Aston Martin V8 Vantage

2019 Aston Martin Vantage สานต่อคำนานรถสปอร์ตเมืองผู้ดีบทใหม่หัวใจเยอรมัน

Aston Martin Vantage เป็นรถสปอร์ต 2 ที่นั่งที่มีการใช้ชื่อนี้มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1977 โดยถูกออกแบบมาเพื่อเน้นความสปอร์ตและความพลิ้วไหวด้วยขนาดที่เล็กกว่ารถ GT รุ่นพี่อย่างพวกตระกูล DB หรือจะเป็นรถ Super GT อย่าง Vanquish, DBS เป็นต้น ปกติ Vantage จะมีเครื่องยนต์ 2 ขนาดให้เลือกใช้ทั้งเครื่อง V8 และเครื่อง V12 แต่ในรุ่นปัจจุบันที่เปิดตัวในปี 2019 จะมีเครื่องยนต์ V8 ให้เลือกเพียงเครื่องยนต์เดียวแต่พละกำลังก็ยังคงโหดเหมือนเดิม สำหรับประเทศไทยทีการนำเข้ามาเปิดตัว

ราคา Aston Martin Vantage

Aston Martin Vantage ราคาเริ่มต้น 16,900,000 บาท

การออกแบบภายนอก Aston Martin Vantage

Aston Martin Vantage ยังคงมีลักษณะที่ปราดเปรียวและคล่องแคล่วของการเป็นรถ 2 ที่นั่งอยู่ด้วยบอดี้ที่ไม่ใหญ่มาก เตี้ย แบน กว้าง และในรุ่นปัจจุบันนี้เองก็ได้ลดความกลมมนจากรุ่นที่แล้วไป เต็มไปด้วยเส้นสายตวัดจากหน้ารถไปหลังรถซึ่งเส้นสายพวกนี้ยังช่วยในเรื่องอากาศพลศาสตร์ของตัวรถ กระจังหน้าคือสิ่งที่แตกต่างจากรุ่นอื่นๆทั้ง DB11 เองหรือ Vantage ตัวเก่าที่จะมีลักษณะเป็นทรงรีรับอากาศแต่ใน Vantage ใหม่มีลักษณะเหมือนปากปลาฉลามซึ่งได้แรงบรรดาลใจมาจากไฮเปอร์คาร์ของค่ายอย่าง Vulcan ซึ่งกระจังหน้าไซส์ยักษ์สามารถนำลมเข้าเครื่องได้อย่างเต็มๆและสามารถส่งไประบายความร้อนให้เบรกได้ดีอีกด้วย ด้านข้างรถสามารถแสดงให้เห็นได้ว่ารถคันนี้ลู่ลมขนาดไหน แนวหลังคาโค้งลาดลงรับกับสปอยเลอร์แบบตูดเป็ดที่ด้านท้ายรถ กรอบกระจกตัดด้วยทริมสีเงินและเป็นประตูที่กระจกแบบไร้ขอบ มือจับประตูซ่อนอยู่ภายในตัวรถ ด้านล่างของประตูมีการออกแบบให้เว้าเพิ่มความเซ็กซี่ให้รถคันนี้ มีช่องระบายความร้อนออกจากเบรกบริเวณซุ้มล้อหน้า ไฟหน้ามีลักษณะเรียวลงกว่ารุ่นก่อน ไฟเดย์ไลท์อยู่ที่ฝั่งนอกของโคมมีลักษณะเหมือนเป็นปีกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแอสตันมาร์ตินซึ่งเป็นไฟเลี้ยวในตัว ไฟหน้าเป็นไฟรูปเพชร 2 เม็ดให้แสงที่คมชัด ด้านท้ายไฟท้าย LED เป็นแนวยาวพาดจากด้านข้างยกขึ้นตามแนวสปอยเลอร์ตูดเป็ดและลงมาขนานกับอีกด้าน มีโลโก้ปีกแอสตันมาร์ตินแปะอยู่ตรงกลางรถ ดิฟฟิวเซอร์หลังขนาดใหญ่พร้อมที่จะจัดเรียงอากาศที่ผ่านมาใต้ท้องรถได้อย่างดี ท่อไอเสียขนาดพอดีๆออกซ้ายขวาพร้อมส่งเสียงคำรามไปในทุกที่ที่มันวิ่งผ่าน ล้อติดรถที่ให้มาเป็นล้อปัดเงาทูโทนขนาด 20 นิ้วพร้อมเบรกคาลิปเปอร์สีแดงสุด และแน่นอนในรถระดับนี้คุณสามารถเลือกตกแต่งรถให้เป็นสไตล์ของคุณได้ด้วยโปรแกรม Q by Aston Martin

มิติตัวรถ Aston Martin Vantage

การออกแบบภายใน Aston Martin Vantage

เมื่อเปิดประตูเข้าไปคุณจะพบกับหนังแท้คุณภาพเยี่ยมทุกบุไปในห้องโดยสารแทบทุกจุดที่จะบุหนังได้แล้ว มีการเดินตะเข็บด้ายด้วยความประณีต พวงมาลัยทรงสปอร์ตท้ายตัดทำให้การบังคับควบคุมทำได้กระชับ มาตรวัดความเร็วเป็นจอดิจิตอลเต็มระบบมีวงวัดรอบขนาดใหญ่ตรงกลางด้วยแพทเทิร์นแบบอนาล็อก มีเลขแสดงความเร็วและตำแหน่งเกียร์ตรงกลางวงวัดรอบ จอขนาบซ้ายขวาแสดงข้อมูลการขับขี่ที่จำเป็นและเลือกเปลี่ยนการแสดงผลตามที่ต้องการได้ จอกลางขนาดเล็ก ช่องแอร์กลาง 2 ช่องตัดด้วยทริมสีเงินทรงคล้ายแว่นกันแดดกรอบหนาของผู้หญิง ถัดลงมาเป็นเกียร์แบบปุ่มกดตามสไตล์ของแอสตันมาร์ติน ปุ่มปรับแอร์ และบริเวณตรงอุโมงค์กลางหุ้มคาร์บอนไฟเบอร์เป็นที่อยู่ของระบบปรับแต่งรถต่างๆ และปุ่มควบคุมจอตรงกลางที่ยกมาจากเมอร์เซเดสเบนซ์แบบชัดๆ มีที่พักแขนที่เป็นที่เก็บของในตัวได้ สวิตช์ปรับเบาะอยู่บริเวณข้างอุโมงค์กลาง ใช้งานสะดวก เบาะนั่งเป็นเบาะทรงสปอร์ตพร้อมระบบระบายอากาศนั่งสบาย กระชับ ภายในแทบไม่มีที่ติสำหรับแอสตันมาร์ติน สำหรับการบรรทุกของเมื่อคุณเปิดฝาท้ายหลังรถซึ่งจะเปิดกระจกทั้งบานมาด้วยคุณจะพบพื้นที่เก็บสัมภาระประมาณหนึ่งแต่คุณสามารถพับฉากกั้นที่กั้นระหว่างห้องโดยสารกับพื้นที่บรรทุกของด้านหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกของได้ด้วย

เทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวก

Vantage คันนี้มาพร้อมกับระบบไฟส่องสว่างแบบเปิด-ปิด อัตโนมัติ ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ ระบบเข้าออกรถโดยไม่ต้องหยิบกุญแจออกมา (Keyless Entry) ระบบจดจำตำแหน่งที่นั่งคนขับ เบาะปรับไฟฟ้าพร้อมระบบดันหลัง กระจกมองหลังตัดแสงแบบอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ระบบจอกลางขนาด 8 นิ้ว มีเนวิเกเตอร์ในตัวและรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto

ระบบความปลอดภัยเชิงปกป้อง (Passive safety)

• ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
  
• ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP) 
  
• ถุงลมคู่หน้า / ด้านข้าง / หัวเข่า แบบ 2 จังหวะ

ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน (Active safety)

• เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหน้า และ ด้านหลัง (ParkAssist)
  
• กล้องมองภาพรอบคัน
  
• ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPW)
  

ขุมพลังและสมรรถนะ Aston Martin Vantage

Vantage ตัวปัจจุบันทำตลาดเพียงเครื่องยนต์เดียวได้แก่ เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบคู่ V8 รหัส M178 ที่ยืมมาจากเบนซ์ ความจุ 4.0 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 510 แรงม้า ที่ 6000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 685 นิวตันเมตร ที่ 2000 - 5000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะจาก ZF ขับเคลื่อนล้อหลัง การกระจายน้ำหนักของตัวรถหน้าหลังแบบ 50:50 สมรรถนะอัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาเพียง 3.6 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้มากถึง 314 กม./ชม. อัตราการปล่อยไอเสียอยู่ที่ 245 กรัม/กม. อัตราการบริโภคน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 9.5 กม./ลิตร

ประสบการณ์การขับขี่

ด้วยความที่รถออกแบบมาเพื่อความสปอร์ตโดยเฉพาะ โหมดการขับขี่ที่มีมาให้ 3 โหมด เริ่มต้นด้วย Sport, Sport+ และ Track โหมดตามลำดับ ไม่มีโหมด Comfort ให้ขับแบบชิวๆสบายๆ การเหยียบคันเร่งในโหมดเริ่มต้นก็พร้อมจะกระชากคุณออกไปได้อย่างรวดเร็ว การคิกดาวน์แทบไม่มีจังหวะที่ต้องรอ เกียร์ทำงานได้ไวมาก แต่ถ้าเสียงเครื่องที่มันก็ดุอยู่แล้วยังโหดไม่พอ ให้คุณปรับมาที่โหมด Track แล้วคุณจะพบความดุดันที่มากขึ้น ถอนคันเร่งทีไรเสียงแบ็คไฟย์ดัง ปุ ปะ ตลอดเวลา ถ้าพูดถึงการใช้งานทั่วไปถ้าคุณอยากจะใช้งานรถคันนี้ในชีวิตประจำวัน Sport โหมดก็ไม่ได้ขับยากอะไร บาลานซ์ของรถดีมากๆด้วยการที่จุดศูนย์ถ่วงต่ำและการกระจายน้ำหนักที่สมดุล ระบบเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิปไฟฟ้าทำงานไว ไม่ให้รถคุณเสียอาการได้เลย ขับเร็วนิ่งและมั่นใจ เข้าโค้งไวได้

ความสะดวกสบายในการโดยสาร

เบาะนั่งแบบสปอร์ตหุ้มหนังลูกวัวชั้นดีให้สัมผัสที่สุดยอด สามารถปรับไฟฟ้าและปรับดันหลังให้เบาะเข้ากับสรีระเราได้ไม่ยาก การนั่งนุ่มสบายและกระชับ มีระบบระบายอากาศที่เบาะช่วยให้นั่งได้สบายมากขึ้นไปอีก สัมผัสบริเวณส่วนอื่นๆก็นุ่ม ไม่มีอะไรให้ต้องตำหนิในการโดยสารรถคันนี้ถ้าคุณชอบรถเตี้ยและสปอร์ตแบบนี้อยู่แล้วด้วย

Aston Martin Vantage คือรถสปอร์ต 2 ที่นั่งที่มีสมรรถนะที่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นซุปเปอร์คาร์ได้ ทั้งพละกำลังและอัตราเร่งที่ดุดัน ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ เครื่อง V8 ที่แม้จะยืมเบนซ์มาแต่ส่วนอื่นๆทั้งระบบไอดี ไอเสีย แอสตันเป็นคนจูนและออกแบบเองทั้งหมดเพื่อดึงศักยภาพของเครื่องตัวนี้ออกมาให้มากที่สุด ซุ้มเสียงคำรามที่ดุดัน รูปทรงที่ปราดเปรียว กระจังหน้าปากฉลามโหดๆ ดิฟฟิวเซอร์หลังขนาดใหญ่ ล้อ 20 นิ้วที่เต็มซุ้ม การกระจายน้ำหนักที่บาลานซ์ ดิฟเฟอเรนเชียลไฟฟ้าที่ทำงานได้ดีและไวมาก ส่งผลให้ Vantage เป็นรถ 2 ที่นั่งที่สปอร์ตและดุดีนที่สุดคันหนึ่งบนท้องถนนเมืองไทย โดยไม่จำเป็นต้องมีเครื่อง V12 อีกต่อไปก็ได้