2020 Mercedes-Benz GLS 350d 4 Matic AMG Premium (เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอส 350ดี) เปิดตัวในช่วงปลายปีที่แล้วพร้อมราคาจำหน่าย 8,859,000 บาท เจาะกลุ่มลูกค้าทั้งผู้บริหารระดับสูงและครอบครัว
ราคาค่าตัวดังกล่าวส่งให้ GLS 350d ขึ่นแท่นรถเอสยูวีระดับซูเปอร์พรีเมียม แน่นอนว่าต้องมาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายที่ครบครัน และความปลอดภัยที่เพียบพร้อม มอบความอุ่นใจได้ในทุกการเดินทาง เรามาชม 5 คุณสมบัติที่ควรรู้ก่อนจับจองเป็นเจ้าของรถเอสยูวีตราดาวรุ่นนี้
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
1. ช่วงล่างถุงลมให้ความสะดวกสบายทุกเส้นทาง
ระบบช่วงล่างแบบถุงลม AIRMATIC Package ใน GLS-Class คือการผสานระบบกันสะเทือนแบบแอ็คทีฟเข้ากับระบบกันสะเทือนด้วยถุงลมอันทันสมัย ทำให้เกิดเป็นช่วงล่างที่นุ่มนวลและอัจฉริยะซึ่งสามารถปรับตั้งค่าให้เหมาะสมกับสถานการณ์การขับขี่ ความเร็ว และการบรรทุกสัมภาระได้โดยอัตโนมัติ ดังนั้นผู้ขับขี่และผู้โดยสารจึงได้รับประโยชน์จากเสถียรภาพในการขับขี่ซึ่งมาพร้อมกับความสะดวกสบายทุกเส้นทาง
2. ภายในกว้างขวาง ปรับได้หลากหลายรูปแบบ
นอกจากการตกแต่งภายในที่หรูหราสมกับแบรนด์ดาวสามแฉกจากเยอรมนี ภายในห้องโดยสารของ GLS-Class ยังสะดวกสบายและรองรับการใช้งานได้ดีด้วยการติดตั้งเบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง โดยเบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับเอนและเลื่อนได้ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมกับมีหน่วยบันทึกความจำและแยกพับอิสระแบบ 40:20:40 ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 3 เป็นแบบฟูลไซส์แยกพับอิสระแบบ 50:50 พื้นที่บรรทุกสัมภาระอยู่ที่ระหว่าง 470 – 2,400 ลิตรขึ้นอยู่กับการพับเบาะ
3. ความปลอดภัยเพียบพร้อม
GLS 350d ได้รับการติดตั้งถุงลมนิรภัยถึง 11 ตำแหน่ง ประกอบด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 4 ตำแหน่ง ม่านถุงลมนิรภัย 4 ตำแหน่ง และถุงลมนิรภัยหัวเข่าคนขับ 1 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยครบครัน อาทิ ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา ระบบชวยรักษารถให้อยู่ในช่องทาง ระบบควบคุมเสถียรภาพ ระบบป้องกันการลื่นไถล ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ และระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ เป็นต้น
4. เครื่องยนต์ดีเซล ทรงพลังและประหยัดกว่าที่คิด
หัวใจขับเคลื่อนของ GLS 350d เป็นเครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 6 สูบ 6 วาล์วต่อสูบ พร้อมเทอร์โบชาร์จแบบ 2 สเตจ ขนาด 3.0 ลิตร 2,925 ซีซี พละกำลังสูงสุด 286 แรงม้าที่ 3,400 – 4,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตรที่ 1,200 – 3,200 รอบต่อนาที ประกบกับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9G-TRONIC) พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
อัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม. ทำได้ในเวลา 7 วินาที ความเร็วสูงสุดโดยประมาณอยู่ที่ 227 กม.ต่อชม. และที่น่าสนใจคืออัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ประมาณ 11 – 12 กม.ต่อลิตร ถือว่าประหยัดน้ำมันอย่างมากเมื่อเทียบกับตัวถังที่ใหญ่โตและน้ำหนักรถกว่า 2 ตันครึ่ง
5. ระบบเลขาส่วนตัวสำหรับผู้ขับขี่
GLS 350d มีระบบสั่งงานด้วยเสียง Hey Mercedes และระบบการสื่อสารและความบันเทิง MBUX อาทิ ระบบขอความช่วยเหลืออัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ (Mercedes-Benz emergency call) อุปกรณ์สื่อสารด้วยสัญญาณ LTE สำหรับบริการ Mercedes me connect ระบบแผนที่นำทางพร้อมบริการ Live Traffic Information ระบบรองรับบริการมัลติมีเดียและความสะดวกสบาย ระบบตั้งค่ารถยนต์ และระบบตรวจสอบสถานะรถยนต์
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });