เปิดตัว 2023 Honda WR-V ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี
2023 Honda WR-V (ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี) เปิดตัวในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย โดยวางตำแหน่งเป็นเอสยูวี 5 ที่นั่งขนาดเล็กที่สุดในค่ายรองลงมาจาก HR-V โดยรถคันนี้ได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกที่อินโดนีเซีย แล้วเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
Honda WR-V เปิดตัวในประเทศไทยด้วยราคา 799,000 - 869,000 บาท ซึ่งเป็นการอุดช่องว่างทางการตลาดระหว่าง Honda City/City Hatchback e:HEV และ BR-V ได้อย่างแนบเนียนไร้รอยต่อ โดยมีรุ่นย่อย ดังนี้
2023 Honda WR-V RS ราคา 869,000 บาท
2023 Honda WR-V SV ราคา 799,000 บาท
สำหรับ 2023 WR-V มีมิติตัวถัง ดังนี้
2023 Honda WR-V
มิติตัวถัง (มม.)
ความยาว
4,060
ความกว้าง
1,780
ความสูง
1,608
ระยะฐานล้อ
2,485
ระยะต่ำสุดถึงพื้น
220
ด้วยขนาดของตัวรถ ทำให้ Honda WR-V อาจเป็นการเปิดเซกเมนต์ใหม่ให้เอสยูวีในไทยก็เป็นได้
ภายนอกรุ่น RS
ภายนอกที่ผสมผสานอย่างลงตัว
รูปร่างภายนอกของ WR-V นั้นเป็นการผสมผสานกันระหว่างรถสองรุ่น โดยมีด้านหน้าและด้านท้ายที่ดูคล้าย Honda BR-V ส่วนด้านข้างนั้นทำให้นึกถึง HR-V อยู่ไม่น้อย
WR-V ถูกออกแบบให้มีความโดดเด่น โดยมาพร้อมพื้นที่ใต้ท้องรถที่มากกว่าคู่แข่ง ตัวรถที่ดูลู่ลม ด้านข้างที่ดูคล้ายรถทรงคูเป้พร้อมการซ่อนมือจับประตูหลัง รวมถึงล้อและซุ้มล้อที่ดูใหญ่และแข็งแรง
ภายนอกรุ่น SV
ด้านหน้าของรถมาพร้อมกระจังหน้าโครเมียม ไฟหน้าและไฟเดย์ไลท์แบบ LED รวมถึงไฟเลี้ยวแบบ Sequential ด้านท้ายถูกออกแบบให้ดูกว้างและโดดเด่น ไฟท้าย LED ที่เรียกว่า Dual Tail ทำให้รถดูกว้างขึ้น และมือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ
นอกจากนี้ยังมี ระบบเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับและพับไฟฟ้า ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบหน่วงเวลา และระบบปัดน้ำฝนด้านหลัง เสาอากาศแบบครีบฉลาม และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว
สำหรับรุ่นท็อป RS นั้นจะเพิ่มความสปอร์ตให้มากขึ้น โดยเพิ่มกระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ต พร้อม ล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 17 นิ้ว และหลังคาสีดำ ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับและพับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ
ภายในคล้าย BR-V แต่หรูกว่าเล็กน้อย
สำหรับภายในของรถทำให้เรานึกถึงการออกแบบของ Honda BR-V แต่จะแตกต่างกันตรงที่การตกแต่งที่มีความตั้งใจออกแบบให้มีความสปอร์ตด้วยสีดำและการตกแต่งสีดำเงา
นอกจากนี้ยังมีความพรีเมียมของตัวรถด้วยการบุนุ่มในบริเวณต่าง ๆ ของห้องโดยสารรวมถึงเบาะนั่งของรถยังเป็นการผสมผสานระหว่างการใช้ผ้าและหนัง วัสดุหุ้มเบาะหนังสังเคราะห์สีดำ ตกแต่งด้วยผ้าและด้ายสีน้ำเงิน และพวงมาลัยหุ้มหนัง ตกแต่งด้วยด้ายสีน้ำเงิน ปรับระดับสูง-ต่ำได้
ภายในของรุ่น RS (บน) และรุ่น SV (ล่าง)
ในรุ่น RS จะมีการตกแต่งให้มีความรู้สึกสปอร์ตยิ่งขึ้น ได้แก่ วัสดุตกแต่งภายในสีดำ Piano black และตกแต่ง Piano black แถบสีแดง วัสดุหุ้มเบาะหนังสังเคราะห์สีดำ ตกแต่งด้วยผ้าและด้ายสีแดง พวงมาลัยหุ้มหนัง ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง และคิ้วบันไดสเตนเลสที่ประตูหน้า พร้อมสัญลักษณ์ RS
ความสะดวกสบายภายในรถก็มีมาให้อย่างครบครัน ได้แก่ หน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto มาตรวัดแบบอนาล็อกผสมจอดิจิตอล TFT ขนาด 4.2 นิ้ว ช่อง Power Outlet 12V และช่องเสียบ USB 2 ตำแหน่ง รวมถึงระบบเสียงลำโพง 4 ตำแหน่ง
และรถคันนี้ยังมี ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start) ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System) และระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) มาให้ทุกรุ่นย่อย
ในรุ่น RS จะมาพร้อมเครื่องเสียงที่เพิ่มลำโพงเป็น 6 ตำแหน่ง และฟังก์ชั่นเพิ่มเติม ได้แก่ ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) และเทคโนโลยีเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Honda CONNECT
รถคันนี้มาพร้อมความจุสัมภาระด้านท้ายอยู่ที่ 380 ลิตร และยังสามารถพับเบาะแถวหลังแบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้อีก
เพิ่มตัวเลือกเครื่องยนต์ไร้ไฮบริดให้ตลาด
2023 Honda WR-V นั้นมาพร้อมเครื่องยนต์ i-VTEC 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร 16 วาล์ว ที่ให้กำลังสูงสุดที่ 121 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุดที่ 145 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ CVT มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 16.7 กม./ลิตร
การมาด้วยเครื่องยนต์ตัวนี้ เท่ากับว่าผู้บริโภคบ้านเรามีทางเลือกของเอสยูวีเครื่องยนต์สันดาปล้วนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งรุ่น หากยังไม่มั่นใจในเครื่องไฮบริด
ระบบความปลอดภัยที่เพียงพอ
2023 WR-V ยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย ได้แก่
ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC)
ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
Walk Away Auto Lock
พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอื่น ๆ ได้แก่
ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) (รุ่น RS)
ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) ถุงลมด้านข้างคู่หน้า (Side Airbags) และม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags) (รุ่น RS)
ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera)
ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติตามความเร็วรถ (Auto Door Lock by Speed)
ระบบเซ็นทรัลล็อกพร้อมสวิตช์ควบคุมตำแหน่งคนขับ
ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า
ข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง แบบดึงกลับอัตโนมัติ พร้อมเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารแถวที่ 2 แบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง
ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมสัญญาณกันขโมย
สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
ระบบป้องกันล้อล็อกและระบบกระจายแรงเบรก (ABS & EBD)
โครงสร้างตัวถังนิรภัย G-CON และ ACETM ช่วยปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
สีเงินสเตลลาร์ ไดมอนด์ (มุก) และสีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) / หลังคาสีดำ (แถวบน) สีดำคริสตัล (มุก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) สีขาวทาฟเฟต้า (แถวล่าง)
มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี
สีภายนอกของ WR-V มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่
สีใหม่ 2 สี
สีเงินสเตลลาร์ ไดมอนด์ (มุก)
สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) / หลังคาสีดำ (ทูโทน) (เฉพาะรุ่น RS)
และสีที่มีอยู่แล้วอีก 3 สี
สีดำคริสตัล (มุก)
สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) และ
สีขาวทาฟเฟต้า
นอกจากนี้ยังมีชุดแต่ง Modulo ที่มาพร้อมแนวคิด “Sporty & Premium” โดยมีอุปกรณ์ตกแต่งมากมายให้เลือก หรือเลือกรูปแบบแพ็กเกจชุดแต่งรอบคัน Modulo Sport Package ในราคา 14,990 บาท ที่ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า สเกิร์ตข้าง และ สเกิร์ตหลัง
สามารถมาสัมผัสคันจริง 2023 Honda WR-V ได้ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2023 ครั้งที่ 44 ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2566 – 2 เมษายน 2566
ในเบื้องต้น 2023 Honda WR-V มาพร้อมข้อเสนอพิเศษ ฟรีประกันภัย 1 ปี ดอกเบี้ย 2.29% และฟรี Modulo Sport Collection มูลค่า 2,285 บาท เมื่อจองและรับรถยนต์ ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2566 - วันที่ 31 พฤษภาคม 2566
หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 2023 Honda WR-V สามารถสอบถามและหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของฮอนด้า และตัวแทนจำหน่ายของฮอนด้าทั่วประเทศ