ผู้พิการอาจใช้ EV ได้ยากกว่าคนทั่วไป มีวิธีอย่างไร ที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ?

• เพิ่มโอกาสการเข้าถึง EV ของผู้พิการ
• สำหรับผู้พิการ รถยนต์ไฟฟ้าใช้ยากกว่ารถน้ำมันด้วยปัจจัยหลายประการ
• ทิ้งผู้พิการไว้เบื้องหลังเท่ากับลดโอกาสทางเศรษฐกิจไปด้วย

นวัตกรรมใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางได้พัฒนาขึ้นไปทุกวัน และยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

การร่วมมือกันระหว่าง Coventry University และองค์กรการกุศลด้านการเคลื่อนไหวอย่าง Motability จะนำโอกาสใหม่ ๆ ให้กับผู้ขับขี่พิการ ด้วยเป้าหมายเพื่อให้ยานพาหนะในชีวิตประจำวันเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น

ศูนย์การออกแบบการขนส่งแห่งชาติของมหาวิทยาลัยดังกล่าว เป็นศูนย์ที่มีความล้ำสมัยที่ดำเนินการเกี่ยวกับงานวิจัยในอนาคตของการออกแบบการขนส่ง จะนำความคิดเห็นจากสมาชิกของสังคมผู้พิการมาช่วยในการพัฒนาอนาคตของนโยบายและการปฏิบัติด้านการขนส่ง

จากงานวิจัยที่ผ่านมาของศูนย์ฯ แสดงให้เห็นว่า การออกแบบการขนส่งที่ไม่สอดคล้องกับผู้พิการเป็นสาเหตุให้ “โอกาสทางด้านเศรษฐกิจลดลง การถูกกีดกันทางสังคม คุณภาพชีวิตที่ลดลง และผลกระทบด้านลบอื่น ๆ”

แม้ว่าจะมีองค์กรการกุศล และโครงการสนับสนุนผู้พิการอยู่บ้าง แต่บางคนเชื่อว่าสมาชิกของคนกลุ่มนี้ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง หลังจากการเข้ามาของการใช้พลังงานไฟฟ้า ทั้งในแง่ของยานพาหนะและโครงสร้างพื้นฐาน

ความยากลำบากที่เกิดขึ้นกับผู้พิการ ตั้งแต่การชาร์จ ค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าของ และปัญหาในการออกแบบของพาหนะ ในขณะที่ทั่วโลกกำลังเข้าสู่ยุคของการใช้พลังงานไฟฟ้า

ความท้าทายในการเลือกซื้อรถสักคันของผู้พิการ

ทาง Motability คาดการณ์ว่าผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่พิการราว 1.35 ล้านคน จะต้องพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จของสหราชอาณาจักรภายในปี 2035

Rachael Badger ผู้อำนวยการของ Motability กล่าวว่า “มีหลายจุดที่จะมีความท้าทายในการเลือกและซื้อรถสักคันของผู้พิการ”
“อย่างแรก ทำความเข้าใจในตัวเลือกของเราโดยมีข้อมูลรองรับ ว่าอีวีในตัวเลือกของเราแต่ละคันนั้นทำงานอย่างไรบ้าง”

ต่อมาคือความวิตกกังวลเกี่ยวกับระยะทาง ในขณะที่สิ่งนี้ก็เป็นปัญหากับคนธรรมดาเช่นกัน แต่จะมีปัญหามากขึ้นสำหรับผู้พิการ หลายคนต้องใช้อุปกรณ์ที่มีน้ำหนักมาก เช่น รอกหรือลิฟท์สำหรับยกตัวขึ้นรถ 

ซึ่งจะทำให้ระยะทางลดลง และจะต้องคิดถึงจุดพักรถที่สามารถเข้าถึงได้และมีห้องน้ำสาธารณะ ทำให้หลายคนเลือกใช้ปลั๊กอินไฮบริดแทนการเลือก EV

หรือการปรับอุปกรณ์ภายในบางอย่างเพื่อการเข้า-ออกรถอาจทำให้อีวีเกิดปัญหาได้เช่นกัน

ยิ่งไปกว่านั้น ที่จอดรถแบบปกติส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็กเกินกว่าการเข้าถึงที่สะดวกของรถเข็น สายชาร์จที่มีน้ำหนักมากเกินไปและต้องใช้แรงมากขึ้นในการเสียบชาร์จ

ขณะที่บางคนได้รับผลกระทบจากความสูงของหน้าจอแสดงผลของหัวชาร์จ ขณะที่บางคนมีหัวชาร์จติดตั้งอยู่ในบ้าน แต่คนที่อยู่ในคอนโดหรืออพาร์ทเมนต์ก็จะไม่มีโอกาสแบบเดียวกัน เนื่องจากไม่มีพื้นที่ หรือเกี่ยวข้องกับลักษณะบกพร่องทางร่างกายบางอย่าง

Badger กล่าวว่า “คุณอาจจะมีหัวชาร์จติดตั้งอยู่ที่บ้าน แต่บางคนอาจจะมีความกังวลและใช้งานมันได้ยาก” 
“บางคนกังวลว่าจะมีคนมาดูรถในขณะชาร์จและแอบถ่ายรูปรถในขณะที่อยู่ในบ้าน” 

“ดังนั้นคุณอาจจะต้องตามหาและใช้หัวชาร์จสาธารณะ กว่า 1.35 ล้านคนจะพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จสาธารณะภายในปี 2035 และจะไม่สามารถติดตั้งหัวชาร์จที่บ้านได้ ดังนั้นจะนำไปสู่ประเด็นที่ว่าที่ชาร์จอยู่ที่ไหนบ้าง และเป็นที่ชาร์จที่รวดเร็วหรือไม่เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การชำระเงินและปัจจัยอื่น ๆ

Motability เชื่อว่าสิ่งที่เราควรเน้นในตอนนี้คือการขยายขนาดและใช้ประโยชน์จากโอกาสของการเติบโตของที่รวดเร็วสำหรับผู้ให้บริการชาร์จ รวมถึงมาตรฐานของหัวปลั๊กชาร์จ

ในตอนนี้ที่อังกฤษอยู่ในขั้นของการขยายโครงข่ายการชาร์จให้ครอบคลุม โดยคำนึงถึงการเข้าถึงอีวีของคนทุกประเภท 

ทิ้งคนที่เข้าไม่ถึงไว้เบื้องหลัง เท่ากับทิ้งศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของคนเหล่านั้นไปด้วย

ประเทศไทยก็อยู่ในขั้นตอนของการขยายโครงข่ายแก่อีวีเช่นกัน สิ่งที่ควรคำนึงควบคู่กันไปคือการเข้าถึงการชาร์จ

ซึ่งถ้าเราจะเน้นความครอบคลุมของโครงข่ายเพียงอย่างเดียวก็อาจจะเป็นการทิ้งคนที่เข้าไม่ถึงโครงข่ายไว้เบื้องหลัง และยังเป็นการทิ้งศักยภาพของผู้คนเหล่านั้นที่จะช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไปอีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม : รถ EV มาเพื่อช่วยโลก แต่ใครจะช่วยอีกหลายพันคนที่เศร้าโศก เพราะสูญเสียงานที่ทำ ?