สำหรับรถรุ่นใหม่ทั้ง 5 คันที่ได้ทำการเปิดตัวไปภายในงาน Thailand International Motor Expo 2023 นำทัพมาด้วยรถบิ๊กไบค์ตระกูล 650 Series กับ All New Honda CBR650R และ All New Honda CB650R ที่ปรับโฉมครั้งใหญ่ มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของโลก Honda E-Clutch ที่จะช่วยให้การขับขี่ง่ายขึ้น
และเปิดตัวรถในตระกูล 500 Series กับ All New Honda CBR500R ที่ปรับโฉมใหม่หมดทั้งคัน ตามด้วย New Honda CB500 Hornet ดุดันยิ่งกว่าเดิม และ New Honda NX500 ดีไซน์ใหม่ สะท้อนความเป็น Adventure แบบเต็มขั้น พร้อมทำการติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่แบบครบครันในรถ 500Series ทุกคัน ไม่ว่าจะเป็นระบบ Honda Selectable Torque Control (HSTC) หน้าจอแบบ TFT Screen ที่ทำงานร่วมกับHonda RoadSync
มาเริ่มกันด้วยรถคันแรกที่เราได้ทำการทดสอบกับเจ้า All New Honda CBR650R ที่ตัวรถได้มาพร้อมกับคอนเซปต์ Race Like a Pro สปอร์ตไบค์ที่ได้รับการถ่ายทอด DNA ความเท่จากรถระดับซูเปอร์สปอร์ตอย่างสมบูรณ์แบบ ปรับโฉมใหม่ทั้งคันให้มีความดุดันยิ่งกว่าเดิม โดดเด่นด้วยไฟหน้าคู่แบบ LED และไฟท้ายใหม่ ลงตัวกับชุดแฟริ่งดีไซน์ใหม่รอบคัน รวมถึงแฟริ่งท้ายแบบใหม่ให้ความสปอร์ตเต็มขั้น ให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสประสบการณ์เสมือนมือโปรทุกครั้งที่ออกตัว โดย All New Honda CBR650R มีให้เลือก 2 สีใหม่ ได้แก่ สีแดง GRAND PRIX RED และ สีดำ MAT GUNPOWDER BLACK METALLIC กับราคาแนะนำที่ 327,300 บาท (รุ่นสแตนดาร์ด ไม่มี E-Clutch)
โดยสำหรับการขับขี่เจ้า All New Honda CBR650R ของเราภายในสนามแก่งกระจานแห่งนี้ต้องบอกเลยว่าถึงแม้มองจากภายนอกตัวรถอาจจะไม่ได้มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่แต่เมื่อเราได้ขับขี่มันในสนามนั้นก็สามารถสัมผัสได้ถึงความแตกต่างในทันที โดยตัวรถที่ได้รับการพัฒนาเครื่องยนต์ขนาด 650 ซี.ซี. แบบ 4 สูบแถวเรียงมาใหม่นั้นตัวรถให้ความสปอร์ตที่มากขึ้นรู้สึกได้ถึงรอบที่มาเร็วขึ้น และลื่นไหลมากยิ่งขึ้น
ต่อมากับเน็คเก็ตไบค์สุดเท่ในตระกูล 650 Series กันอีก 1 รุ่นนั่นก็คือ All New Honda CB650R ที่มาพร้อมคอนเซปต์ Ace of The Road ตัวรถโดดเด่นมาด้วยชุดไฟหน้าทรงกลม LED แบบใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ และเส้นสายด้านข้างที่ให้ความบึกบึน และด้านท้ายสไตล์ใหม่ให้ความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น โดย All New Honda CB650R มีวางจำหน่ายทั้งหมด 3 สีใหม่ได้แก่ สีดำ MAT GUNPOWDER BLACK METALLIC , สีแดง CANDY CHROMOSPHERE RED และ สีเทา PEARL SMOKY GRAY กับราคาแนะนำเริ่มต้นที่312,100 บาท (รุ่นสแตนดาร์ด ไม่มี E-Clutch)
ส่วนสำหรับในเรื่องการขับขี่นั้นเราได้ลองหวด All New Honda CB650R ไปรอบ ๆ สนามแก่งกระจานเซอร์กิตด้วยระยะทางในรูปแบบออนโรดประมาณ 70 กม. ซึ่งโดยรวมแล้วถือว่า All New Honda CB650R ยังคงเป็นรถสไตล์เน็คเก็ตไบค์ที่ขับขี่ได้ง่ายอีก 1 รุ่น ตัวรถมาพร้อมเครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียงขนาด 650 ซี.ซี. เช่นเดียวกันกับ All New Honda CBR650R ซึ่งนั่นทำให้มันมาพร้อมความแรงที่สามารถเรียกใช้ได้แบบติดมือ ไม่ว่าจะเป็นการหวดทางตรงยาว ๆ หรือการควบคุมคันเร่งภายในโค้งต่าง ๆ ก็สามารถทำได้อย่างมั่นใจ ดังนั้นเราจึงมองว่า All New Honda CB650R ถือเป็นรถเน็คเก็ตไบค์ที่มาพร้อมรูปลักษณ์ที่ดูเท่อีก 1 คันซึ่งมันเหมาะสมกับใครก็ตามที่กำลังมองหารถเอาไว้ขับขี่เท่ ๆ ในสไตล์ของตัวเอง แถมตัวรถยังเหมาะกับมือใหม่มาก ๆ เพราะด้วยตัวรถที่ควบคุมง่าย และขุมพลังเครื่องยนต์ที่กำลังพอดีต่อทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน และการเดินทางท่องเที่ยว
All New Honda CBR500R
มาต่อกันด้วยรถในพิกัดที่เล็กลงมากับตระกูล 500 Series กับสปอร์ตไบค์อย่าง All New Honda CBR500R ที่มาพร้อมคอนเซปต์ Ignite The Race ปรับโฉมใหม่ทั้งคัน ยกระดับความโฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้า ไฟท้าย และชุดแฟริ่งใหม่ ให้ความสปอร์ตยิ่งกว่าเดิม โดย All New Honda CBR500R มีวางจำหน่ายทั้งหมด 2สีใหม่ สีแดง GRAND PRIX RED และ สีดำ MAT GUNPOWDER BLACK METALLIC กับราคาแนะนำที่ 222,800 บาท
ซึ่งเราต้องบอกเลยว่าสำหรับ All New Honda CBR500R เป็นรถที่สามารถขับขี่ภายในสนามแข่งรถแก่งกระจานเซอร์กิตได้สนุกมาก ๆ ตัวรถมาพร้อมขุมพลังที่กำลังดี ไม่แรงจนเกินไป พร้อมด้วยท่าทางการขับขี่ และน้ำหนักของตัวรถที่เบาขึ้นกว่าเดิมมาก นั่นทำให้เราสามารถพลิกเลี้ยว และควบคุม All New Honda CBR500R ได้อย่างมั่นใจในทุกย่านความเร็ว ซึ่งเรามองว่า All New Honda CBR500R เหมาะมากสำหรับเป็นรถสปอร์ตไบค์คันแรกของใครหลาย ๆ คนที่ไม่เคยขับขี่รถสไตล์นี้มาก่อน เพราะนอกจากที่ตัวรถจะขับขี่ได้ง่ายมาก ๆ แล้ว มันยังมาพร้อมกับเรื่องของราคาที่สมเหตุสมผลอีกด้วย
New Honda CB500Hornet
สำหรับเน็คเก็ตไบค์สุดเท่แห่งตระกูล 500 Series อย่าง New Honda CB500Hornet ตัวรถได้มาพร้อมกับคอนเซปต์ Join The Hive ดีไซน์ดุดันแบบ Street Naked Bike ไฟหน้า ไฟท้าย ดีไซน์ใหม่ พร้อมลวดลายกราฟิกสะท้อน DNA แบบ Hornet โดย New Honda CB500Hornet มีวางจำหน่ายทั้งหมด 3 สีใหม่คือ สีแดง GRAND PRIX RED , สีดำ MAT GUNPOWDER BLACK METALLIC และ สีขาว PEARL HIMALAYAS WHITE กับราคาแนะนำที่ 217,700 บาท
มาถึงตัวรถรุ่นสุดท้ายในการทดสอบของเราในครั้งนี้กันแล้วกับรถทัวริ่งไบค์ยอดนิยมตลอดกาลจาก Honda นั่นก็คือ New Honda NX500 ที่ในครั้งนี้มันกลับมาพร้อมคอนเซปต์ The New Adventure Begins สู่อีกระดับของการเป็นรถสปอร์ตแอดเวนเจอร์แบบเต็มขั้น ด้วยดีไซน์ใหม่ทั้งคัน พร้อมลุยไปในทุกเส้นทาง มาพร้อมบังลงหน้าทรงสูงช่วยลดแรงปะทะขณะขับขี่ ตัวรถได้รับการออกแบบใหม่ให้มีน้ำหนักน้อยลงกว่าเดิมถึง 3 กิโลกรัม ให้ทุกการผจญภัยเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ โดย New Honda NX500 มีวางจำหน่ายทั้งหมด 3 สีใหม่ได้แก่ สีแดง GRAND PRIX RED , สีดำ MAT GUNPOWDER BLACK METALLIC และ สีขาว PEARL HORIZON WHITE กับราคาแนะนำที่ 227,900 บาท