Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์) โมเดลปี 2023 เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นอกจากอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นเกือบทุกรุ่นย่อยแล้ว เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตรใหม่ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 224 แรงม้าถือเป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญครั้งนี้
AutoFun Thailand ได้รับโอกาสในการทดสอบเครื่องยนต์ 2.8 ลิตรใหม่ที่จะใช้กับรุ่น Fortuner GR Sport โมเดลของปีนี้ ที่ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (ATTRIC) ซึ่งเป็นสถานที่ทดสอบรถยนต์ที่ได้รับมาตรฐานสากลแห่งแรกของไทยและอาเซียน มาดูกันว่ารถคันนี้จะตอบสนองต่อการทดสอบอย่างไรบ้าง
การทดสอบครั้งนี้ Toyota ประเทศไทย จัดการทดสอบได้เหมาะสมเพื่อให้สื่อมวลชนรับรู้ถึงความแตกต่างระหว่างเครื่องยนต์ใหม่กับเครื่องยนต์เดิม โดยเริ่มที่การเดินทางจาก Toyota ALIVE บางนา กม. 3 ในกรุงเทพด้วย Toyota Fortuner ในรุ่น Leader และ Legender ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ตัวเดิมเพื่อไปยังสนามทดสอบ ATTRIC ที่ จ.ฉะเชิงเทรา
นอกจากนี้ ยังได้ขับ Fortuner รุ่นอื่น ๆ เพื่อไปทำกิจกรรมกับทางโตโยต้าที่ จ.ชลบุรี ไปจนถึงการขับกลับมาที่กรุงเทพ ทำให้เราได้รับประสบการณ์จาก Fortuner ใหม่ได้อย่างเต็มที่ แม้ไม่เคยขับมาก่อน
ทดสอบ 3 รูปแบบ
สำหรับการทดสอบ Toyota Fortuner GR Sport โมเดลปี 2023 พร้อมเครื่องยนต์ใหม่นั้นประกอบด้วย 3 ฐานด้วยกัน ได้แก่ ทดสอบการตอบสนองของเครื่องยนต์ (Power Response) การขับขี่และการทรงตัว (Handling & Stability) และความปลอดภัย (Safety)
ในฐานแรก Power Response จะเริ่มที่การทดสอบอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. และที่ความเร็ว 80-120 กม./ชม. ทั้งหมด 2 รอบ โดยรอบแรกจะเป็นการกดคันเร่งแบบทันที และรอบที่สองจะเป็นการกดคันเร่งแบบไล่ระดับขึ้นไป โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้เรารับรู้ถึงการตอบสนองของเครื่องยนต์ตัวใหม่
สิ่งที่เราสัมผัสได้เลยคือ ถึงแม้ตัวรถจะไม่ได้มีการตอบสนองที่ดุดันเท่าที่คิดไว้ แต่จะมาพร้อมความลื่นไหลแบบติดเท้า จากที่มีการถามทีมพัฒนามา พบว่าใน GR Sport ใหม่มีการจูนเกียร์ตัวเดิมกับเครื่องยนต์ตัวใหม่ให้ทำงานสอดคล้องกันยิ่งขึ้น
ฐานถัดมาคือ Handling & Stability จะเริ่มที่การเร่งความเร็ว 0-100 เช่นกัน แต่ตามมาด้วยการเลี้ยวโค้งที่ความเร็วสูงเพื่อให้สัมผัสถึงช่วงล่างแบบ GR Sport ว่าจะตอบสนองอย่างไร
เราสัมผัสได้ว่า ในโค้งที่ความเร็วสูงราว 60-80 กม./ชม. ตัวรถตอบสนองได้ดี แม้มีความโยกบ้างตามประสารถยกสูงบอดี้ออนเฟรม แต่ไม่รู้สึกว่าจะมีการแหกโค้งแต่อย่างใด ทั้งนี้ อาจประกอบด้วยปัจจัยหลายประการ ทั้งช่วงล่าง และระบบความช่วยเหลือต่าง ๆ
สำหรับฐานสุดท้าย Safety เราพบว่าเป็นฐานที่เราเห็นภาพได้ชัดที่สุด เพราะการทดสอบในฐานนี้บ่งบอกถึงความสำคัญของระบบช่วยเหลือการขับขี่ รวมถึงระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่จะช่วยให้ชีวิตของเราปลอดภัยขึ้นมาก
ฐานนี้จะเริ่มที่การวิ่งบนกระเบื้องที่ฉีดน้ำให้ลื่น ขับไปโดยใช้ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อและปิดระบบช่วยเหลือทั้งหมด และเปิดคันเร่งพร้อมลองขยับพวงมาลัยให้รถออกอาการ ทำให้ท้ายรถจะเริ่มเสียการควบคุมเรื่อย ๆ หากยังกดคันเร่งต่อไป
ต่อมาจะเป็นการเปิดระบบช่วยเหลือทั้งหมด พบว่าเมื่อเปิดคันเร่งพร้อมขยับพวงมาลัยในพื้นกระเบื้องเปียกน้ำแล้วเราจะรับรู้ได้ทันทีว่าระบบช่วยเหลือนั้นทำงานอย่างไร
เช่นเดียวกับการเปิดและปิดระบบช่วยเหลือโดยใช้โหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ แต่การขับสี่พร้อมปิดระบบช่วยเหลือตัวรถเรายังสามารถควบคุมตัวรถได้มากกว่าโหมดขับเคลื่อนสองล้ออยู่บ้าง
สำหรับ Toyota Fortuner GR Sport มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 1GD-FTV 4 สูบขนาด 2.8 ลิตร VN Turbo ให้กำลังสูงสุด 224 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร
ทดสอบใช้งานจริงรุ่น Leader
ในขณะที่การทดสอบในสนามจะใช้รุ่น GR Sport แต่ในการเดินทางตั้งแต่กรุงเทพฯ ไปสนามทดสอบที่ จ.ฉะเชิงเทรา จนถึงที่พักใน จ.ชลบุรี ล้วนแต่ใช้รุ่น Leader ทั้งสิ้น ซึ่งเหมือนเป็นการจำลองการขับขี่ในชีวิตประจำวันจริง ๆ
Fortuner Leader มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.4 ลิตร VN Turbo กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร ซึ่งให้การตอบสนองที่เพียงพอหากขับขี่แบบทั่วไป แต่หากต้องการเร่งแซงกะทันหันอาจต้องกดคันเร่งมากกว่าที่ใช้ปกติเพื่อให้ตัวรถตอบสนองได้ตามต้องการ
สำหรับช่วงล่างของรุ่น Leader ยังเป็นแบบทั่วไป ไม่ได้ถูกปรับจูนให้นุ่มนวลแบบ Legender หรือสปอร์ตแบบ GR Sport ให้ความรู้สึกนุ่มนวลพอสมควรหากนั่งด้านหน้า ส่วนด้านหลังจะรู้สึกถึงการเต้นของช่วงล่างอยู่บ้าง แต่ก็ให้ความนิ่งที่ความเร็วสูงตามกฎหมายกำหนดได้ดี
นอกจากนี้ ภายในรถยังให้อุปกรณ์มาให้อย่างครบครัน เช่น หน้าจอกลาง 8 นิ้วรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แท่นชาร์จไร้สาย กล้อง 360 เบาะนั่งปรับไฟฟ้าได้ทั้งผู้ขับและผู้โดยสาร ส่วนระบบความปลอดภัยที่น่าสนใจ เช่น BSM, RCTA และระบบแจ้งเตือนลมยาง TPMS มาให้
ทดลองใช้แอพ T-Connect ติดตามพฤติกรรมการขับขี่
ในทริปการทดสอบครั้งนี้ ทาง Toyota ต้องการให้เราลองใช้แอพ T-Connect ระบบเทเลมาติกของค่ายเพื่อให้เรารับรู้สถานะของรถได้ตลอดเวลา รวมถึงพฤติกรรมการขับขี่ที่ประกอบด้วย การเร่ง การเบรค และการเลี้ยวโค้ง
ซึ่งจะถูกบันทึกไว้ในระบบเพื่อประกอบการพิจารณาสำหรับประกันภัย PHYD (Pay How You Drive) นำไปสู่การลดเบี้ยประกันในอนาคตหากมีพฤติกรรมการขับขี่ที่ดี
Toyota Fortuner ใหม่นอกจากจะมีขุมพลังใหม่แล้ว ออพชั่นยังถูกปรับใหม่อีกด้วย
สำหรับการทดสอบ Toyota Fortuner GR Sport ครั้งนี้นอกจากเรารับรู้ถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์ใหม่และการควบคุมของตัวรถแล้ว เรายังเห็นประโยชน์ใช้สอยที่มากขึ้นจากจาก Fortuner ใหม่การปรับอุปกรณ์ครั้งนี้อีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม: เปิดตัว 2023 Toyota Fortuner เพิ่มเครื่อง 2.8 ลิตรใหม่ ปรับอุปกรณ์ - ราคา น่าใช้ยิ่งขึ้น