ปัญหาช่วงล่างที่เทสล่าปฏิเสธการรับเคลม ทำให้เกิดการสืบสวนจากสำนักข่าว Reuters พบความจริงที่ Tesla ซุกไว้ใต้พรมตรงที่พวกเขารู้อยู่แก่ใจว่าอุปกรณ์ชิ้นนี่จะเสียง่าย แต่ไม่สามารถเคลมได้ และคิดค่าซ่อมให้ลูกค้าในราคาแพง
ปัญหาช่วงล่างที่เทสล่าปฏิเสธการรับเคลม ทำให้เกิดการสืบสวนจากสำนักข่าว Reuters พบความจริงที่ Tesla ซุกไว้ใต้พรมตรงที่พวกเขารู้อยู่แก่ใจว่าอุปกรณ์ชิ้นนี่จะเสียง่าย แต่ไม่สามารถเคลมได้ และคิดค่าซ่อมให้ลูกค้าในราคาแพง
เรื่องเริ่มต้นมาจากชาวอังกฤษรายหนึ่งซื้อรถ Tesla Model Y หลังจากขับไปได้วันเดียว เป็นระยะทางประมาณ 184 กม. ก็เกิดอาการล้อไม่หมุนตามการเลี้ยวของพวงมาลัย โชคดีที่เขาขับช้า ทำให้ครอบครัวที่โดยสารมาไม่มีใครเป็นอะไร หลังจากนั้นเขาก็เข้าศูนย์ซ่อม แล้วเทสล่าก็ปฏิเสธการเคลม เพราะอ้างว่าเป็นความเสียหายจากการใช้งานก่อนหน้านี้ พร้อมเสนอค่าซ่อมแรคพวงมาลัย ช่วงล่าง และค่าแรง รวมกันเป็นเงิน 479,000 บาท นี่ไม่ใช่ลูกค้ารายแรก ที่ถูกปฏิเสธการเคลม ยังมีอีกหลายกรณี
รายต่อไปเป็น Tesla Model 3 จากสหรัฐอเมริกา ใช้งานมาประมาณ 1 ปีกับระยะทาง 24,000 กม. แล้วเกิดอุบัติเหตุล้อหน้าหลุดที่ความเร็วเกือบ 100 กม./ชม. แน่นอนว่าเทสล่าสาขานิวยอร์คก็ปฏิเสธการเคลมเหมือนเดิม และเจ้าของรถไม่ยอมจ่ายเงินซ่อมใช้ต่อ ทำให้เขาขายรถทิ้งเป็นซากทั้งแบบนั้นไปเลย
สถิติปัญหาช่วงล่างของ Tesla ดูได้จากจำนวนรถที่บริษัทเรียกคืนไปเปลี่ยนชิ้นส่วนช่วงล่างไปแล้ว 120,000 คันแบบเคลมคุณภาพฟรี อย่างไรก็ตาม ยังมีเจ้าของรถอีก 31,000 รายที่เกิดเหตุช่วงล่างพังไปโดยไม่ได้รับเคลม แถมยังต้องเสีเงินค่าซ่อมเองที่มีราคาแพงหูฉี่
อ่านเพิ่มเติม : รายงานหลุด Tesla Cybertruck พบปัญหาเพียบ ผู้บริหารส่วนใหญ่ไม่ชอบใจ
การสืบสวนของสำนักข่าวรอยเตอร์ ได้พบกับอดีตผู้จัดการฝ่ายบริการของเทสล่าสาขานอร์เวย์ เขาออกมาเปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2017 เขาได้รับคำสั่งให้โยนความผิดพลาดที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ให้กับผู้ใช้งาน เพื่อลดต้นทุนการรับประกัน และลดค่าใช้จ่ายในการซ่อม และยังมีช่างเทคนิคกล่าวเสริมว่า “เขาแทบไม่ได้ทำงานอย่างอื่น นอกจากการเปลี่ยนแขนช่วงล่าง” ซึ่งเขาทำงานอยู่ 1 ปีก่อนจะลาออกมาจากเทสล่าเรียบร้อย
อ่านเพิ่มเติม : เผย 3 จุดอ่อนทำรถยนต์ไฟฟ้า Tesla คุณภาพตกต่ำที่อีลอน มัสก์เองยังยอมรับ
ข้อมูลการสืบสวนยังพบว่า Tesla มีความพยายามแก้ปัญหาช่วงล่างให้กับ Model S โดยมีคำเตือนจากวิศวกร ช่างยนต์ ถึงการออกแบบที่ผิดพลาด และบริษัทก็แก้ไขแบบช่วงล่างมาแล้วถึง 4 ครั้ง แต่ก็ยังมีอายุยืนแค่ 4 ปีก่อนที่จะถูกบังคับให้เรียกคืนรถในประเทศจีน
ไม่เพียงแขนช่วงล่างเท่านั้น Tesla ยังมีปัญหาเกี่ยวกับเพลาขับ และแกนพวงมาลัย ซึ่งเจ้าของรถต้องจ่ายค่าซ่อมกว่า 137,000 บาท แม้ว่ารถคันนั้นจะยังอยู่ในการรับประกันก็ตามอีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม : ถอดบทเรียน จากปัญหาคุณภาพรถ Tesla สู่หายนะด้านภาพลักษณ์ที่อาจส่งผลต่อยอดขาย
การสืบสวนของรอยเตอร์ยังพบหลักฐานว่า เทสล่าในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ผลักปัญหาเหล่านี้ไปให้เป็นความผิดของผู้ใช้ ถึงขั้นบรรจุเป็นคู่มือการอธิบายให้ฝ่ายบริการหลังการขาย เพราะว่าในปี 2018 บริษัท Tesla ได้เสียเงินเคลมไปถึง 263 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนั้น ซึ่งนับเป็นจำนวนเท่าตัวของมูลค่ากำไรประจำไตรมาสดังกล่าว (139 ล้านเหรียญสหรัฐ) ทำให้บริษัทจึงต้องโทษการใช้งานของลูกค้า เพื่อให้ฐานะการเงินยังอุดมสมบูรณ์ดี
อ่านเพิ่มเติม : Tesla Model Y พวงมาลัยหลุดกลางทาง และนี่ไม่ใช่คันแรกด้วย ย้อนดูงานหยาบของรถสุดไฮเทค
ประเมินราคารับซื้ออย่างยุติธรรม มีราคากลาง
2023 Tesla Model Y Rear Wheel Drive
แลก
เพิ่มรถของคุณ