หลังจากได้มีภาพหลุดของ MG ONE ออกมาให้เห็นกันเมื่อกลางเดือน เผยให้เห็นหน้าตาที่ดูละม้ายคล้ายคลึงกับ 2021 MG5 (เอ็มจี5) ยกสูงออกมาในรูปแบบของ Sub Compact SUV หรือรถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก
โดยได้มีการเปิดเผยภาพคันจริง พร้อมกระจังหน้า 2 แบบออกมาให้เห็น เพื่อให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้าพร้อมกับการใช้แพลตฟอร์มใหม่ "SIGMA" จาก SAIC
MG ONE ชื่อนี้มีที่มา
SAIC MG ระบุว่าตัวอักษร O ในชื่อรุ่น “ONE” มาจากคำว่า “Origin” สื่อถึงจุดเริ่มต้นของแพล็ตฟอร์ม SIGMA ที่ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในรถรุ่นนี้ ขณะที่ตัว N มาจากคำว่า “TWINS” บ่งบอกถึงเทคโนโลยีล่าสุดของ MG ONE และ E มาจากคำว่า NEO ซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษากรีกที่แปลว่า “ใหม่” นั่นเอง
กระจังหน้าให้เลือก 2 แบบ
กระจังหน้าทางเอ็มจีบอกว่ามีแบบ "A" (Alpha) และ "B" (Beta) ให้เลือก เพื่อบ่งบอกถึงความเป็นตัวตัวเองและความทันสมัยของรถ
โดยแบบ A จะเป็นคันสีส้ม Bubble Orange มีโลโก้ MG อยู่ตรงกลางตัวรถ และออกแบบให้เหมือนกับพระอาทิตย์ที่ส่องแสง เข้ากับตัวรถสีส้ม นำเสนอแนวคิดยุคดิจิตอล
ในรูปแบบ B จะคล้ายกับ MG5 ในคอนเซปท์ Shark Hunting หรือปลาฉลามออกล่า ออกแบบให้เป็นขีดสีดำซ้อมกันหลายชั้นดูมีมิติ พร้อมสีเขียว Wilderness Green นำแสนอแนวคิดเทคโนโลยีแล้วแฟชั่น
มิติตัวถัง
กว้าง
1,866 มม.
ยาว
4,579 มม.
สูง
1,601 มม.
ระยะฐานล้อ
2,670 มม.
ภายนอกสวยงามโดดเด่น
โดยดูจากรูปลักษณ์ในภายนอก ทำออกมาเป็นแบบยกสูงดูดุดัน มีไฟหน้าเรียวยาว ยังคงเป็นรูปแบบฉลาม แต่จะมีการเพิ่มรายละเอียดในส่วนของกระจังหน้าที่ทำให้ดูดุดันมากขึ้น มาพร้อมหลังคาสีดำ, ราวหลังคา และซันรูฟ
ด้านท้ายไฟจะมีลักษณะคล้าย MG HS (เอ็มจี เอชเอส) แต่จะเล็กเรียวดูสปอร์ตมากกว่า มาพร้อมที่ปัดน้ำฝนและกันชนล่างสีดำ
ภายในและเครื่องยนต์ยังไม่บอก
น่าเสียดายที่ทั้งรายละเอียดของเครื่อยนต์และภายในยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่จากการคาดเดา ภายในน่าจะมีการยกดีไซน์มาจากเอ็มจี5 อาจมีการทำให้กว้างขึ้นเล็กน้อย
ในส่วนของเครื่องยนต์แจ้งแค่ว่าใช้เป็นเครืองยนต์ ติดตั้งเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลัง 181 แรงม้า แต่ยังไม่มีตัวเลขสำหรับแรงบิดและข้อมูลอื่น ๆ รวมถึงฟังก์ชั่นและระบบความปลอดภัย
รุ่นเบต้า
นอกจากนี้ยังไม่มีรายละเอียดออกมาว่ารุ่นอัลฟ่าและเบต้าแตกต่างกันอย่างไร หากเราลองสังเกตุภายนอกเพียงอย่างเดียวแล้ว ในรุ่นอัลฟ่าจะได้เป็นล้อทรงเหลี่ยมและมีซันรูฟ
แต่เมื่อมองไปทางเบต้าจะดูมีซันรูฟที่กว้างกว่า และได้เป็นล้อแบบ 5 ก้านทำให้ดูมีความเป็นสปอร์ตมากกว่า
รุ่นอัลฟ่า
ในด้านของราคาด้วยขนาดตัวถังของรถ ถูกวางมาให้อยู่ที่กึ่งกลางระหว่าง MG HS และ MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) จึงอาจทำให้ราคานั่นอยู่ระหว่าง 2 คันนี้ ประมาณ 750,000-900,000 บาท เพื่อไม่ให้แพงไปกว่าเอ็มจี เอชเอส
ซึ่งหากมาราคานี้จริง Mazda CX-30 อาจต้องเจอศึกหนัก เนื่องจากเขามีราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ 989,000 บาท
ส่วนจะมาไทยหรือไม่นั้น อาจจะได้คำตอบกันในปีหน้าเนื่องจากมีการเปิดตัวเอ็มจี5 กันไปแล้ว เราอาจจะได้เห็น MG ONE ในรูปแบบไมเนอร์เชนจ์ของ MG HS ก็เป็นได้
ขอบคุณภาพจาก ออโต้โฮม