2019 Subaru BRZ คือรถรุ่นใหม่จากค่ายดาวลูกไก่ สีฟ้า Subaru ที่จะมาสานต่อตำนานความแรงอีกขั้นของซูบารุให้แรงและเร็วกว่าที่เคยเป็นมา ด้วยรถรุ่นนี้เป็นหนึ่งในความร่วมมือกันระหว่าง Toyota และ Subaru โดยการเอาจุดแข็งของรถทั้ง 2 ค่ายผสานออกมาเป็นรถคันนี้ ซึ่งเราบอกได้เลยว่านี่คือหนึ่งในรถที่มีความน่าประทับใจเป็นอย่างมาก ในราคา 2.66 ล้านบาท ซึ่งจะมีจุดเด่น จุดด้อยอย่างไรบ้างเรามาดูกันครับ
จุดเด่น
1.เครื่องแรงแบบไม่ต้องมีเทอร์โบ
สำหรับ 2019 Subaru BRZ เครื่องยนต์ใช้แบบ ลูกสูบนอน Boxer แบบ 4 สูบ ความจุ 1,998 ซีซี ซึ่งมีข้อดีคือให้ศูนย์ถ่วงต่ำ เพิ่มพละกำลัง และบาลานซ์ตัวรถให้มีความสมดุล มีประสิทธิภาพในการเกาะถนน ใช้ระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีดตรง D-4S ของ Toyota สร้างแรงม้าได้สูงสุด 200 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 205 นิวตันเมตรที่ 6,400 - 6,600 รอบต่อนาที แรงแบบไม่ต้องพึ่งเทอร์โบใด ๆ ที่ฝาครอบเครื่องยนต์เราจึงเห็นเป็นรหัส D-4S Boxer
ซึ่งการที่เครื่องยนต์ไม่มีระบบเทอร์โบเข้ามา ทำให้ผู้ขับขี่ขับได้สนุกมากขึ้นโดยไม่ต้องพะวงกับค่าบูสต์เทอร์โบ อาการรอรอบ และบูสต์ไหล ขับได้สนุกทั้งในชีวิตประจำวันและบางวันที่อยากปลดปล่อยความแรงในตัวเราและรถออกมาบนท้องถนน
2.อะไหล่ใช้ร่วมกับ Toyota GT 86 ได้
ประวัติความเป็นมาของรถคันนี้เกิดจากความร่วมมือของ Toyota และ Subaru โดยทาง Toyota ต้องการรื้อโปรเจคสร้างรถสปอร์ตรหัส 86 ในตำนานให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง โดยมองไปที่เครื่องยนต์สูบนอนที่ตอบโจทย์ในสิ่งที่เครื่องยนต์ของ Toyota นั้นไม่มี ในขณะที่ Subaru ก็ต้องการลองตลาดรถขับเคลื่อนล้อหลัง ที่ไม่มีเทอร์โบสร้างความแปลกใหม่ให้กับค่ายแม้ว่าจะมีรุ่น WRX STi เป็นตัวชูโรงอยู่แล้วก็ตาม และด้วยความร่วมมือนี้ รถฝาแฝดต่างค่ายระดับตำนานจึงถือกำเนิดขึ้นมา ด้วยหน้าตาที่คล้ายกันตั้งแต่ภายนอกยันเครื่องยนต์ภายใน ดังนั้นอะไหล่ชิ้นส่วน จึงสามารถใช้ร่วมกันได้อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน
3.หน้าตาดุดันสะดุดทุกสายตา
เพียงแว่บแรกที่เราเห็นภาพรถคันนี้ไม่ว่าจะเป็นในรูปถ่ายหรือตัวจริง ทุกคนยอมรับว่าสวยโฉบเฉี่ยว เส้นสายรอบตัวถังออกแบบได้เพรียว แต่ยังดูมีมัดกล้ามดูมีพละกำลัง ถ้าเทียบกับรูปร่างผู้ชายก็น่าจะหุ่นประมาณ Chris Hemsworth พระเอกจากภาพยนตร์เรื่อง Thor ด้านท้ายใช้ท่อไอเสียคู่ Twin Tail ปลายโครเมียม ดูเท่ขึ้นไป ใช้ล้อขนาด 17 นิ้ว สีทูโทนดำเงิน ยางขนาด 215/45 R17 แก้มบางได้ใจ เกาะถนนดีเยี่ยม
ภายออกแบบแนวสปอร์ตคาร์ ให้อารมณ์รถแข่งเน้นความเป็นอะนาล็อกเสียส่วนใหญ่ แผงหน้าจอใช้มาตรวัดแบบเข็ม ปุ่มปรับเครื่องปรับอากาศใช้แบบหมุน เบาะนั่งแบบสปอร์ตให้อารมณ์อยู่ในรถสปอร์ตเต็มตัว
จุดด้อย
1.ไม่มีรุ่นติดเทอร์โบจำหน่าย
คนที่ชอบความแรงแบบติดเทอร์โบอยากได้อารมณ์รอรอบ รอบูสต์ ต้องผิดหวังไปตาม ๆ กันเพราะทาง Subaru ประกาศออกมาชัดเจนแล้วว่าจะไม่มีการออกรุ่นติดเทอร์โบออกมาอย่างแน่นอน จากการประเมินของนักขับสายซิ่งทั้งหลายให้ความเห็นในทิศทางเดียวกันว่าถ้าเครื่องนี้ติดเทอร์โบ อาจรีดแรงม้าออกมาได้ถึง 300 ตัวคงไม่ใช่เรื่องที่เกินกำลัง ทำให้พวกเขาต้องหาซื้อชุดเทอร์โบแบบซูเปอร์ชาร์จมาติดตั้งเอง
อย่างไรก็ตามในจุดด้อยนี้เราอาจจะต้องมองกลับไปถึงจุดกำเนิดของรถที่ต้องการรถขับหลังที่ใช้เครื่องยนต์แบบไม่มีเทอร์โบ แต่ยังให้ความสนุกในการขับขี่ไม่ต่างกัน อีกทั้งการออกแบบช่วงล่าง เบรก น้ำหนักตัวรถ และยางที่ใช้ จะต้องสัมพันธ์กับกำลังเครื่องยนต์ ไม่อย่างนั้นถึงมีม้า 300 กว่าตัว แต่เอาลงพื้นไม่หมดก็เสียแรงไปเปล่า ๆ
2.ออปชั่นเสริมให้มาน้อย
รถระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทหลายอย่างผู้ใช้ก็คาดหวังกับออปชั่นการใช้งานแต่ดูเหมือนว่าทาง Subaru จะให้มาแต่พอเพียงเป็นพื้นฐานของรถรุ่นใหม่ที่ควรจะมีเท่านั้นเช่นระบบ เบรก ABS แบบ 4 Sensors/4 Channels ,ระบบสัญญาณไฟหยุดฉุกเฉิน ,ระบบเสริมแรงเบรก ,จุดยึดเบาะนิรภัยสำหรับเด็ก ISO-FIX ,ระบบป้องกันคันเร่งค้าง ,แป้นเหยียบนิรภัย ,ระบบยับยั้งการทำงานของเครื่องยนต์ ,คานนิรภัยเสริมความแข็งแรงบริเวณประตูข้าง ,เฟือง LSD (เฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิป) แบบ Torsen ,ถุงลมนิรภัยด้านหน้า ด้านข้าง และม่านถุงลม SRS ,ระบบควบคุมการทรงตัว (พร้อมโหมดสนามแข่ง) และ ถุงลมนิรภัย SRS ป้องกันเข่า เรียกได้ว่าให้มาแบบพื้นฐานความปลอดภัย ที่เหลือคือฝีมือการขับของเราล้วน ๆ
ทั้งหมดนี้คือข้อดีข้อเสียของ 2019 Subaru BRZ ที่เราควรรู้ก่อนเป็นเจ้าของที่สำคัญที่สุดในการเป็นเจ้าของ Subaru BRZ ก็คือรถคันนี้เป็นระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ไม่เหมือนกับรถของ Subaru รุ่นอื่นที่ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ จึงควรขับด้วยความระมัดระวังอาการท้ายปัด แม้จะมีระบบควบคุมการทรงตัว ติดมาให้ก็ตาม