เป็นความเชื่อสำหรับใครหลาย ๆ การขับรถทางไกลนั้น จะต้องจอดพักทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นรถขนาดเล็ก ที่มีเครื่องยนต์ต่ำกว่า 1.5 ลิตรลงไป จะต้องยิ่งพักบ่อยจนบางคนเชื่อว่าหากไม่พักเลยนั้นจะทำให้รถพังได้เลย
ประเด็นนี้เป็นเรื่องจริงหรือ? หรือว่าต้องการแค่ให้คนขับได้พักผ่อนกันแน่ เพราะแท้จริง ๆ แล้ว มันไม่จำเป็นเลย!
ความเชื่อนี้มาจากไหน?
ในสมัยก่อน ช่วงยุคสมัย 1900 หม้อน้ำของรถยนต์นั้นมีประสิทธิภาพที่ไม่ค่อยดีเหมือนปัจจุบัน จะต้องจอดพักให้เครื่องเย็นก่อนทุก ๆ 45-60 นาที เพื่อที่จะเติมน้ำกลั่น
หลังจากยุค 1930 ระบบหม้อน้ำของรถยนต์นั้นมีประสิทธิภาพมากพอที่จะทำให้เราไม่ต้องตรวจสอบน้ำในหม้อน้ำบ่อย แต่ก็ยังมีอยู่บ้าง อย่างใน Lancia Lambda ก็จะต้องจอดพักทุก ๆ 2 ชั่วโมง
โดยสาเหตุหลักเพราะว่าไม่มี "หม้อพักน้ำ" หรือ Coolant Overflow Tank ที่ซึ่งจะรองรับน้ำจากระบบหล่อเย็นที่มีแรงดันจนผลักออกจากระบบเมื่ออุณหภูมิขึ้นสูงมาก
ปัจจุบัน หม้อน้ำของรถยนต์ก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้นมากจนสามารถรักษาอุณหภูมิของระบบหล่อเย็นไว้ได้ตามที่บริษัทกำหนด อีกทั้งยังมีถังพักน้ำเก็บน้ำยาหล่อเย็นที่ถูกแรงดันผลักออกอีกด้วย จึงไม่จำเป็นต้องตรวจสอบรายวัน แต่เป็นตรวจสอบระดับน้ำรายเดือนก็เพียงพอแล้ว และไม่จำเป็นต้องจอดพักด้วย
แล้วเครื่องไม่ร้อนหรือ?
การสึกหรอของเครื่องยนต์กว่า 90% นั้น เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องยนต์สตาร์ท เนื่องจากน้ำมันเครื่องยังขึ้นไปหล่อเลี้ยงไม่ถึง ไม่ใช่การขับขี่ที่ความเร็วคงที่ตลอด นั่นคือกรณีที่เครื่องยนต์จะสึกหรอน้อยสุด
นอกจากนั้น การที่อุณหภูมิเครื่องยนต์คงที่เป็นระยะเวลานาน จะส่งผลเสียต่อชิ้นส่วนน้อยกว่าการปล่อยให้ชิ้นส่วนเหล่านี้อุณหภูมิลดลง และกลับขึ้นมาร้อนใหม่ เพราะทุกครั้งที่เกิด Heat Cycle ขึ้น ชิ้นส่วนโลหะจะขยายตัว เปลี่ยนสภาพไปเรื่อย ๆ จนชิ้นส่วนอย่าง ปะเก็นฝาสูบ ก็อาจจะต้องรับภาระที่หนักกว่า
บางท่านอาจสงสัยว่า เมื่อขับรถไปนาน ๆ ด้วยรอบเครื่องยนต์ที่สูง แล้วอุณหภูมิน้ำมันเครื่องจะร้อนหรือไม่?
แต่จริง ๆ แล้วรถทุกรุ่นนั้นปัจจุบันจะมี Oil-Cooler คือตัวที่ทำให้น้ำมันเย็นลง มีทั้งแบบด้วยอากาศจาก Heat Sink และแบบใช้น้ำหล่อเย็นหมุนวน จึงทำให้แม้จะวิ่งเป็นเวลานาน ความเร็วคงที่ ไม่ลากถึงขีดแดง อุณหภูมิก็จะปกติ ในระดับที่ผู้ผลิตน้ำมันคิดและวิจัยมาแล้วว่าจะไม่เกิดการระเหยและเสื่อมสภาพ
คนจะเหนื่อยมากกว่า
จริง ๆ แล้วคนที่ขับรถเล็กมักจะมีอาการเหนื่อยล้าได้มากกว่าคนที่ขับรถใหญ่ ด้วยทั้งพละกำลังของเครื่อยน๖ืหรือช่วงล่างเองที่ไม่ได้ถูกเซตมาใช้ในการเดินทางไกล และเมื่อคนขับมีอาการเหนื่อย ก็อาจทำให้ขาดสมาธิจนเกิดอุบัติเหตุได้
ด้วยเหตุนี้ ในรถยนต์บางคันจึงมีการใส่อุปกรณ์หรือระบบที่จะช่วยเตือนเมื่อคนขับเหนื่อยล้า แล้วแต่จะเรียกกันในแต่ละค่าย โดยจะคำนวนจากวิธีการขับขี่ การเลี้ยว โดยส่วนมากจะมีเซนเซอร์ติดอยู่ที่พวงมาลัยหรือหน้าปัด เพื่อเตือนให้ผู้ขับขี่หยุดพัก
หากต้องการจอดพัก ก็ควรดับเครื่องยนต์และแง้มหน้าต่างไว้เล็กน้อยเพื่อให้อากาศถ่ายเท หากติดคิ้วกันสาดไว้ก็อาจจะช่วยให้คนไม่มองได้ หรือถ้ามีซันรูฟก็ดี เพราะจะระบายอากาศได้ดีกว่า
ทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของรถด้วย ถ้าหากรถหม้อน้ำรั่ว หรือน้ำมันเครื่องหาย แล้วขับไปแบบไม่ตรวจสอบจนพัง ก็จะต้องเสียเวลาซ่อมกันมากกว่า