2020 Proton X50 (โปรตอน เอ็กซ์50) เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศมาเลเซีย พร้อมกับกระแสข่าวว่าคอรถยนต์ชาวไทยจะได้ใช้กันแน่นอนภายในอีก 1-2 ปีข้างหน้า
X50 เป็นรถเอสยูวีขนาดบีเซกเมนท์ มีตำแหน่งการตลาดต่ำกว่ารุ่น X70 รถเอสยูวีขนาดคอมแพ็กต์ซึ่งมีข่าวว่าจะเป็นรถโมเดลแรกที่ Proton จะนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยภายในปี 2564 โดยมีความหวังว่าจะสร้างความสำเร็จได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ไม่ซ้ำรอยความล้มเหลวเหมือนที่เคยประสบมาเมื่อหลายปีก่อน
คู่แข่งของ X50 ประกอบด้วย Honda HR-V, Toyota C-HR และ Corolla Cross รวมถึง MG ZS ที่มียอดขายรั้งตำแหน่งผู้นำเซกเมนท์ในเวลานี้
รูปลักษณ์พอไปวัดไปวา - อุปกรณ์ความสะดวกพอตัว
Proton X50 สเปกมาเลเซียออกจำหน่ายทั้งหมด 4 รุ่นย่อย เริ่มต้นที่ 1.5T Standard, 1.5T Executive, 1.5T Premium และรุ่นสูงสุด 1.5 TGDI Flagship
|
|
Proton X50 |
MG ZS |
ความยาว (มม.) |
4,298 |
4,323 |
ความกว้าง (มม.) |
1,795 |
1,809 |
ความสูง (มม.) |
1,609 |
1,653 |
ระยะฐานล้อ (มม.) |
2,600 |
2,585 |
น้ำหนักรถ (กก.) |
1,340 |
1,290 |
X50 มีมิติตัวถังใกล้เคียงกับ MG ZS ขณะที่รูปลักษณ์ถือว่าสวยงามและมีเส้นสายโฉบเฉี่ยว โดยเฉพาะด้านหน้า กระจังซิกเนเจอร์ Infinite Weave มีสันขอบเฉียบคมพาดไปถึงด้านข้างและบั้นท้าย ล้ออัลลอยมีขนาด 18 นิ้ว หุ้มยาง 215/55 R18 ตัวถังภายนอกมีทั้งสีแบบโมโนโทนมาตรฐานและสีทูโทนตัดกับหลังคาสีดำ
ไฟหน้าเป็นแบบ LED พร้อมเดย์ไลท์ LED มีฟังก์ชั่นเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟตัดหมอกและไฟท้าย LED กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ปรับและพับไฟฟ้า บนหลังคามีพาโนรามิกซันรูฟบานใหญ่ ซึ่งเป็นอ็อปชั่นที่มอบความรู้สึกคุ้มค่าให้แก่ลูกค้าเหมือนกับ ZS
ภายในห้องโดยสารของ Proton X50 ตกแต่งด้วยวัสดุหนัง โดยรุ่นท็อปจะใช้สีสันทูโทนดำสลับแดง เสริมด้วยเมทัลลิก มีระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังพร้อมพอร์ท USB เบาะนั่งผู้ขับขี่หุ้มหนังปรับไฟฟ้า พวงมาลัยหุ้มหนัง บนคอนโซลมีหน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาดใหญ่ถึง 10 นิ้ว
ระบบความปลอดภัยไม่แพ้คู่แข่ง มีกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา ระบบตรวจจับแรงดันลมยาง ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ได้แก่คู่หน้า ด้านข้าง และม่านนิรภัย ที่สำคัญคือมีระบบอิเลคโทรนิคช่วยเหลือผู้ขับขี่ อย่างระบบรักษาเสถียรภาพการทรงตัว ระบบแจ้งเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันและระบบรักษาช่องจราจร เซ็นเซอร์ช่วยจอดด้านหน้าและด้านหลัง รวมถึงระบบเตือนมุมอับสายตา
อ็อปชั่นทั้งหมดข้างต้นใน Proton X50 ใกล้เคียงกับ MG ZS จึงพูดได้ว่ารถเอสยูวีจากแดนเสือเหลืองมีคุณสมบัติที่จะผงาดขึ้นเป็นผู้นำตลาดได้เหมือนกัน
เครื่องยนต์แรงเหนือชั้นกว่าคู่แข่ง
ไฮไลท์ของ Proton X50 คือขุมพลังขับเคลื่อนที่แรงกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จ ไดเรคอินเจคชั่น พละกำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 255 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ดูอัลคลัตช์ 7 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม. คาดว่าจะทำได้ในเวลาเพียง 7.9 วินาทีเท่านั้น
ขณะที่รุ่นเริ่มต้นจะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร พละกำลัง 150 แรงม้า แรงบิด 226 นิวตันเมตร
พละกำลังดังกล่าวทำให้เครื่องยนต์ของ MG ZS ดูเหมือนเด็กน้อยหัดคลานไปในทันทีเพราะใช้บล็อก 3 สูบ 1.5 ลิตรเหมือนกัน แต่มีพละกำลังเพียง 114 แรงม้าเท่านั้น และส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT
Proton X50 ใช้ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันตรัท ด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม ขับเคลื่อนล้อหน้า และใช้ระบบดิสก์เบรก 4 ล้อ
สัมผัสแรก "งานประกอบดี วัสดุให้ความหรูหรา"
เว็บไซต์ Wapcar.my เพือนบ้านของเราจากมาเลเซียได้มีโอกาสสัมผัส Proton X50 รุ่นท็อปไลน์แล้ว โดยมีความเห็นว่าคุณภาพการประกอบอยู่ในระดับดี การเก็บเสียงทำได้ดีมาก วัสดุที่ใช้สร้างบรรยากาศพรีเมียม และระบบอินโฟเทนเมนท์ใช้งานง่าย
จุดด้อยก็คือพื้นที่จัดเก็บสัมภาระดูจะคับแคบไปหน่อย ขณะที่ประตูบานท้ายไม่มีระบบไฟฟ้า และเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้ายังต้องปรับตำแหน่งด้วยมือ
ผู้บริหารของ Proton ยืนยันชัดเจนว่า X50 จะถูกส่งออกจากมาเลเซียไปทำตลาดทั่วอาเซียน หนึ่งในนั้นคือประเทศไทยซึ่งคาดว่าจะได้ยลโฉมตัวจริงกันในช่วงปลายปี 2021 หรือต้นปี 2022
สิ่งที่ต้องจับตามองกันต่อไปก็คือ Proton จะสามารถทำราคาในประเทศไทยได้ดึงดูดเพียงใด (ราคาในมาเลเซียยังไม่เปิดเผย) และจะคัดเลือกอ็อปชั่นแบบจัดเต็มเหมือนกับสเปกจากเพื่อนบ้านของเราหรือไม่ ถ้าทำได้จะกระตุ้นให้ตลาดรถเอสยูวี-บีเซกเมนท์คึกคักขึ้นอีกหลายดีกรีเลยทีเดียว