2020 MG Gloster (2020 เอ็มจี กลอสเตอร์) รถกระบะดัดแปลงอเนกประสงค์หรือพีพีวี เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศอินเดีย ขณะที่เมืองไทยรอลุ้นยลโฉมตัวจริงภายในปีหน้า
Gloster จะออกแข่งขันในตลาดรถพีพีวีของอินเดียที่มีคู่แข่งตัวฉกาจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์), Ford Endeavour หรือ Everest (ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์) ในบ้านเรา รวมถึง Mahindra Alturas G4 รถอเนกประสงค์เจ้าถิ่น ทั้งหมดล้วนเน้นความหรูหราผสมผสานความบึกบึน
MG นำเสนอ Gloster ในแดนโรตีทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ได้แก่ Super, Smart, Sharp และ Savvy โดยรุ่นเริ่มต้นจะเป็นแบบ 7 ที่นั่ง ขณะที่รุ่นท็อปเน้นความหรูหรามากกว่าจึงจัดห้องโดยสารแบบ 6 ที่นั่งให้ลูกค้าได้เลือกสรร
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
มิติตัวถัง
|
|
|
2020 MG Gloster |
2020 Toyota Fortuner |
2019 Ford Everest |
ความยาว (มม.) |
4,985 |
4,795 |
4,893 |
ความกว้าง (มม.) |
1,926 |
1,855 |
1,862 |
ความสูง (มม.) |
1,867 |
1,835 |
1,836 |
ระยะฐานล้อ (มม.) |
2,950 |
2,750 |
2,850 |
รูปลักษณ์ใหญ่โต หรูหรา บึกบึน
จากตารางด้านบนจะเห็นว่า MG Gloster มีขนาดใหญ่กว่าทั้ง Toyota Fortuner และ Ford Everest รูปลักษณ์ผสมผสานความหรูหราและบึกบึน กระจังหน้าโครเมียม ทั้งไฟหน้า เดย์ไลท์ และไฟท้ายเป็น LED ล้ออัลลอยในรุ่นท็อปใช้ขนาด 19 นิ้วแบบทูโทน บั้นท้ายมีท่อไอเสีย 4 ชุด และหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ
ภายในห้องโดยสารมีหน้าจออินโฟเทนเมนท์ทัชสกรีนขนาด 12.3 นิ้ว รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ลำโพงมีมาให้ถึง 12 ตัว เบาะผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 12 ทิศทาง ส่วนผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พวงมาลัยแบบขอบล่างตัดตรง มาตรวัดดิจิทัลขนาด 8 นิ้ว มีระบบกรองอากาศ PM2.5 ระบบชาร์จไฟไร้สาย แน่นอนว่าจะต้องมีระบบเชื่อมต่อ i-Smart ซึ่งมีฟังก์ชั่นให้ใช้งานมากกว่า 70 ฟังก์ชั่นเลยทีเดียว
ระบบความปลอดภัยครบครันด้วยถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบควบคุมเสถียรภาพและป้องกันการลื่นไถล ระบบควบคุมความเร็วทั้งขณะลงทางลาดชัน และระบบป้องกันการไหลขณะขึ้นทางลาดชัน ระบบเบรก ABS และ EBD กล้องมองภาพรอบคัน เซ็นเซอร์หน้าและหลัง และระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่
สำหรับรุ่นท็อปยังมาพร้อมเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่างครูสคอนโทรลแปรผัน ระบบแจ้งเตือนการชนด้านหน้า ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติฉุกเฉิน ระบบแจ้งเตือนเมื่อออกจากช่องจราจร ระบบตรวจจับมุมอับสายตา และระบบช่วยจอดอัตโนมัติ
ขุมพลังขับเคลื่อนดีเซลเทอร์โบ 20 ลิตร
ใต้ฝากระโปรงของ 2020 MG Gloster วางเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร พละกำลังเริ่มต้นที่ 163 แรงม้า แรงบิด 375 นิวตันเมตร ขณะที่รุ่นท็อปจะใช้ระบบอัดอากาศแบบทวินเทอร์โบ รีดพละกำลังสูงสุด 218 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตันเมตร
ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด มีทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อแบบเฟืองท้ายดิฟล็อก ชุดส่งกำลังของ BorgWarner AWD โหมดการขับขี่มีทั้ง Mud, Sand, Snow และ Rock เรียกว่าลุยได้ทุกเส้นทาง
ราคาจำหน่ายของ MG Gloster เริ่มต้นที่ 2,898,000 – 3,538,000 รูปีหรือประมาณ 1,230,000 – 1,502,000 บาท
|
2020 MG Gloster |
2020 Toyota Fortuner |
2019 Ford Everest |
ราคาจำหน่าย |
1,230,000 – 1,502,000 บาท (ราคาในประเทศอินเดีย) |
1,319,000 - 1,839,000 บาท (ราคาในประเทศไทย) |
1,299,000 - 1,799,000 บาท
(ราคาในประเทศไทย)
|
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });