2019 Nissan X-Trail (นิสสัน เอ็กซ์เทรล) ทะยานขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดรถเอสยูวีชั่วคราวหลังประกาศลดราคากระหน่ำแบบล้างสต็อกในรุ่นไฮบริดถึงกว่า 6 แสนบาท ทำให้ราคาขายลดจาก 1.537 – 1.617 ล้านบาทเหลือ 8.99 – 9.99 แสนบาท

ก่อนหน้านี้ X-Trail เป็นรถเอสยูวีที่ประสบความสำเร็จพอสมควรในตลาดระดับโลก แต่สำหรับในเมืองไทย X-Trail ทำยอดขายไม่ดีเท่าที่ควร ตัวเลขสะสมตั้งแต่ต้นปี 2020 ไล่ตามหลังคู่แข่งอย่าง Honda CR-V และ MG HS ทำให้ Nissan ต้องแก้เกมด้วยการปรับลดราคาซึ่งถึงแม้จะสงวนไว้สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ในช่วง Covid-19 แต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง

แต่ถ้า X-Trail กลับมาจำหน่ายในราคาขายเท่าเดิม เรามาชมกันว่าจุดเด่น-จุดด้อยของรถเอสยูวีคอมแพ็กต์รุ่นนี้ว่ามีความน่าสนใจมากน้อยเพียงใด

จุดเด่น

1. รูปลักษณ์ไม่หวือหวา แต่ลงตัว

X-Trail มาพร้อมกระจังหน้าโครเมียมสีพิเศษ คิ้วขอบประตูท้ายโครเมียมสีพิเศษ มีราวหลังคา เสาอากาศแบบครีบฉลาม Shark Fin สปอยเลอร์หลัง ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/65 R17 แหงนมองบนเพดานมีหลังคากระจก Panoramic Sunroof เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ไฟหน้าแบบ Projector Lens แบบ LED พร้อมเดย์ไลท์ LED และไฟท้าย LED

2. มีเครื่องยนต์ 2 รุ่นให้เลือกตามชอบและงบประมาณ

ราคาจำหน่ายของ 2019 Nissan X-Trail มีดังนี้

รุ่น 2.5S 2WD ราคา 1,350,000 บาท

รุ่น 2.5V 2WD ราคา 1,460,000 บาท

รุ่น 2.0V 4WD Hybrid ราคา 1,537,000 บาท

รุ่น 2.0VL 4WD Hybrid ราคา 1,617,000 บาท

รุ่น 2.5VL 4WD ราคา 1,660,000 บาท

หัวใจขับเคลื่อนของ X-Trail ทั้งรุ่นเริ่มต้นและรุ่นท็อปเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร พละกำลังสูงสุด 171 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 233 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที

ส่วนรุ่นไฮบริดเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าชนิด Synchronous Electric Motor พละกำลังสูงสุด 179 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 200 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที

3. อุปกรณ์อำนวยความสะดวก – ระบบความปลอดภัยครบครัน

สะดวกสบายด้วยฝาประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า Auto Lift Gate และทำงานแบบแฮนด์ฟรี  มีระบบไฟหน้า ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ กระจกมองข้าง ปรับและพับด้วยไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวในตัว ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor

ภายในห้องโดยสารมีระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone แยกอิสระ ซ้าย-ขวา ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารแบบ LED บนคอนโซลติดตั้งหน้าจอระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 7 นิ้ว เครื่องเสียง AM/FM CD MP3 เครื่องเล่น DVD ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth และระบบนำทาง Navigation System ครบครันการเชื่อมต่อ AUX-in และ USB

ระบบความปลอดภัยที่เด่น ๆ มีทั้ง ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ VDC ระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ ARC ระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติในขณะถอนคันเร่ง หรือ เข้าโค้ง AEB ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง ATC ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน IEB ระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า FCW ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา AVM ระบบตรวจจับ และ ส่งสัญญาณเตือนวัตถุรอบคัน MOD ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ICC ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง LDW ระบบเตือนจุดอับสายตา BSW ระบบเตือนเมื่อมีวัตถุตัดผ่านขณะถอยรถ RCTA ตลอดจนถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง

จุดด้อย

1. ทำตลาดมานาน ใกล้ถึงเวลาเปลี่ยนโฉม

X-Trail เจนเนอเรชั่นใหม่ได้รับการเปิดตัวแล้วในชื่อ All-New 2021 Nissan Rogue ในสหรัฐอเมริกา ขณะที่ในเมืองไทยคาดว่าจะได้รับการเปิดตัวเช่นกันภายในปลายปี 2020 หรือต้นปี 2021 มาพร้อมรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวมากขึ้นและเทคโนโลยีการขับขี่ที่ครบครันกว่าเดิม

2. เครื่องยนต์ 2.5 ลิตรกินน้ำมันจุ

ขุมพลัง 2.5 ลิตรใน X-Trail รุ่นเริ่มต้นมีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ไม่ค่อยประหยัดสตางค์ในกระเป๋าเท่าใดนัก ตัวเลขอาจอยู่ที่ราว 10 – 11 กม.ต่อลิตร

3. เบาะนั่งไม่สบายเท่าที่ควร

การรองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่งตอบโจทย์การใช้งานสำหรับครอบครัวใหญ่ก็จริงอยู่ แต่เบาะแถวที่ 2 และแถวที่ 3 ของ X-Trail นั่นไม่สบายเท่าที่ควร เบาะแถวที่ 3 ไม่มีช่องแอร์ก็อาจทำให้ผู้โดยสารเด็ก (หรือผู้ใหญ่) ไม่สบายเนื้อสบายตัวซึ่งอาจทำให้ทริปการเดินทางไม่โสภาก็เป็นได้