบเข้าถึงความรู้สึก ส่วนเบาะหุ้มหนังแท้ผ่านการฟอกด้วยใบมะกอกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เดินตะเข็บด้ายอย่างหรูหรา

แอพ My BMW มีความชาญฉลาดมากขึ้น สามารถจำแนกระบบสั่งการด้วยเสียงได้แม่นยำมากขึ้น รวมถึงฟังก์ชั่น BMW ID ที่รองรับการใช้งานเฉพาะบุคคลมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีกล้องภายในตัวรถที่สามารถดูผ่านแอพได้ และฟังก์ชั่น BMW Digital Key Plus ซึ่งใช้สมาร์ทโฟนสั่งงานแทนกุญแจรถดั้งเดิมได้

ระบบขับเคลื่อนเป็นรุ่นท็อป iX xDrive 50 ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ด้านหน้าและด้านหลัง กำลังสูงสุด 523 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 765 นิวตันเมตร มีระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อ (Near-actuator wheel slip limitation) ได้รับการติดตั้งควบคู่กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเป็นครั้งแรก ช่วยป้องกันการลื่นไถลของล้อและเพิ่มความเสถียรภาพในการควบคุมรถยิ่งขึ้นอีกระดับ จึงสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม. ภายใน 4.6 วินาทีเท่านั้น แบตเตอรี่มีขนาด 111.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกลถึง 630 กม. ต่อการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง

รองรับการชาร์จเร็วสูงสุด 200 กิโลวัตต์ชั่วโมง จึงสามารถชาร์จโหมดเร็ว DC 0-80% ได้ในเวลาเพียง 35 นาทีหรือชาร์จ 10 นาทีวิ่งได้ไกลกว่า 120 กม. ส่วนการชาร์จปกติ AC ไอ-วอลล์บ็อกซ์ 0-100% ทำได้ภายใน 11 ชั่วโมงหรือต้องเสียบปลั๊กไว้ข้ามคืน

ผู้บริหารของ BMW ไม่แนะนำให้ชาร์จไฟจากปลั๊กในบ้านเรือนตามปกติเพราะต้องใช้เวลาถึง 50 ชั่วโมงเลยทีเดียว 

ระบบการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่แบบแปรผัน (Adaptive recuperation) ช่วยเสริมประสิทธิภาพและระยะการขับขี่ด้วยการดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ให้เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่ โดยใช้ข้อมูลจากระบบนำทางและเซนเซอร์จากระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อรถเข้าใกล้ทางแยก ระดับการดึงพลังงานกลับมาใช้ใหม่จะเพิ่มสูงขึ้น เพื่อเติมพลังงานไฟฟ้ากลับเข้าสู่แบตเตอรี่แรงดันสูง ในขณะเดียวกันก็จะทำให้ความเร็วการขับขี่ลดลง และจะทำงานสลับกับฟังก์ชั่น Coasting ขณะขับขี่บนท้องถนน ซึ่งช่วยให้รถเคลื่อนที่ได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานเมื่อผู้ขับขี่ยกเท้าออกจากแป้นคันเร่ง ผู้ขับขี่สามารถเลือกระดับการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ได้ตามต้องการ ระหว่างระดับสูง ปานกลาง และต่ำ โดยเมื่อเลือกขับขี่ด้วยเกียร์ B ระบบ Recuperation จะทำงานที่ระดับสูงสุดโดยอัตโนมัติเพื่อสร้างประสบการณ์ในการขับขี่แบบ one-pedal feeling

iX ยังมาพร้อมเสียงประกอบการขับขี่ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เติมเต็มความเร้าใจในการขับขี่ทุกครั้งที่เร่งความเร็ว ฟังก์ชั่นจำลองเสียงเครื่องยนต์ BMW IconicSounds Electric ที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน ยังมาพร้อมตัวเลือกเสียงใหม่ล่าสุดจากนักแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลกอย่างฮันส์ ซิมเมอร์

ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และนวัตกรรมหลากหลายที่สุด เหนือกว่ารถยนต์ทุกรุ่นจาก ฺBMW มาพร้อมเซนเซอร์เจเนอเรชั่นใหม่ ซอฟต์แวร์ใหม่ และแพลตฟอร์มในการประมวลผลที่ทรงพลัง ใช้กล้อง 5 ตัว เรดาร์เซนเซอร์อีก 5 ตัว และอัลตร้าโซนิกเซนเซอร์ 12 ตัวในการตรวจจับสภาพแวดล้อมรอบคัน ระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน Steering and Lane Control Assistant ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go รวมถึงระบบที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานอย่างระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus (Parking Assistant Plus) ซึ่งประกอบด้วยกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround View Camera) แสดงภาพพื้นที่โดยรอบของรถให้เห็นแบบสามมิติผ่านระบบ Remote 3D

ราคาจำหน่าย BMW iX เคาะที่ 5,999,000 บาท แถมชุดชาร์จไฟไอ-วอลล์บ็อกซ์และติดตั้งให้ฟรี พร้อมแพ็คเกจบริการหลังการขาย BSI คุ้มครอง 4 ปีและไม่จำกัดระยะทาง ส่วนแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้า BMW มีการรับประกัน 8 ปีหรือ 160,000 กม.

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าสามารถอัพเกรดเป็นแพ็คเกจ BSI Ultimate ด้วยราคา 110,000 บาท เพิ่มระยะเวลาการคุ้มครองเป็น 6 ปีและไม่จำกัดระยะทางได้

BMW เปิดรับจองผ่านระบบออนไลน์วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน ตั้งแต่ 14.00 น. เป็นต้นไปที่เว็บไซต์ bmw.co.th ใครสนใจต้องรีบหน่อยเพราะมีจำนวนจำกัด โดยเฉพาะ BMW iX ที่มีจำนวน 20 คันเท่านั้น เตรียมเงินค่าจองไว้ที่ 200,000 บาทกันได้เลย