การจัดงานทดสอบการขับขี่รูปแบบต่าง ๆ หรือการสอนทักษะการใช้งานรถยนต์นั้น เป็นเรื่องที่ผู้ผลิตรถยนต์เกือบทุกยี่ห้อเดินหน้าจัดกันอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว จะสเกลเล็กหรือใหญ่ก็แตกต่างกันไปตามรูปแบบของงานที่แต่ละค่ายทำการคิดค้นขึ้นมา
ค่ายรถยนต์ Porsche (ปอร์เช่) ก็เดินหน้าจัดงาน Porsche World Roadshow มาอย่างต่อเนื่อง และมาจัดในประเทศไทยแล้วหลายต่อหลายครั้งทุก ๆ 2 ปี และมักจะเต็มเอี๊ยดมีลูกค้าจองคิวมาร่วมงานกันตลอด แม้ค่าสมัครเข้าร่วมงานจะไม่ถูกเลยก็ตามที
เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ตัวแทนจำหน่ายปอร์เช่ในประเทศไทย และแม่งานในการจัดงาน เชิญสื่อมวลชนทั่วฟ้าเมืองไทย รวมถึง AutoFun Thailand เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการจัดงานปีนี้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าเข้าร่วมที่คิดลูกค้าอยู่รายละ 15,000 บาทต่อหัว
แต่แม้จะเป็นการเข้าร่วมกิจกรรมแบบฟรี ๆ แต่รถที่เอามาให้ทดลอง รวมถึงการจัดกิจกรรมทั้งหมดนั้น ให้มาอย่างเต็มที่ไม่มีกั๊ก ซึ่งก็ถือเป็นสถานีทดสอบต่าง ๆ ที่ทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวรถมากขึ้น เพื่อที่จะใช้ทักษะในการควบคุมรถที่แตกต่างกันไป
ไฮไลท์ของการทดสอบในครั้งนี้ อยู่ที่การเปิดตัว 2022 Porsche Macan (ปอร์เช่ มาคันน์) ก่อนการเริ่มงาน ขณะที่รถยนจ์ที่ทำมาให้ทดสอบนั้นมีหลากหลายกว่า 15 รุ่น แต่ตัวเต็งที่ทุกคนจับต้องก็คือ Porsche 911 GT3 (ปอร์เช่ 911 จีที3) พวงมาลัยซ้ายสุดดุ
ปรับตำแหน่งที่นั่ง คาดเข็มขัดนิรภัยแล้วไปกันเลย!!!
รถยนต์ 15 รุ่น นำเข้าจากโรงงานที่เยอรมนี
แม้จะเป็นรถที่ทำการจำหน่ายในประเทศไทยหลากหลายรุ่น แต่ในการจัดกิจกรรมทุก ๆ ครั้ง ปอร์เช่จะนำเข้ารถทั้งหมดมาจากโรงงานในประเทศเยอรมนี เพื่อให้มั่นใจถึงคุณภาพของรถ โดยในปีนี้ มีการนำเข้ามาถึง 15 รุ่น เพื่อให้ทุกคนได้ทำการทดสอบ
นอกจากจีที3 แล้ว ผู้ที่เข้าร่วมงานมีโอกาสที่จะได้ทดสอบรุ่นกลุ่มสมรรถนะสูง ไม่ว่าจะเป็น Porsche 911 Targa 4 (ปอร์เช่ 911 ทาร์กา 4) Porsche 911 Turbo S (ปอร์เช่ 911 เทอร์โบ เอส) หรือ Porsche 718 Boxster S (ปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์ เอส) เป็นต้น
หรือหากอยากลองรถยนต์พลังงานทดแทนต่าง ๆ ก็นำทีมมาโดย Porsche Taycan Turbo S (ปอร์เช่ไทคานน์ เทอร์โบ เอส) และ Taycan 4S Cross Turismo (ไทคานน์ 4 เอส ครอส ทัวริสโม) รวมถึงรถครอบครัวอย่าง Cayenne หรือ Panamera ก็มาครบครัน
หลากสถานีเพื่อเรียนรู้การขับขี่สายพันธุ์สปอร์ต
นอกเหนือจากบรรดารถยนต์ที่นำเข้ามาแล้ว อินสตรัคเตอร์ก็ถูกอิมพอร์ตเข้ามาจากหลากหลายมุมโลกเช่นเดียวกัน โดยอินสตรัคเตอร์ของทีมผมนั้นมาจากสแกนดิเนเวีย เชี่ยวชาญเรื่องการขับรถบนหิมะเป็นพิเศษ ผสมผสานกับทีมงานในประเทศไทยเอง
ปอร์เช่นระบุว่างานนี้จัดขึ้นเพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสสุดยอดประสบการณ์หลังพวงมาลัยของยนตรกรรมสปอร์ตหลากหลายรุ่น ด้วยโปรแกรมขับขี่ในสถานีที่ออกแบบขึ้นเพื่อเสริมสร้างทักษะ ให้การขับขี่เป็นไปอย่างปลอดภัยภายใต้สถานการณ์ต่าง ๆ กัน
ผู้เข้าร่วมจะวนกันไปตามสถานีต่าง ๆ ตลอดทั้งวัน ทีมของผมนั้นเริ่มจาก Braking & Moose Test ที่จะได้ลองทั้งระยะเบรกที่ยอดเยี่ยม รวมถึงทดสอบการควบคุมรถบนถนนลื่น ซึ่งจะต้องใช้ทักษะในการควบคุมรถให้อยู่ในทิศทางที่ไม่ก่อเกิดอันตราย
ตามาด้วยสถานี Handling ซึ่งแบ่งเป็นรถสปอร์ตและรถบ้านของปอร์เช่ทีละรอบ ทำให้เราสัมผัสถึงความยอดเยี่ยมในการควบคุมรถเมื่อมีการเปลี่ยนทิศทางหรือการเลี้ยวอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการของระบบช่วงล่างที่โดดเด่นทุกรุ่น
นอกจากนี้ ปอร์เช่ได้จัดให้มีการชาเลนจ์กันที่สถานี Slalom ที่นอกจากจะได้ฝึกทักษะการควบคุมพวงมาลัยเพื่อหลีกหนีสิ่งกีดขวางบนถนนแล้ว ยังได้ลองถึงความคล่องตัวของรถขณะเข้าโค้งทางแคบที่ความเร็วสูง และการทรงตัวที่ดีของรถอีกต่างหาก
ปิดท้ายกันด้วยการออกไปขับรถปอร์เช่หลากหลายรุ่นแบบการใช้งานบนถนนจริง ๆ ซึ่งเป็นการนำรถบ้านหลากหลายรุ่นออกมาลองทดสอบการจราจรแบบสั้น ๆ เพื่อให้เห็นว่า แม้แต่การใช้งานจริงบนถนน รถยนต์ปอร์เช่ก็ทำได้ไม่มีที่ติในชีวิตประจำวัน
การเซตอัพสถานีต่าง ๆ ของปอร์เช่นั้น เลียนแบบมาจากสถานการณ์จริงที่เราอาจจะได้พบเจอบนถนนหรือการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นการอบรมทักษาของการขับขี่ไปในตัว ซึ่งลูกค้าปอร์เช่ก็ควรที่จะได้ลองรถของพวกเขาแบบนี้บ้างสักครั้งนะ
เหนือกว่าในสนาม คือการเรียนรู้เรื่องการควบคุมรถ
แน่นอนว่าทุกคนที่มาในสนามนั้น สนุกสนานต่อการขับขี่ หรือแม้แต่การเป็นผู้โดยสารใน Hot Lap ที่เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมที่ได้นั่งรถที่อินสตรัคเตอร์ขับให้ แต่สิ่งที่เหนือกว่าก็คือ การที่อินสตรัคเตอร์นั้น ให้คำแนะนำเรื่องการขับขี่โดยละเอียด
ตลอดเวลาที่อยู่กับอินสตรัคเตอร์นั้น มีโอกาสที่ได้ปรับเรื่องของการขับขี่ที่เราเข้าใจผิดมา และมีการเสริมทักษะการขับขี่ เช่น การมองไปที่จุดขับขี่ การปรับท่านั่ง หรือการดูไลน์วิ่งทดสอบ ที่เราอาจจะทำสู้เขาไม่ได้ แต่นำมาปรับใช้ในการขับขี่ต่อไปได้
สำหรับลูกค้าของปอร์เช่ที่สนใจเข้าร่วม ก็คงต้องรอครั้งถัดไปแล้ว แอบกระซิบว่า นี่เป็นโอกาสที่คุณจะได้ลองรถปอร์เช่ทุกรุ่น ซึ่งไม่ได้มีโอกาสกันบ่อย ๆ และหากติดใจคันไหนและจับจองในงาน ปอร์เช่คืนเงินค่าสมัครให้ทันที และแถมให้อีก 1 เท่าด้วย
คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มแบบนี้ ครั้งหน้าห้ามพลาดกันนะ...