รถที่ถูกจับตามองที่สุดสำหรับคนไทยในเวลานี้ คงหนีไม่พ้น 2021 Haval H6 HEV (ฮาวาล เอช6 เอชอีวี) จากค่าย Great Wall Motor (เกรท วอลล์ มอเตอร์) ตั้งแต่ตอนเปิดตัวคันจริงในงาน BIMS 2021 ที่ได้รับความสนใจอย่างล้านหลาม
ด้วยหน้าตาที่ทันสมัย ออพชั่นภายในมากมาย อีกทั้งเครื่องยนต์ไฮบริดที่มีการตอบสนองที่ดี เมื่อเปิดให้จองมีการรายงานตัวเลขยอดจองที่กว่า 2,000 คัน หรือเฉลี่ยนาทีละ 1 คัน วันนี้พร้อมเปิดราคารถทั้ง 2 รุ่น Pro ละ Ultra แล้ว
ราคา 2021 Haval H6 HEV |
Pro |
1,149,000 |
Ultra |
1,249,000 |
เครื่องยนต์ที่ใช้
ฮาวาล เอช6 เอชอีวี เครื่องยนต์ใช้เป็นเครื่อง 4 สูบเทอร์โบ 1.5 ลิตร มีกำลัง 110 กิโลวัตต์ (147 แรงม้า) และแรงบิด 230 นิวตันเมตร พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 130 กิโลวัตต์ (174 แรงม้า) และแรงบิด 300 นิวตันเมตร
โดยจะได้กำลังรวมสูงสุด 179 กิโลวัตต์ (239 แรงม้า) และแรงบิด 530 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ DHT ช่วงล่างด้านหน้าอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ช่วงล่างด้านหลังมัลติลิงก์ พร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ ใช้เป็นแพลทฟอร์ฒ LEMON ที่ปิดตัวที่แรกในไทยเช่นกัน
ภายนอกหรูหรา
Haval H6 มีลายเส้นและเส้นโค้งที่เรียบง่าย แต่ก็ยังดูบึกบึน, แข็งแกร่ง, และมีความหรูหราในแบบเอสยูวีจากทางยุโรป ด้วยการตีโป่งรถรอบคัน
กระจังหน้าหุ้มด้วยโครเมียมแบบถัก ใต้โลโก้มีกล้องที่ใช้คู่กับอีกหลายฟีเจอร์ โคมไฟหน้า LED เพิ่มความปลอดภัยด้วยไฟตัดหมอกที่มุมกันชนทั้งสองฝั่ง และติดเซ็นเซอร์ทั้งกันชนหน้าและหลัง
ด้านท้ายมาพร้อมบานประตูท้ายขนาดใหญ่ ไฟท้ายเป็น LED ที่พาดยาวจากซ้ายไปขวาแบบ LED taillight strip มีโลโก้ Haval สีโครเมียมพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 ที่สปอยเลอร์ ใช้เป็นล้ออัลลอยลาย 5 ก้านคู่ 19 นิ้ว รุ่นล่าง 18 นิ้ว
ฮาวาลบอกว่า รถเอสยูวีของพวกเขานั้นมาพร้อมขนาดตัวถังใหญ่ที่สุดในกลุ่มซี-เอสยูวีในประเทศไทย
มิติตัวถัง Haval H6 |
กว้าง |
1,886 มม. |
ยาว |
4,653 มม. |
สูง |
1,724 มม. |
ระยะฐานล้อ |
2,738 มม. |
ภายในหรูหรา
การออกแบบห้องโดยสารภายในของ เอช6 เอชอีวี ด้านหน้าใช้โทนสีโรสโกลด์ ตัดกับสีครีมอ่อนและดำ หน้าจอกลางขนาดใหญ่ รองรับการใช้งาน, สั่งงานและควบคุมรถยนต์คันนี้ทั้งหมด ส่วนหนึ่งสามารถสั่งการได้จากพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อม HUD คันเกียร์ไฟฟ้าแบบหมุน พาโนรามิกซันรูฟขนาดใหญ่ที่พาดยาวเต็มพื้นที่ห้องโดยสาร
โดยรุ่นล่างได้จอ 10 นิ้วส่วนรุ่นท้อปได้ 12 นิ้ว เบาะผู้โดยสารด้านหน้ามาพร้อมระบบปรับไฟฟ้า ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ส่วนตอนหลังนั้น มาพร้อมช่องแอร์และที่ชาร์จไฟด้านหลัง
ระบบปความปลอดภัยเด่น
- Adaptive Cruise Control
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ
- กล้องรอบคัน 360 องศา
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
- ระบบเมื่อเสี่ยงต่อการชน
- ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน
- ระบบควบคุมให้รถอยู่ในเลน
- ระบบควบคุมให้อยู่กลางเลน
- Blind Spot Monitoring
หากเพิ่มเงินไปซื้อรุ่น Ultra จะได้
- ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ
- ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ
- ระบบเลี่ยงรถจากด้านข้าง
- ระบบควบคุมให้รถอยู่ในเลนฉุกเฉิน
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงถูกชนหลัง
- Rear Cross Traffic Alert พร้อมระบบช่วยเบรก
- ระบบช่วยเตือนการปิดประตู
ออพชั่นที่ถือได้ว่าเป็นของใหม่ ไม่เคยมีมาก่อนในเอสยูวีระดับเดียวกันคือ ระบบถอยหลังอัตโนมัติ มีหลักการคือ ในขณะที่ขับรถต่ำกว่า 30 กม./ชม. ผู้ขับต้องกดเปิดระบบบันทึกเส้นทาง เลือกเกียร์ถอย แล้วรถก็สามารถกลับทางเดิมได้ในระยะ 50 เมตร
โดยรถยนต์จะเคลื่อนที่เอง พร้อมกับหมุนพวงมาลัยย้อนกลับอัตโนมัติ โดยใช้ข้อมูลสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ที่ถูกบันทึกไว้
แคมเปญที่มีให้
Ultra Deal มอบดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% สำหรับการผ่อน 48 เดือน แถมประกันภัยชั้น 1ปี แถมขับรถไปส่งมอบให้ถึงบ้าน ไม่ต้องเดินทางมาโชว์รูม น้ำมันให้เต็มถังตั้งแต่ตอนออกรถ
2021 Haval H6 ยังให้บริการ GWM Ultra Service Inclusive
- ฟรีค่าบำรุงรักษานาน 5 ปีหรือ 100,000 กม.
- ค่าอะไหล่และค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทาง พร้อมอะไหล่สิ้นเปลือง เช่น แบตเตอรี่ ผ้าเบรค ใบปัดน้ำฝน รวมมูลค่า 65,000 บาท
- ฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ ตลอด 24 ชั่วโมง มูลค่า 10,000 บาท
- มีบริการนำช่างไปเช็คระยะถึงที่บ้าน 2 ครั้งฟรี มูลค่า 1,500 บาท
- บริการนำรถลูกค้าขับไปศูนย์บริการเช็คระยะและขับกลับมาส่งให้ 4 ครั้งฟรี มูลค่า 3,000 บาท
ศูนย์บริการพร้อมไหม
สำหรับในด้านความมั่นใจของศูนย์บริการ แม้จะบอกว่ามีการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายมากมายรวม 30 แห่งทั่วประเทศ พร้อมส่งอะไหล่ไปยังศูนย์ต่าง ๆ ในต่างจังหวัดภายใน 24 ชม. และเคลมว่าจะมีค่าบำรุงรักษาถูกกว่า SUV ทั่วไปถึง 15%
โดยปัจจุบันมี Direct Store ที่ GWM ลงทุนและบริหารเอง และ Partner Store ที่ทำร่วมกับคู่ขาทางธุรกิจ
Direct Store มีอยู่ที่
- Central Bangna
- Future Park Rangsit
- Silom Complex
และมีแผนที่จะเปิดพิ่มอีก 10 แห่ง ส่วน Partner Store เปิดแล้ว 3 แห่งคือที่
- จรัญสนิทวงษ์
- พระราม 5
- อุดมสุข
และมีแผนจะเปิดให้ครบ 20 แห่งภายในปีนี้ พร้อมกับโชว์รูมและศูนย์บริการเต็มรูปแบบ
แต่ก็คงต้องรอดูว่าจะมีการรองรับลูกค้ากันอย่าไรบ้าง สร้างความประทับใจให้คนไทยได้หรือไม่ รวมถึงความเชี่ยวชาญของช่าง และบริการต่าง ๆ ที่เคลมไว้ครับ