แบรนด์พรีเมียมจากยุโรปต่างบอกลารถรุ่นเล็กไปด้วยเหตุผลหลายประการ ตั้งแต่ยอดขายที่ยังไม่น่าพอใจ ไปจนถึงสถานการณ์โลก เริ่มตั้งแต่ Audi และ BMW จนมาคราวนี้ถึงตาของ Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) แล้ว
Ola Källenius ซีอีโอของ Mercedes-Benz ได้ประกาศถึงทิศทางที่สำคัญของค่ายว่า อนาคตของรถรุ่นเล็กอย่าง Mercedes-Benz A-Class (เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ-คลาส) อาจไม่ได้ไปต่อ
ในการพูดคุยกันที่งาน Financial Times’ Future of the Car Summit เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Källenius ได้เผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ในอนาคตที่จะมีการประกาศในงานอีเวนต์สำหรับนักลงทุนในสัปดาห์ถัดไปต่อจากนี้ ได้ความว่าดังนี้
มุ่งเป้าสู่ค่ายรถที่ไม่เน้นปริมาณ
แม้ในตอนนี้จะยังไม่มีการระบุอย่างชัดเจนว่ารถรุ่นใดที่อยู่ในความเสี่ยงที่จะไม่ได้ไปต่อ เขากล่าวว่า “เราจะเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในสัปดาห์หน้า แต่เป้าหมายของเราไม่ได้เป็นคู่แข่งกับผู้ผลิตที่เน้นปริมาณ นั่นไม่ใช่สิ่งที่แบรนด์ Mercedes-Benz เป็น ดังนั้นโปรดติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเรา แต่เราจะมองขึ้นไปมากกว่ามองลงมา”
เลื่อนการผลิตรถเล็กให้รถที่มีกำไรมากกว่าก่อน
ปริมาณของการจำหน่ายรถยนต์ขนาดเล็กของ Mercedes ถูกหยุดไว้ชั่วคราวในช่วงไม่กี่ครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทต้องจัดลำดับความสำคัญในการผลิตรถรุ่นที่มีกำไรมากกว่าก่อน เพราะชิปเซมิคอนดักเตอร์มีจำกัด
Källenius ได้ยืนยันว่ากำไรของบริษัทที่ได้สูงในช่วงเวลานี้ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่ทำให้การดำเนินงานให้มีกำไรมากขึ้น
“แม้แต่ก่อนที่จะมีข้อจำกัดของอุปทานจะเริ่มขึ้น เราได้ชี้แจงกลยุทธ์ของเราอย่างชัดเจนว่าเราจะไม่เน้นปริมาณ แต่เป็นการเน้นคุณค่าให้แก่ลูกค้าและบริษัทของเรา” เขากล่าว
“เราได้ดำเนินการในการจัดการของเราแล้ว เพื่อให้แน่ใจในด้านคุณภาพของส่วนต่างของเรา และอำนาจการกำหนดราคาของเรา และในเรื่องนั้น ข้อจำกัดด้านอุปทานก็เหมือนกับการทดลองที่ไม่ต้องการ และจะพบความจริงที่ว่า เราจะเห็นถึงกำไรที่มากขึ้นในช่วงนี้”
ในปี 2021 Mercedes-Benz มีผลประกอบการราว 5.12 แสนล้านบาท แต่ในขณะนั้นราคาของวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลต่อการทำกำไรได้ และความกังวลเหล่านั้นรุนแรงขึ้นเนื่องจากสงครามในยูเครน
Källenius ได้เผยในขณะที่อ้างถึงส่วนต่างของรถขนาดเล็กว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเป็นรายปีคาดว่าจะทำให้ Mercedes เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 2.5 พันล้านยูโร หรือประมาณ 9 หมื่นล้านบาทในปี 2022
เน้นให้รุ่นเริ่มต้นตามเทรนด์มากขึ้น?
หากมองถึงเทรนด์โลกในตอนนี้ ดูเหมือนว่า Mercedes-Benz จะต้องการเน้นไลน์อัพในรุ่นเริ่มต้นให้เป็นครอสโอเวอร์มากกว่าซีดานและแฮทช์แบ็ค
เพราะน่าแปลกใจที่แม้ A-Class จะมียอดขายลดลงในยุโรปจากปี 2019 ที่ 198,926 คัน หลังจากเกิดโรคระบาดและการขาดแคลนชิปยอดขายจึงลดลงเหลือ 118,439 คันเมื่อปีที่แล้ว แต่ก็ยังดีกว่ายอดขายของ GLA-Class ในช่วงเดียวกันที่ยอดขายเพียง 75,124 คัน
อ่านเพิ่มเติม : บอกลารถเล็ก - Audi เตรียมยกเลิกจำหน่าย A1 และ Q2 เพื่อเจาะตลาดไฮเอนด์