2022 Toyota Camry (โตโยต้า คัมรี่) คืออาวุธหนักจากค่าย Toyota (โตโยต้า) ที่ผู้นำตลาดรถยนต์ในประเทศไทย เปิดตัวออกมาเป็นรุ่นล่าสุดในประเทศไทย เพื่อที่จะขอรักษาบัลลังค์ของตัวเองเอาไว้ พร้อม ๆ กับการตีกันที่ Honda Accord (ฮอนด้า แอคคอร์ด) ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ไม่นาน
ตลาดรถยนต์นั่งขนาดใหญ่ที่มียอดจำหน่ายไม่มาก ถือเป็นหนึ่งในสมรภูมิที่มีการฟาดฟันกันอย่างรุนแรง แม้จะมีผู้ท้าชิงอยู่เพียง 2 รายในตลาด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมูลค่าของรถนั้นถือเป็นเลเวลท็อปสุดของรถยนต์จากแดนปลาดิบในประเทศไทย ที่ทำตลาดกันอยู่ในปัจจุบันนี้
อีกเรื่องก็คือการที่เหลือคู่แข่งอยู่เพียง 2 ราย และตลาดนี้ไม่มีเบอร์หนึ่งถึงสองคน การที่ค่ายอื่น ๆ ต่างถอนตัวกันออกไปหมด ทำให้เซกเมนต์นี้กลายเป็นเหมือนเซกเมนต์แห่งการปล่อยของ เรียกว่ามีของเล่นอะไรใหม่ ๆ รถกลุ่มนี้ล่ะ ที่มักจะได้ใช้งานหรือสัมผัสก่อนรุ่นอื่น ๆ
การเปลี่ยนแปลงของโตโยต้า คัมรี่รุ่นปรับโฉมล่าสุด มีทั้งการเปลี่ยนแปลงภายในและภายนอก การเพิ่มอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมาย และไฮไลท์อยู่ที่การยกเลิกเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เหลือแต่เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร เพื่อเน้นความสปอร์ตในการทำตลาด เอาใจลูกค้ากันอย่างเต็มที่
AutoFun Thailand ได้เดินทางไปร่วมงานกับโตโยต้าที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้ร่วมเดินทางไปกับโตโยต้า คัมรี่ 2.5 สปอร์ต รุ่นใหม่แบบลองขับสั้น ๆ และถือโอกาสเอา 2.5 พรีเมียม ออกมาวิ่งทดสอบทางไกลกันบนเส้นทางคดโค้งขึ้นเขากันอย่างสนุกสนานเป็นระยะเวลาสั้น ๆ แบบสนุกสนาน
ถ้าจะให้นิยามสั้น ๆ คำว่าปราดเปรียวเลี้ยวคม ดูจะเหมาะสมที่สุด...
ตัวท็อปของรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน สำหรับคนไม่พร้อมไปไฮบริด
โตโยต้านั้นทำตลาดรถยนต์นั่งระดับหรูอย่างคัมรี่ด้วยเครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์ไฮบริดมาอย่างยาวนาน เพื่อเอาใจกลุ่มลูกค้าที่อาจจะต้องการความแตกต่างของขุมกำลังของรถยนต์ และเป็นทางเลือกสำหรับลูกค้าที่อาจจะยังไม่มั่นใจหรือไม่ต้องการใช้งานเครื่องยนต์ระบบไฮบริด
ก่อนหน้านี้ พวกเขามีออพชั่นให้กับลูกค้า 2 รุ่นสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน โดยแบ่งกันอย่างชัดเจนด้วยการใช้เครื่องยนต์ที่แตกต่างกันไปเลย โดยให้ลูกค้าเลือกได้ระหว่างเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ที่มาพร้อมออพชั่นที่น้อยกว่า และเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ที่ให้ออพชั่นเท่ากับรุ่นไฮบริดตัวเริ่มต้น
เมื่อตัดสินใจปรับมาใช้เครื่องยนต์ 2.5 ลิตเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้โตโยต้าตัดสินใจปรับตัวอุปกรณ์ทั้งการอำนวยความสะดวก การช่วยเหลือด้านการขับขี่และระบบความปลอดภัยต่าง ๆ มากขึ้นให้กับรุ่นท็อปของเครื่องยนต์เบนซินอย่างชัดเจน เพื่อให้เกิดความแตกต่างระหว่าง 2 รุ่นย่อย
ด้วยราคาจำหน่ายที่แตกต่างกัน 1.24 แสนบาทจากรุ่นย่อย คัมรี่ 2.5 พรีเมียมมีการเพิ่มอุปกรณ์ขึ้นมาหลายตัว โดยเน้นหลัก ๆ ไปที่การเพิ่มอุปกรณ์ช่วยเหลือในการขับขี่ต่าง ๆ รวมถึงการเพิ่มขนาดของล้อและติดตั้งอุปกรณ์ภายนอกมากมาย ที่ทำให้รถมีการควบคุมการขับขี่ที่ดีขึ้นมาก
และแน่นอนว่าแม้กลุ่มลูกค้าที่ซื้อรถคันนี้ไปใช่กับผู้บริหารอาจจะยังไม่หลุดออกมาจากรุ่นเริ่มต้น แต่หากเป็นลูกค้าที่ซื้อรถเพื่อใช้งานส่วนตัวในชีวิตประจำวันแล้ว รุ่นพรีเมียมที่จ่ายเพิ่มอีกไม่ถึง 10% อาจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่าสำหรับลูกค้า และดูคุ้มค่ากว่าอยู่พอสมควร
มีอะไรที่เพิ่มขึ้นมาจากรุ่น 2.5 สปอร์ตกันบ้าง
แม้โตโยต้าจะปรับอุปกรณ์ที่ให้ในรุ่นสปอร์ตมาแล้วอย่างมากมาย แต่พวกเขาก็ยังหาช่องว่างสำหรับการเพิ่มเติมอุปกรณ์ให้กับรุ่นพรีเมียมได้ เหมือนกับยกเอาอุปกรณ์ของไฮบริดรุ่นเริ่มต้นมาใส่เอาไว้ทั้งหมด ยกเว้นแค่ชุดแต่งบางจุดที่เพิ่มขึ้นในรุ่นไฮบริดคันเริ่มต้นที่เติมเข้ามาอีก
โตโยต้า คัมรี่ 2.5 พรีเมียม มาพร้อมอุปกรณ์ที่เพิ่มมาอย่างหลังคามูนรูฟ เพิ่มล้ออัลลอยเป็น 18 นิ้ว เบาะหนังผสมวัสดุสังเคราะห์ ที่ให้เบาะนั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับไฟฟ้าเบาะผู้โดยสารด้านหน้าข้างพนักพิง พนักพิงผู้โดยสารหน้าพับได้ และแพดเดิลชิฟท์
นอกจากนี้ ยังมีระบบจดจำตำแหน่งเบาะผู้ขับขี่และกระจกมองข้าง โหมดการขับขี่ ECO, Normal, Sport ที่เพิ่มขึ้นมา เซนเซอร์กะระยะ หน้า 2 ท้าย 2 มุมกันชน 4 จุด ระบบเซนเซอร์อัจฉริยะ ระบบช่วยเบรกขณะถอยหลัง พร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบเรดาร์ที่ทุกย่านความเร็ว
ระบบดังกล่าวยังมาพร้อมระบบลดความเร็วขณะเข้าโค้ง ที่ทำงานผสานกับระบบครูสคอนโทรล ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ ระบบเตือนความปลอดภัยก่อนการชน ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติ ระบบควบคุมให้รถอยู่ในเลน และระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้า
เรียกว่าหากมองในเรื่องของอุปกรณ์ช่วยเหลือด้านการขับขี่แล้ว ถือว่ามีความคุ้มค่าแล้วก็ครบครันที่สุด และทำให้การจ่ายเพิ่มอีก 1.24 แสนบาท จากรุ่นเริ่มต้นดูมีความน่าสนใจมากขึ้น แต่หากคิดว่าระบบเหล่านี้ไม่จำเป็นมากนัก เลือกใช้งานแบบพื้นฐานก็กลับไปรุ่นสปอร์ตได้เหมือนกัน
อ่านเพิ่มเติม: 2022 Toyota Camry Minorchange เปิดตัวเริ่มต้น 1.475 ล้านบาท ถล่มคู่แข่งด้วยออพชั่นครบทุกรุ่น
เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ที่ให้การตอบสนองที่ดีทุกย่านความเร็ว
อย่างที่ผมเล่าให้ฟังไปตอนต้นว่าการเดินทางจากกทม.ไปเชียงใหม่ ผมนั่งและทดลองขับรุ่นสปอร์ตแบบสั้น ๆ แต่เอารุ่นพรีเมียมมาลองเดี่ยวแบบเต็ม ๆ ทำให้ได้มีโอกาสสัมผัสกับเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรของโตโยต้าแบบเต็ม ๆ ในการขับขี่ที่หลากหลายรูปแบบ ด้วยความเร็วที่แตกต่างกันออกไป
เครื่องยนต์ A25A-FKB ขนาด 2,487 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 209 แรงม้าที่ 6,600 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 250 นิวตัวเมตรที่ 5,000 รอบต่อนาที รองรับการใช้งานเชื้อเพลิงสูงสุดที่อี85 ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ลงสู่ล้อคู่หน้า ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่ดุดันเอาเรื่อง
การออกตัวนั้นเหมือนว่าเครื่องจะเซตอัพมาเพื่อเน้นความนุ่มนวลมากกว่าการออกตัวแบบกระโชกดุดัน เพราะฉะนั้นเมื่อกดคันเร่งลงไปแรง ๆ ก็จะไม่มีอาการกระชากให้เห็น แต่รถก็จะพยามเคลื่อนที่ไปแบบชิล ๆ นุ่ม ๆ ให้สมกับเป็นรถยนต์ระดับหรูหราตัวเรือธงของค่ายโตโยต้า
แต่เมื่อความเร็วได้ถึงระยะหนึ่งและคุณยังยืนยันว่าคุณจะทำความเร็ว ตัวรถก็จะสลัดอาการเนี๊ยบ ๆ ของมันออกมา และก็จะพบว่า แม้จะไม่มีระบบไฟฟ้าเข้ามาช่วยเหลือด้านการขับขี่ แต่เครื่องยนต์ตัวนี้ก็เอาเรื่องอยู่ และการสลับเกียร์ก็เนียนมากจนเรียกได้ว่าขับขี่อย่างสนุกสนาน
การเล่นกับเกียร์ของรถไม่ว่าจะเป็นการโยกคันเกียร์หรือใช้แพดเดิลชิฟท์ทำให้ควบคุมรถได้ดั่งใจ ทั้งการขับขี่บนท้องถนนและการขึ้น-ลงภูเขา โหมดการขับขี่สปอร์ตก็ทำให้การตอบสนองของรถดีขึ้นเมื่อต้องการทำความเร็ว แถมยังให้อัตราการสิ้นเปลืองระดับ 14-15 กิโลเมตรต่อลิตรแบบเฉลี่ย ๆ เลยทีเดียว
ช่วงล่างเอาอยู่ทุกโค้ง แถมพวงมาลัยคมเอาเรื่อง
โตโยต้ายังคงเลือกใช้ช่วงล่างแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทที่ด้านหน้า พร้อมช่วงล่างหลังแบบอิสระปีกนกคู่ โดยเลือกใช้ดิสก์เบรกพร้อมช่องระบายความร้อนที่ล้อคู่หน้า และดิสก์เบรกที่ล้อคู่หลัง โดยใช้พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานให้กับทุกรุ่นย่อยของคัมรี่
นั่นก็หมายความว่าโตโยต้าเองมั่นใจกับเซตอัพแพคเกจนี้ของตัวเองมาก เพราะแม้แต่รุ่นเครื่องยนต์ไฮบริดพวกเขาก็มาพร้อมอุปกรณ์แบบนี้ครบครัน แต่อาจจะแตกต่างกันในเรื่องของระบบช่วยเหลืออื่น ๆ ที่ติดตั้งเพิ่มเข้ามา เพื่อให้ควบคุมรถได้ดีแตกต่างกันออกไปในรุ่นย่อยต่าง ๆ
สิ่งที่ผมมองว่าอาจจะต้องปรับเล็กน้อยสำหรับลูกค้าที่จะซื้อรถคันนี้ไปเพื่อการขับขี่เดินทางไกลบ่อย ๆ ขึ้นเขาลงห้วย ก็น่าจะเป็นเรื่องของยางรถยนต์ ที่โตโยต้าเลือกยางที่เป็นพื้นฐานมาติดตั้งให้ ซึ่งไม่ได้เลวร้ายนะ แต่ถ้าอยากได้สมรรถนะที่ดีขึ้น เปลี่ยนยางแค่ 4 เส้นลงตัวจบเลยไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม
ช่วงล่างของรถนั้นให้ความนุ่มนวล แต่มั่นคงและไว้ใจได้ในการขับขี่ทุกรูปแบบ ทั้งเส้นทางบนถนนที่ต้องการทำความเร็วสูง ผมยังสามารถนอนหลับแบบสบายใจไม่ทุกข์ร้อนได้ แต่เมื่อเอาขึ้นเขาลงห้วยอย่างดอยอินทนนท์ รถคันนี้ก็ไม่ได้ก่ออาการหวาดเสียวในการขับขี่แต่อย่างใด
อีกอย่างต้องยกความดีงามให้กับพวงมาลัยไฟฟ้าที่กระชับและคมกริบในการควบคุมในทุกย่านความเร็ว และยังมีฟังชั่นส์ที่ช่วยให้ควบคุมทุกอย่างได้จากบนพวงมาลัย ทำให้ไม่ต้องละมือออกจากพวงมาลัยในเวลาขับขี่ ซึ่งเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานรถคันนี้เพิ่มขึ้นไปอีก
อ่านเพิ่มเติม: เช็คสเปค Toyota Camry VS Honda Accord พบความจริงว่าใครเหนือว่า แต่ว่าคุณจะเอื้อมถึงไหม ?
อุปกรณ์ทั่วคันรถถือว่าสอบผ่านตามมาตรฐานโตโยต้า
เอาจริง ๆ ด้วยเวลาที่จำกัดและการขับขี่ด้วยตัวเองเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ไม่ได้สนใจที่จะลองเล่นอุปกรณ์อะไรต่าง ๆ มากมายที่ให้มาในรถ ไม่ว่าจะเป็นหลังคามูนรูฟที่ลืมเปิดตอนเจออากาศเย็น 13 องศาที่กิ่วแม่ปาน หรือครูสคอนโทรลแบบเรดาร์ก็ไม่ได้ลองอะไรมากมายในครั้งนี้
ถ้าเป็นอุปกรณ์ที่ได้ใช้บ่อยหน่อยก็จะเป็นไวร์เลส ชาร์จเจอร์ ที่ติดตั้งเพิ่มขึ้นมาให้ หรือการเชื่อมต่อแอนดรอยด์ออโต้ที่ทำได้อย่างง่ายดายเพียงแค่เสียบสาย แต่จริง ๆ ในรถมึอุปกรณ์ติดตั้งมาให้มากมาย อย่างแอร์แบบ 2 โซน หรือเบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Brake Hold ก็ดูดีใช่ย่อย
ตัวรถนั้นมาพร้อมความปลอดภัยที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเข็มขัดนิรภัย 5 ตำแหน่ง ถุงลมนิรภัย 7 ใบ ระบบเตือนรถในมุมอับสายตา กล้องช่วยถอยหลัง พร้อมระบบช่วยเหลือด้านต่าง ๆ เต็มไปหมด เรียกว่าขับไปอาจจะไม่ได้ใช้ทุกระบบ อันไหนไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้มันก็ได้เหมือนกัน
หากขยับไปรุ่นไฮบริด สิ่งที่ได้มาก็คือแบตเตอรี่ที่จะมาช่วยส่งกำลังและผ่อนแรงเครื่องยนต์ สมรรถนะเพิ่มขึ้นพร้อมการกินน้ำมันที่ลดลง พวงมาลัยปรับตำแหน่งแบบไฟฟ้า ถ้ารุ่นท็อปเลย ไฮไลท์อยู่ที่เบาะหลังปรับเอนได้ ระบบปรับอากาศที่เพิ่มโซนด้านหลัง มาพร้อมระบบกรองอากาศนาโน
Toyota Camry ยังเป็นหนึ่งในเรือธงรุ่นใหญ่ของค่ายโตโยต้า ที่นอกจากจะมาพร้อมความพรีเมียมที่สุดของแบรนด์ ยังแบกรับภาระการแข่งขันที่ดุดันหนักหน่วง ทั้งการเจาะตลาดผู้บริหาร ครอบครัวและตลาดฟลีตหลายแห่ง ซึ่งรุ่น 2.5 พรีเมียมนั้นถือว่าคุ้มค่าเลยสำหรับรถยนต์ราคา 1 ล้านบาทกลาง ๆ
ถ้าไม่เชื่อไปลองขับกันดูก่อนได้เลยนะ...
อ่านเพิ่มเติม: 2022 Toyota Camry Minorchange เริ่มผ่อนเพียง 24,000 บาท หรือจะเอา Honda Accord ดาวน์ 0%