Toyota Corolla Cross

โตโยต้า ผู้นำตลาดรถยนต์ในประเทศไทย ส่ง 2020 โตโยต้า โคโรลล่า ครอส ราคาเริ่มต้น 9.89 แสนบาทที่รุ่น 1.8 สปอร์ต รุ่น 1.8 ไฮบริด สมาร์ท ราคา 1.019 ล้านบาท 1.8 ไฮบริด พรีเมียม 1.089 ล้านบาท และ 1.8 ไฮบริด พรีเมียม เซฟตี้ 1.199 บาท มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร 140 แรงม้าหรือเครื่องยนต์ไฮบริด 122 แรงม้า
โตโยต้า โคโรลล่า ครอส เป็นรถยนต์กลุ่มซี-เอสยูวี ที่ผลิตโดย โตโยต้า ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ทำตลาดในกลุ่มรถยนต์ระดับซี-เอสยูวี เปิดตัวในประเทศไทยวันที่ 9 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา รถยนต์คันนี้ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตรและเครื่องยนต์ไฮบริด ที่น่าสนในด้วยการรับรองการประหยัดน้ำมันถึง 23.3 กิโลกรัมต่อลิตรในรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด
2020 Toyora Corolla Cross (2020 โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย จึงไม่ต้องแปลกใจหากสื่อมวลชนไทยจะได้รับสิทธิพิเศษในการเป็นประชาชนกลุ่มแรก ๆ ที่ได้เข้ามาสัมผัสกับรถยนต์รุ่นดังกล่าว ที่โตโยต้า ไดร์ฟวิ่ง เอ็กซ์พีเรียน กันตั้งแต่วันเปิดตัวเลยทีเดียว
นอกเหนือจากบรรดารถยนต์หลากหลายรุ่น ทั้งเวอร์ชั่นมาตรฐานและเวอร์ชั่นตกแต่งพิเศษที่ดูสวยงามแล้ว โตโยต้ายังได้เปิดโอกาสให้มีการทำลองขับกันแบบสั้น ๆ ในสนามทดสอบด้วย ซึ่งแม้จะไม่เพียงพอที่จะทำให้ตัดสินใจได้ว่ารถคันนี้ดีงามขนาดไหน แต่ก็ทำให้ได้รายละเอียดอะไรหลาย ๆ อย่างของรถมาเพิ่มเติม

รายละเอียดเกี่ยวกับการเปิดตัว สเปก รุ่นย่อย และราคาจำหน่าย สามารถหาอ่านได้จากบทความที่เราทำไว้อย่างละเอียดยิบในวันเปิดตัวรถรุ่นดังกล่าว ซึ่งในวันนี้เราจะขอพาไปสัมผัสตัวเป็น ๆ พร้อมกับความรู้สึกที่จับได้ในการอยู่กับรถกันสักเล็กน้อย ไว้ทางโตโยต้าจัดทดสอบเป็นทางการค่อยมาลองกันอย่างจริงจังอีกสักที

นี่คืออนุพันธ์ของโคโรลล่าอีกหนึ่งโมเดล
ดูเหมือนว่าหลาย ๆ คนจะนำรถคันนี้ไปผสมผสานกับซี-เอสยูวีของค่ายอีกรุ่นอย่าง Toyota C-HR (โตโยต้า ซี-เอชอาร์) ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้ เพราะด้วยรูปลักษณ์ของตัวรถที่คล้ายคลึงกัน แตกต่างกันที่แนวทางการออกแบบนิดหน่อย ซึ่งจึงไม่น่าแปลกใจที่ใคร ๆ ต่างก็คิดว่าโตโยต้าน่าจะนำพื้นฐานรถมาดัดแปลงแค่นิดหน่อย
แต่ทีมงานของโตโยต้าก็ระบุชัดเจนว่า โคโรลล่า ครอส คือการพัฒนาตัวถังรุ่นใหม่ที่ต่อยอดมาจากรถยนต์นั่งที่ขายดีที่สุดรุ่นหนึ่งตลอดกาลอย่าง Toyota Corolla (โตโยต้า โคโรลล่า) โดยแน่นอนว่าแพลตฟอร์มทีเอ็นจีเอถูกนำมาใช้เป็นพื้นฐานในการพัฒนาเหมือนกัน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าที่อยากได้รถยนต์เอนกประสงค์ไว้ใช้งาน

รูปร่างหน้าตาที่ไม่ได้น่าเกลียด

เอาจริง ๆ หลังจากที่เราทำบทความเปิดตัวออกไป มีหลายคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์หน้าตาของรถกันอย่างมาก โดยเฉพาะในส่วนของกระจังหน้าที่ดูเหมือนปลากำลังอ้าปาก แต่หากมาดูคันจริงแล้ว ก็ไม่ได้ดูขัดแย้งอะไร การออกแบบโดยรวมของตัวรถนั้นถือว่าทำได้ดีมาก ด้วยสัดส่วนที่ลงตัว และรายละเอียดลูกเล่นปลีกย่อยรอบคัน
การออกแบบนั้นทำให้นึกถึงรถยนต์เอสยูวีที่พร้อมลุยในสถานการณ์ต่าง ๆ มากกว่าการออกแบบเป็นรถยนต์เอนกประสงค์สำหรับการใช้งานในเมือง มีรายละเอียดปลีกย่อยของรถเยอะมากที่ทำให้รู้สึกได้ถึงความตั้งในในการออกแบบ และเป็นรถที่ถ้ามองนาน ๆ จนชินตา ก็น่าจะเริ่มรู้สึกว่ามันไม่ได้เลวร้ายในท้ายที่สุด

ที่แอบรู้สึกไปเองก็คือแนวทางในการออกแบบรถยนต์ของโตโยต้าในกลุ่มรถเอนกประสงค์เริ่มไปในทิศทางคล้าย ๆ กันแบบนี้มากขึ้น กระจังหน้าใหญ่ที่ดูไม่สวยแต่เตะตาในตอนแรก ด้านท้ายแบบเรียบ ๆ ไม่หวือหวา แล้วไปเน้นลูกเล่นในอุปกรณ์หรือการตกแต่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ใส่มารอบคันแทน ทำให้ดูไปนาน ๆ ก็ไม่น่าเบื่ออย่างที่บอกล่ะ

ไปชมคลังภาพ

ภายในไม่กว้างขนาดนั้น แถมของเล่นหายอีก
ด้วยความที่หลาย ๆ คนเอารถคันนี้ไปเปรียบเทียบกับซี-เอชอาร์ ที่มีปัญหาหลักเรื่องห้องโดยสารตอนหลัง ที่บานกระจกนั้นแคบเหลือเกิน ทำให้มีความคาดหวังว่ารถคันนี้จะต้องปรับปรุงและแก้ไขปัญหาเรื่องนี้มาแล้ว ซึ่งก็เป็นจริงและไม่จริง หากมองไปที่พื้นที่โดยสารสำหรับผู้โดยสารตอนหลังเป็นหลักเพียงอย่างเดียว
สิ่งที่ได้รับการแก้ไขขึ้นมาอย่างมากก็คือ พื้นที่สำหรับศีรษะสำหรับผู้โดยสารตอนหลังที่ดูโปร่งโล่งขึ้นมา ทั้งจากรูปทรงของตัวรถเอง และตำแหน่งการนั่งที่เหมือนจะปรับลงมาเล็กน้อย กระจกบานหลังนั้นมีขนาดปกติและดูโปร่งโล่งขึ้นอย่างมาก แต่ที่ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไรก็คงจะเป็นพื้นที่วางเท้าที่ไม่ได้กว้างขึ้น ก็ระยะฐานล้อมันเท่ากันนี่

การตกแต่งในห้องโดยสารนั้น ถ้าจะถามว่าหยิบยืมใครมาก็น่าจะเอน ๆ ไปทางโคโรลล่า ใหม่ เสียมากกว่า รุ่นท็อปอย่างไฮบริดมาพร้อมอุปกรณ์ที่ใกล้เคียงกันมาก แต่เพิ่มหลังคาซันรูฟมาให้ สิ่งที่หายไปก็คือระบบ Auto Brake Hold ซึ่งหลาย ๆ คนใช้บ่อยมากในการขับขี่บนถนนในเมือง ตัดออกแบบนี้บอกเลยว่าวัยรุ่นเซ็ง

ฟีลลิ่งแบบโคโรลล่าเสริมความนุ่มสบาย

การขับขี่แบบสั้น ๆ 2 รอบสนามทดสอบอาจจะบอกอะไรไม่ได้มาก แต่บรรยากาศการขับขี่ในภาพรวมนั้นถือว่าตัวรถมีความใกล้เคียงกับโคโรลล่ามากกว่าซี-เอชอาร์ เป็นรถยนต์ที่เหมาะสมกับการใช้งานในเมือง แต่เพิ่มความเอนกประสงค์ด้วยห้องโดยสารที่ปรับใช้งานได้อย่างหลากหลาย บนพื้นฐานความนุ่มสบายเหมือนเช่นเดิม
โตโยต้าเองให้ความสำคัญกับการออกแบบรถในรายละเอียดมาก เพื่อเอาใจกลุ่มลูกค้าให้มากที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าครอบครัวที่ผู้ขับขี่อาจจะเป็นสุภาพสตรี ยกตัวอย่างเช่น การเพิ่มวิสัยทัศน์ในการขับขี่ด้านหน้า ที่พวกเขาทำทั้งการลดขนาดของเสาเอ และการเจาะช่องเพิ่มกระจกตรงตำแหน่งยึดกระจกมองข้าง เพื่อลดจุดบอดในการขับขี่

Review: สั้น ๆ กับ 2020 Toyota Corolla Cross รถเก๋งยกสูง ตัดออพชั่นบางรายการ

ช่วงล่างนั้นนุ่มกว่าทั้งโคโรลล่าและซี-เอชอาร์ ความสนุกสนานบนพื้นฐานแพลตฟอร์มที่เอ็นจีเอเป็นสิ่งที่โคโรลล่า ครอส ย้งเก็บรักษาเอาไว้ ในรุ่นท็อปนั้น เครื่องยนต์ไฮบริดเจน 4 เจ้าของแรงม้า 122 ตัวให้การตอบสนองที่ดี มีเสียงมอเตอร์แทรกเข้ามาเล็กน้อยแบบไม่ได้น่ารำคาญ เอาไว้ขับละเอียด ๆ กว่านี้ ค่อยมาคุยกันอีกทีละกัน

ตกลงแล้วรถคันนี้เหมาะกับใคร

กลุ่มลูกค้าที่น่าจะสนใจรถคันนี้ก็คือกลุ่มครอบครัวที่มีลูกตัวน้อย 1-2 คน เดินทางไปไหนต้องขนสัมภาระจำนวนมากไปด้วยบ่อย ๆ คิดว่ารถยนต์นั่งธรรมดาขนของไม่พอ แต่ไอ้ครั้นจะไปเล่นรถยนต์หน้าตาโฉบเฉี่ยวมากเกินไปก็ดูเกินวัยไปสักนิด แต่ก็แอบอยากได้ความสนุกสนานในการขับขี่แบบเผื่อแอบซิ่งกันได้สักเล็กน้อยเหมือนกัน
ด้วยพื้นฐานของรถที่มาพร้อมแพลตฟอร์มที่พัฒนามาเพื่อความสนุกสนานในการขับขี่ แต่ดัดแปลงตัวถังเพื่อเน้นความเอนกประสงค์และความสะดวกสบาย ในข้อจำกัดบางด้านอาจจะทำให้ไม่ได้สามารถขยับขยายรถออกไปให้กว้างขวาง แต่ในมุมของการพัฒนาทางวิศวกรรมแล้ว ถือว่าโตโยต้าก็พัฒนารถคันนี้มาอย่างเต็มที่เหมือนกัน
โตโยต้าจะนำเจ้าโคโรลล่า ครอส ไปเป็นพระเอกในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 ที่จะจัดขึ้นในสัปดาห์นี้ ก่อนที่จะส่งลงโช์รูมให้ไปลองขับขี่กันได้ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ใครที่อยากไปลองด้วยตัวเองก็อย่าลืมไปลองได้ ส่วนคิวทดสอบของสื่อมวลชนนั้นน่าจะเป็นเดือนสิงหาคมไปแล้ว ไว้จะเก็บรายละเอียดมาให้อีกครั้ง
อย่าลืมติดตามพวกเรา AutoFun ด้วย