ปี 2020 กำลังจะผ่านพ้นไป แต่เรามาดูกันดีกว่าว่าในปี 2021ที่จะมาถึงนี้จะมีรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่อะไรบ้างที่คาดว่าจะนำเข้ามาขายในเมืองไทยเผื่อเพื่อน ๆ คนไหนสนใจจะได้เก็บเงินรอกันไว้ได้เลย
เราเชื่อว่านี่คืออีกหนึ่งโมเดลที่แฟนๆ ชาวไทยรอคอยกับสกู๊ตเตอร์สายลุยพิกัดกลางตัวนี้ ที่หลายคนอยากให้ผลิตมาขายในบ้านเราสะเหลือเกิน เราบอกได้เลยว่าโอกาสเป็นไปได้ ณ ตอนนี้มีสูงมาก ๆ เนื่องจากตอนนี้ทาง Forza เองได้มีเครื่องยนต์ 350 ตัวใหม่อยู่แล้ว ซึ่งก็ไม่เป็นการยากเลยที่ทางฮอนด้าจะนำเครื่องยนต์ตัวนี้มาแขวนไว้บน ADV แถมกระแสข่าวตอนนี้ก็มีออกมาอย่างหนาหูมากว่าทางฮอนด้าจะใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตหลักอีกด้วย
ซึ่ง Honda ADV 350 นั้นจะใช้เครื่องยนต์ eSP+ แบบเดียวกับ Forza 350 กับพิกัดเครื่องยนต์ 330 ซี.ซี. 4 วาล์ว 1 สูบ พร้อมโช้คอัพด้านหลังซับแทงค์คู่เช่นเดิม พร้อมยางลุยกึ่งวิบากติดรถ ส่วนขนาดมิติ และหน้าตาของตัวรถจะออกมาแบบ ADV 150 แต่มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม โดยคาดการณ์ราคาขายของมันน่าจะอยู่ที่ประมาณ 183,500 – 185,000 บาท ขึ้นอยู่กับฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่จะใส่เข้ามาในตัวรถ
หลังจากที่รถรุ่นนี้ได้มีการเปิดตัวไปที่ประเทศอินโดนีเซียไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่าคิวถัดไปก็คือประเทศไทยของเรานั่นเอง ซึ่งเราคาดการณ์ว่าจะได้เห็น Aerox โฉมใหม่นี้ประมาณต้นปีหน้า ซึ่งแน่นอนว่าทุกอย่างของรถคันนี้ได้รับการพัฒนาใหม่หมดไม่ว่าจะเป็น บอดี้พาร์ทรอบคันใหม่ , ไฟหน้า LED แบบใหม่ , เรือนไมล์ LED แบบใหม่ที่สำคัญคือมันสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้แล้วผ่านสัญญาณบลูทูธนั่นเอง ส่วนทางด้านเครื่องยนต์นั้นอาจจะดูคล้ายของเดิมแต่ภายในได้มีการปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด จึงทำให้ได้พละกำลังที่เพิ่มขึ้นจาก 14.75 แรงม้า เป็น 15.15 แรงม้า และแน่นอนว่า All New Aerox 155โฉมใหม่นี้มาพร้อมรูปร่างที่ดุดัน และปราดเปรียวขึ้นกว่ารุ่นเก่าเป็นอย่างมาก และเรามองว่ามันสวยกว่ารุ่นเก่าด้วยนะ
เตรียมเปิดตัวในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ปีหน้าพร้อมกันทั่วโลก ซึ่งนี่ถือเป็นมอเตอร์ไซค์แอดเวนเจอร์รุ่นแรกของทางค่าย Harley และทุกคนต่างจับจ้องไปที่สมรรถนะ และการใช้งานจริงในเส้นทางออฟโรดของมันเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ดี Harley-Davidson Pan America 1250 คันนี้จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V-twin ขนาด 1,250 ซี.ซี. 60 องศา พร้อมด้วยแรงบิดอันมหาศาล ส่วนสเปคอื่นๆ เท่าที่ทราบตอนนี้รถคันนี้จะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ TFT ขนาดใหญ่ , ล้อซี่ลวดพร้อมยางออฟโรด , แผ่นกันแคร้งใต้ท้องอลูมิเนียม , ระบบไฟส่องสว่างรอบคันแบบ LED , และซับเฟรมด้านหลังที่ดูเหมือน Honda X-ADV มาก ๆ
สำหรับทางค่ายยักษณ์เขียวในปีหน้านั้นจะมาพร้อมกับรถสปอร์ตพิกัดกลางถึง 2 รุ่นด้วยกันนั่นก็คือ Kawasaki Ninja 400 และ 650 ABS ซึ่งสำหรับเจ้า Ninja 400 นั้นจะมาพร้อมกับสีใหม่ พร้อมสมรรถนะเครื่องยนต์สูบคู่ Parallel Twin ขนาด 399 ซี.ซี. ที่ขี่ง่ายขึ้น กับช่วงล่างที่ได้รับการพัฒนาใหม่ให้มีความหนึบมากขึ้น พร้อมระบบเสริมความปลอดภัยอย่าง ABS ซึ่งแว่วมาว่าทางคาวาจะพัฒนารถให้ดีขึ้นแต่ขายในราคาที่ถูกลงกว่าเดิมซึ่งราคาทางฝั่งต่างประเทศนั้นเคาะมาที่ 4,999 $ (150,000 บาท/ไม่รวมภาษี)
ส่วนทาง Ninja 650 นั้นมาพร้อมเฟรมถัก และสวิงอาร์มแบบใหม่ทำให้น้ำหนักของมันหายไปถึง 18 กิโลกรัม ส่วนเครื่องยนต์แบบ 2 สูบขนาด 649 ซี.ซี. ที่ปรับให้มีการทำงานของรอบเครื่องยนต์ที่นุ่มนวลขึ้น รวมไปถึงการปรับการทำงานของแคมชาฟท์ และฝาสูบใหม่ รวมไปถึงกรองอากาศแบบใหม่ ซึ่งราคาต่างประเทศเคาะมาที่ 7,599 $ (228,000 บาท/ไม่รวมภาษี) ซึ่งอย่างไรก็ดีเราคาดหวังว่าจะเห็น 2 นินจาใหม่นี้ภายในงานมอเตอร์โชว์ปีหน้า
เรียกได้ว่าเป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่สำหรับเจ้าเน็กเก็ตไบค์เรือธงอย่าง Ducati Monster ที่ในปี 2021 นี้มันได้ทิ้งเฟรมถักอันเป็นเอกลักษณ์มาอย่างยาวนานออกไปแล้ว พร้อมกลับมาในรูปลักษณ์ที่ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากกว่าเดิมด้วยตัวเฟรมแบบเดียวกับรถซูเปอร์ไบค์ พร้อมเครื่องยนต์ใหม่ Desmodromic Testastretta 11° สูบคู่ ขนาด 937 ซี.ซี. ให้กำลังสูงสุด 111 แรงม้า ที่ 9,250 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 93 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบ/นาที โดยเพิ่มขึ้นจากเดิม 3 แรงม้า และ 7 นิวตันเมตร และน้ำหนักตัวที่เบาลงกว่ารุ่นเก่าถึง 4.5 กก. กับน้ำหนักตัวรถที่ 166 กก. ซึ่งมันเท่ากับรถอย่าง Yamaha YZF-R25 เลย ด้วยเครื่องยนต์ใหม่ ขนาดกะทัดรัดลงกว่าเดิม บวกกับน้ำหนักตัวที่ลดลงเราเชื่อได้เลยว่ามันต้องแรงมากแน่ ๆ สำหรับเจ้าอสูรกายคันนี้ ซึ่งในปีหน้าเราคงจะได้เห็นเจ้าอสูรกายคันใหม่นี้ในประเทศไทย และหวังว่าราคามันจะไม่แรงมากนัก
ที่สุดแห่งครุยเซอร์จากค่ายปีกนกฮอนด้าด้วยสไตล์ Bare-Boned แต่มีการออกแบบให้ทันสมัยรอบคันตามแบบ Old School ที่ดูเจ๋งไม่แพ้คู่แข่งแบรนด์อื่น ๆ เลย พร้อมเครื่องยนต์ใหม่ภายใต้รหัส Rebel CMX 1100 ที่มีขนาด 1,083 ซี.ซี. แบบ 2 สูบคู่ พร้อมโหมดการขับขี่ถึง 4 โหมดให้เหล่าไบค์เกอร์ได้เลือกใช้ พร้อมเทคโนโลยีแบบจัดเต็มกับระบบควบคุมแรงบิด , ระบบควบคุมการยกของล้อหน้า , ระบบควบคุมความเร็วคงที่ พร้อมตัวเลือกเกียร์แบบ DCT อันเป็นเอกลักษณ์ของทางฮอนด้า นี่จึงเป็นรถครุยเซอร์ที่น่าจับตามองอีกหนึ่งรุ่นในปีหน้า ว่ามันจะเข้าตาไบค์เกอร์ชาวไทยมากน้อยแค่ไหนกับรถสไตล์นี้ที่ไม่ใช่ Haley
สำหรับสายทัวร์ริ่งในปีหน้ายามาฮ่าจะมาพร้อม Tracer 9 และ Tracer 9 GT รถโรสเตอร์เรือธงของทางค่ายกับการปรับหน้าตาใหม่ที่เหมือนการยกหน้าของ MT-10 มาผสมกับรถสปอร์ต YZF-R1 ยังไงยังงั้น แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาเราว่ามันดูดีเลยหล่ะสำหรับเจ้าทัวร์ริ่งรุ่นใหม่นี้ ซึ่งมาพร้อมขุมพลัง และเทคโนโลยีที่จัดเต็มไม่ว่าจะเป็น เครื่องยนต์ขนาด 890 ซี.ซี. 3 สูบเรียง CP3 แบบเดียวกับ MT-09 แต่ให้กำลังแรงม้าที่เยอะขึ้น พร้อม IMU แบบ 6 แกน และอุปกรณ์ช่วยเหลือในการขับขี่แบบครบครัน รวมไปถึงถังน้ำมันขนาด 19 ลิตร ที่ช่วยให้คุณเดินทางได้ไกลกว่า 350 กม. และอื่น ๆ อีกมากมายใน Tracer 9 ใหม่คันนี้จะต้องทำให้คุณร้องว้าวอย่างแน่นอน
2021 Aprilia RS 660
สปอร์ตไบค์พิกัดกลางสมรรถนะสูงจากอิตาลีที่หลายคนกำลังรอคอยว่าเมื่อไหร่จะเข้ามาขายในบ้านเราสักที หลังจากที่มีการเปิดราคาขายไปในประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซียกันไปแล้ว แถมราคาที่เปิดไปทางฝั่งอินโดนีเซียนั้นบอกเลยว่าว้าวมากด้วย กับราคาเพียง 860,000 เปโซ หรือประมาณ 538,000 บาท สำหรับเครื่องยนต์ของเจ้า RS660 คันนี้มาพร้อมพิกัด 659 ซี.ซี. 2 สูบ DOHC 4 วาล์วต่อสูบ กับขุมพลัง 100 แรงม้า ที่ 10,500 รอบ/นาที กับน้ำหนักตัวรถที่ 182 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งเราว่าปีหน้าฟ้าใหม่มันต้องวางขายในโชว์รูมบ้านเราแน่ ๆ
อีกหนึ่งไฮไลท์ของปีหน้าที่ทุกคนรอคอยสำหรับบิ๊กสกู๊ตเตอร์เรือธงอย่าง Forza 750 ที่มาพร้อมหน้าตา และทรวดทรงอันหล่อเหลา เรียกได้ว่าคู่แข่งมีร้อน ๆ หนาว ๆ กันเลย โดย Forza 750 จะมาพร้อมเครื่องยนต์แบบ 2 สูบ เรียงขนาด 745 ซี.ซี. พร้อมเทคโนโลยีมากมายแบบจัดเต็มไม่ว่าจะเป็น หน้าจอ TFT สีสันสดใส , โหมดการขับขี่ 3 โหมดให้ได้เลือกใช้ , ระบบเกียร์คลัตช์คู่ DCT 6 สปีด และระบบ Honda Selectable Torque Control (HSTC) ที่ช่วยจัดการการยึดเกาะของยางหลังได้เป็นอย่างดี พร้อมรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของคุณได้โดยตรง ซึ่งทั้งหมดนี้เราเชื่อว่าแฟน ๆ ชาวไทยจะได้สัมผัสกันในปีหน้าอย่างแน่นอน เพราะฐานแฟนคลับของ Honda Forza ในประเทศไทยนั้นต้องบอกเลยว่าเยอะมากจนยังไงฮอนด้าก็ต้องนำเข้ามาขายอยู่แล้ว
ฉลาดโหดตัวใหม่แห่งค่ายใบพัดสีฟ้า ในที่สุดทาง บีเอ็มดับเบิลยูก็ได้เวลาปล่อยของกันสักที สำหรับสปอร์ตไบค์เรือธงอย่าง S 1000 RR ที่หลังจากโดนคู่แข่งอัพเกรดรถของตัวเองแซงหน้ากันไปเพียบ กลับมาคราวนี้มันพร้อมรหัสความแรงใหม่ในนาม BMW M 1000 RR กับเครื่องยนต์ขนาด 999 ซี.ซี. 4 สูบเรียง พร้อมการอัพเกรดทุกอย่างในห้องเครื่องให้มีน้ำหนักที่เบาขึ้นกว่าเดิม กับแรงม้าถึง 212 ตัว พร้อม M Wimglets หรือบ้านเราเรียกว่าปีกมาแบบพร้อมรบ ซึ่งทำให้มันมีความเร็ว Top Speed ทะลุ 300 กิโลเมตรได้แบบสบาย ๆ ซึ่งในปีหน้าเราจะได้เห็นเจ้าฉลามคันนี้บนถนนประเทศไทยอย่างแน่นอน
ซึ่งทั้งหมดที่เราได้รวบรวมมาให้ดูเป็นแค่บางส่วนเท่านั้นของรถที่ได้ทำการเปิดตัวไปในต่างประเทศ ซึ่งทั้ง 10 รุ่นที่นำมาให้ได้ชมกันเราคิดว่าน่าจะมีโอกาสสูงมาก ๆ ที่จะได้เห็นบรรดาค่ายผู้ผลิตนำเข้ามาขายในปีหน้า ยังไงก็มารอลุ้นกันดูครับว่าแต่ละรุ่นจะนำเข้ามาขายช่วงไหนของปี รับรองว่าหากนำเข้ามาขายเมื่อไหร่ทาง AutoFun Thailand ของเราจะมารีวิวให้ครบทุกรุ่นอย่างแน่นอน