รัฐบาลต้องเป็นคนแก้ปัญหาโครงสร้างพื้นฐานของรถ EV หรือไม่ ? หรือใครต้องทำ ?

ในการเปลี่ยนถ่ายจากรถเครื่องยนต์สันดาปไปเป็นพลังงานไฟฟ้านั้นจะทำแบบทันทีเลยไม่ได้ เพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องคำนึงถึง ทั้งห่วงโซ่อุปทานของเครื่องยนต์สันดาป ต้นทุนของเทคโนโลยีใหม่ ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน ฯลฯ 

ถ้าเราจะต้องการเปลี่ยนการใช้พลังงานของอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นไฟฟ้าเร็วขึ้นด้วยเหตุผลทางด้านสิ่งแวดล้อมที่เราไม่สามารถรอได้ รัฐบาลจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนให้การเปลี่ยนถ่ายรวดเร็วขึ้น

จากรายงานของ SMMT (สมาคมผู้ผลิตยานยนต์และสมาคมการค้าสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ของสหราชอาณาจักร) ในอังกฤษ รัฐบาลจะต้องเร่งในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานของรถยนต์ไฟฟ้า แม้จะต้องเปลี่ยนแปลงอาณัติ (พ.ร.บ.) ที่มีอยู่เดิม

ในงานเลี้ยงอาหารค่ำที่จัดโดยรัฐบาลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมครั้งที่ 104 Mike Hawes ผู้บริหารระดับสูงของ SMMT กล่าวว่า “อุตสาหกรรมนี้จะมีการ ‘เคลื่อนที่’ เราจะลดคาร์บอนของการขนส่งทางบกและรถยนต์ภายในปี 2035 รถบัสอาจจะทำได้ก่อนนี้ รถบรรทุกอาจจะหลังจากนี้เล็กน้อย"

“แม้ยอดขายของรถ EV กำลังแข่งขันกันเติบโตขึ้น แต่โครงสร้างพื้นฐานของการชาร์จยังเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ เราคาดหวังให้รัฐบาลสร้างเงื่อนไข อาจเป็นการคำสั่งเพื่อสร้างเงื่อนไขก็ได้ เพื่อเร่งการขยายโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศให้สอดคล้องกับความเร็วของผู้ผลิตรถยนต์” เขากล่าวเสริม

ผู้ผลิตลงทุนสร้างรถอีวีแล้ว รัฐบาลควรช่วยเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน

รถยนต์ไฟฟ้าและปลั๊กอินไฮบริดครองยอดขายกว่า 16.6% เมื่อเริ่มนับจากวันเดียวกันในปีที่แล้ว ซึ่งยอดขายนี้เป็นสองเท่าของปีที่แล้ว(2020) ในขณะที่ 1 ใน 3 ของรถที่ผลิตในอังกฤษเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 

George Gillespie ประธานของ SMMT และ Horiba MIRA(บริษัทที่ปรึกษาด้านยานยนต์) กล่าวว่า “พวกเราได้ลงทุนไปหลายพันล้านเพื่อออกแบบรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าอัศจรรย์มากมาย ในตอนนี้เราได้สร้างรถยนต์ที่ไม่ปล่อยมลพิษกว่า 115 รุ่นในอังกฤษ พวกเราได้สร้างความอัศจรรย์แก่ผู้คนถึงความน่าตื่นเต้นของรถยนต์ที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน แต่มีบางสิ่งที่ทำให้การใช้งานรถเหล่านั้นไม่ราบรื่น”

“ทั้งการที่เราหงุดหงิดที่จุดชาร์จของเราเสีย ที่ชาร์จถูกบล็อก แต่ละที่ชาร์จใช้คนละแอพ การจ่ายเงินแต่ละที่ที่ไม่เหมือนกัน ทำให้หลายคนถอดใจจากการใช้งานรถอีวีและการพัฒนารถอีวีของพวกเราก็จะเปล่าประโยชน์” เขากล่าวเสริม

ราคาของพลังงานมีผลต่อการแข่งขัน

SMMT ยังต้องการความสามารถการแข่งขันที่มากขึ้นของอังกฤษ ในขณะที่มีการขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์ ภาคการผลิตของอังกฤษถูกขัดขวางจากราคาพลังงานที่สูงกว่าประเทศอื่น ทำให้ต้นทุนการค้าเพิ่มขึ้นเมือเทียบกับคู่แข่งอื่นในยุโรปและประเทศอื่น ๆ

SMMT กล่าวเสริมว่า การร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดกันระหว่างอุตสาหกรรมและรัฐบาลเป็นสิ่งสำคัญ หากต้องการมีการแข่งขันในระดับสากล “เนื่องจากการผลิตยานยนต์สร้างการส่งออกสิ่งของและแรงงานที่มีทักษะสูงและมีรายได้ดีจากอังกฤษกว่า 150,000 คน ฉนั้น การรักษาในภาคส่วนนี้ไว้เป็นสิ่งสำคัญ”

ประธานคนใหม่ของ SMMT

และในงานเลี้ยงอาหารค่ำอีกเช่นกันทาง SMMT ได้ประกาศให้ Alison Jones รองประธานบริหาร Stellantis (บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ข้ามชาติ) เป็นประธานของ SMMT คนที่ 82 ต่อจาก George Gillespie บอสใหญ่ของ Horiba MIRA และกลายเป็นประธานหญิงคนแรกของ SMMT

อ่านเพิ่มเติม : นี่คือเครื่องชาร์จ EV ดีไซน์แบบอังกฤษ แล้วเครื่องชาร์จ EV ของประเทศไทยจะเป็นอย่างไร?

รัฐบาลมีส่วนสำคัญต่อการมีอยู่ของรถอีวี

เราจะเห็นได้ว่า รัฐบาลมีส่วนสำคัญอย่างมากในการสนับสนุนให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไฟฟ้า สามารถเป็นไปได้จริง รถอีวีสามารถใช้งานได้เหมือนรถน้ำมันโดยไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีจุดชาร์จที่เพียงพอ

ประเทศไทยก็เช่นกัน รัฐบาลก็ให้การสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งอัตราภาษีนำเข้าที่ต่ำกว่ารถเครื่องยนต์สันดาป การเสียภาษีสรรพสามิตที่ต่ำกว่ารถน้ำมัน ไปจนถึงแผนการด้านโครงสร้างพื้นฐานจากการประชุมบอร์ดอีวี 

ถึงแม้ตอนนี้โครงสร้างพื้นฐานของรถอีวีจะยังไม่ครอบคลุม และยังมีปัญหาของจุดชาร์จเช่นเดียวกันกับอังกฤษ แต่การดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไปเช่นนี้อาจทำให้ผู้คนที่ยังไม่พร้อม ปรับตัวได้ทันกับการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมก็เป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขเช่นเดียวกัน

อ่านเพิ่มเติม : อังกฤษคุมเข้มกฎหมาย ค่ายรถต้องขายรถไฟฟ้าเพิ่ม เริ่ม 2024 แล้วตอนนี้ไทยเป็นอย่างไร?