2021 Honda City Hatchback (ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ค) อีโค่คาร์รุ่นล่าสุด แต่เดิมทีเป็นรถซีดานพิกัดเดียวกับ 2019 Honda Jazz (ฮอนด้า แจ๊ซ) ในคราวนี้ได้ออกตัวถังท้ายตัดมาขาย ในขณะที่แจ๊ซเดิมก็ยังไม่ถูกถอดจากสายการผลิต แถมยังมีคนอุดหนุนรถโมเดลเก่าอย่างต่อเนื่อง จนฮอนด้าตัดใจถอดจากโชว์รูมไม่ลง มาสัมผัสรถคันจริงในงานมอเตอร์เอกซ์โป เทียบเก่าใหม่ เพื่อหาคำตอบว่ามันมีดีอะไร ถึงไม่มีใครมาแทนที่ได้
เทียบราคา Jazz vs City Hatchback
เมื่อนำราคารุ่นท็อปของทั้งคู่มาเทียบกันแล้ว พบว่าไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะว่าแจ๊ซแพงกว่า 5,000 บาท นับว่า ฮอนด้ส แจ๊ซ มีราคาที่สมเหตุผลกว่า เพราะไม่ได้ลดหย่อนภาษีสิทธิ์อีโค่คาร์ และไม่ได้แชร์ชิ้นส่วนบางท่อนร่วมกับรุ่นใด ตรงข้ามกับ ซิตี้ แฮทช์แบ็ค อย่างสิ้นเชิง
เทียบราคา Jazz vs City Hatchback |
|
2021 Honda City Hatchback RS |
2019 Honda Jazz RS |
รุ่น S+ ราคา 599,000 บาท |
รุ่น S MT ราคา 555,000 บาท |
รุ่น SV ราคา 675,000 บาท |
รุ่น S CVT ราคา 594,000 บาท |
รุ่น RS ราคา 749,000 บาท |
รุ่น V ราคา 654,000 บาท |
|
รุ่น V+ ราคา 694,000 บาท |
|
รุ่น RS ราคา 739,000 บาท |
|
รุ่น RS+ ราคา 754,000 บาท |
ดีไซน์ภายนอก
Honda Jazz มีสัดส่วนตัวถังที่ถูกใจหลายคนมากกว่า เพราะมีโครงสร้างแบบ Mini MPV ออกแบบท่อนหน้าสั้น หลังคาสูง ทำให้มีทัศนวิสัยดีกว่า กะระยะง่ายกว่า ต่างจาก Honda City Hatchback ที่มีพื้นฐานมาจากรถเก๋ง ดีไซน์จึงมีหน้ายื่นกว่า หลังคาเตี้ยกว่า
คนที่ชอบความแตกต่าง อาจจะต้องหันไปซื้อแจ๊ซแทน เพราะ ซิตี้ แฮทช์แบ็ค มีชิ้นส่วนครึ่งคันหน้า ซ้ำกับรุ่นซีดาน ส่วน Honda Jazz นอกจากไม่มีชิ้นส่วนใดเหมือนรุ่นเก๋งแล้ว ยังมีสเกิร์ตรอบคันเสริมเข้ามาให้ในราคานี้เลย ส่วนทางชุดแต่งของ City Hatchback จะมีแค่ตัวแต่ง Modulo ที่ขายในตอนนี้
มิติตัวถัง
เมื่อดูจากความแตกต่างของขนาดตัวถัง จะเห็นได้ชัดเจนว่า ฮอนด้า แจ๊ซ มีสัดส่วนที่สั้นและสูงแบบพวก MPV ขณะที่ ซิตี้ แฮทช์แบ็ค มีสัดส่วนที่ยาวและแบนแบบรถเก๋งมากกว่า ซึ่งแสดงความแตกต่างเป็นตัวเลขชัดเจนตามตารางนี้
|
2021 Honda City Hatchback RS |
2019 Honda Jazz RS |
ความยาว (มม.) |
4,349 |
4,035 |
ความกว้าง (มม.) |
1,748 |
1,695 |
ความสูง (มม.) |
1,488 |
1,525 |
ระยะฐานล้อ (มม.) |
2,589 |
2,530 |
อุปกรณ์ออพชั่น
รถฮอนด้าท้ายตัดทั้ง 2 รุ่นมีออพชั่นเหมือนกันตรงที่ ไฟส่องสว่างทั้งหมดเป็น LED ยกเว้นไฟตัดหมอกของแจ๊ซเป็นฮาโลเจนเท่านั้น ส่วนออพชั่นภายในทั้งคู่ก็มีระบบคีย์เลส และแอร์อัตโนมัติเหมือนกัน ส่วนความแตกต่างอื่นๆ นั้นมีเพียบ โดยแจ๊ซดูจะเสียเปรียบไม่น้อยเลย ตามตารางนี้
|
2021 Honda City Hatchback RS |
2019 Honda Jazz RS |
ไฟตัดหมอก |
LED |
ฮาโลเจน |
การตกแต่งภายใน |
สีดำ วัสดุหนังกลับ |
สีดำ วัสดุผ้าแบบสปอร์ต |
ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส |
8 นิ้ว |
7 นิ้ว |
ช่องจ่ายไฟสำรอง |
3 ช่อง |
1 ช่อง |
Honda Connect |
มี |
- |
เครื่องยนต์
ขุมพลังเบนซินของทั้ง 2 รุ่นนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิง โดยทาง City Hatchback ได้กำลังและแรงบิดมากกว่า จากเครื่อง 1.0 ลิตรเทอร์โบ แถมยังประหยัดน้ำมันมากกว่าด้วย นับว่าเป็นข้อดีของซิตี้ใหม่ ทำให้แจ๊ซต้องพ่ายแพ้ไป
|
2021 Honda City Hatchback RS |
2019 Honda Jazz RS |
เครื่องยนต์ |
เบนซิน 3 สูบ เทอร์โบ |
เบนซิน 4 สูบ |
ขนาด |
1.0 ลิตร |
1.5 ลิตร |
พละกำลัง |
122 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที |
117 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที |
แรงบิด |
173 นิวตันเมตรที่ 2,000 – 4,500 รอบ/นาที |
146 นิวตันเมตรที่ 4,700 รอบ/นาที |
ระบบส่งกำลัง |
เกียร์อัตโนมัติ CVT |
เกียร์อัตโนมัติ CVT |
อัตราบริโภคน้ำมัน |
23.3 กม./ลิตร |
16.7 กม./ลิตร |
รองรับเชื้อเพลิง |
E20 |
E85 |
สิ่งที่ซิตี้ทดแทนแจ๊ซไม่ได้
2019 Honda Jazz มีจุดดีที่ City Hatchback ทดแทนไม่ได้ คือการเข้าออกง่ายกว่า ด้วยประตูเปิดอ้าได้กว้างอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งฝาท้ายของแจ๊ซนั้นมีบานใหญ่กว่า และเปิดเว้าลงขอบล่างของกันชนได้มากกว่า ช่วยทำให้การขนของง่ายและสบายมากขึ้น รวมถึงตำแหน่งเบาะนั่งสูงและหย่อนขาได้สบายกว่ารถเก๋ง
ความสำคัญของการต้องมี Honda Jazz อยู่ในตลาดรถยนต์เมืองไทย คือจุดเด่นเรื่องตัวถังล้วนๆ ที่ยังให้พื้นที่ศีรษะสูง นั่งหย่อนขาสบาย ขนของสะดวก และขับขี่ในเมืองคล่องตัว ซึ่งเป็นจุดที่หลายคนให้ความสำคัญมากกว่าการมีเครื่องยนต์เทอร์โบแรงสูง จึงไม่แปลกใจที่ Honda Jazz ยังขายได้อยู่เรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน