ชื่อของ Xpeng (เอ็กซ์เพ็ง) อาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักหรือคุ้นหูลูกค้าชาวไทยมาก เพราะหากมองไปที่ค่ายผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากประเทศจีน เราก็จะคุ้นเคยกับ MG (เอ็มจี) GWM (เกรทวอลล์มอเตอร์ส) หรือ Wuling (หวู่หลิง) มากกว่า

ทั้งที่จริง ๆ แล้ว ประเทศจีนนั้นถือเป็นหนึ่งในผู้นำด้านตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า มีแบรนด์รถยนต์ใหม่ ๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย แม้ว่าตลาดจีนจะเป็นหนึ่งในตลาดหลักของ Tesla (เทสล่า) เจ้าพ่อยานยนต์ไฟฟ้าในโลกของเราก็ตามที

เราอาจจะรู้จักกับ NIO (นีโอ) ที่ซีอีโออาจหาญในการประกาศว่าพวกเขามองข้ามเทสล่าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วจากบทความที่เราเคยนำเสนอ นีโอนั้นพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับระบบแบตเตอรี่ที่สามารถเปลี่ยนได้อันน่าประทับใจ

อ่านเพิ่มเติม: รู้จัก Nio ค่ายรถไฟฟ้าจีนและวิลเลี่ยม ลี ผู้ก่อตั้งกับคำพูด “เรามองข้าม Tesla ไปแล้ว”

แต่กับเอ็กซ์เพ็ง ที่มีผู้ก่อตั้งอย่าง He Xiaopeng ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถยนต์ที่แปลงร่างเป็นหุ่นยนต์ได้จาก Transformer นั้น แตกต่างออกไป เพราะรถยนต์ไฟฟ้าของเขา ถูกพัฒนามาเพื่อให้มีความไว้วางใจได้มากกว่าแบรนด์อื่น

หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินการทดสอบอันเข้มข้นของ Xpeng P7 (เอ็กซ์เพ็ง พี7) รถยนต์นั่งรุ่นที่ 2 ของค่าย ที่เรียกเสียงฮือฮาจากการทดสอบระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติบนถนนจริงและทำสถิติดีที่สุดเอาไว้ ซึ่งเราจะย้อนกลับไปกันอีกครั้ง

เมื่อรถยนต์แห่งโลกอนาคตไม่แตกต่างจากหุ่นยนต์

"อนาคตของโลกรถยนต์ก็คือการผนวกรวมเข้ากับวิทยาศาสตร์ด้านหุ่นยนต์ รวมไปถึงปัญญาประดิษฐ์รูปแบบต่าง ๆ ซึ่งในอนาคตนั้น คนเราจะใช้เวลาอยู่ในรถกันมากขึ้น เหมือน ๆ กับที่เราใช้เวลาอยู่กับโทรศัพท์มือถือ 4-5 ชั่วโมงต่อวัน"

He เลือกที่จะเดินหน้าธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าของเขาในประเทศจีน เพราะจีนนั้นแซงหน้าสหรัฐอเมริกาขึ้นเป็นตลาดรถยนต์เบอร์หนึ่งของโลกในปี 2009 และมีการคาดการณ์ว่า 3 ใน 5 ของรถบนถนนจะเป็นรถไฟฟ้าในปี 2030 เลยทีเดียว

การพัฒนาของเอ็กซ์เพ็งหลังจากก่อตั้งบริษัทในปี 2015 มีเส้นทางที่ไม่ได้แตกต่างอะไรจากแบรนด์รถยนต์จีนทั่ว ๆ ไป คือสินค้ารุ่นแรกถูกมองว่าลอกเลียนแบบคนอื่นทั้งดีไซน์และเทคโนโลยี นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Xpeng G3 (เอ็กซ์เพ็ง จี3)

ครอสโอเวอร์ไฟฟ้ารุ่นแรกถูกส่งออกจากโรงงานของพวกเขาที่เหอหนานในเดือนธันวาคม 2018 ด้วยราคาจำหน่ายแบบรถยนต์จีนที่ 149,800 หยวน (ประมาณ 7.55 แสนบาท) มียอดขายที่ไม่ดีนัก แต่เป็นจุดเริ่มต้นที่เขาเริ่มมองเห็นปัญหา

ว่าการทำรถยนต์ที่ราคาจำหน่ายถูกเพียงอย่างเดียว อาจจะไม่ใช่คำตอบของการทำรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด แต่จะต้องทำให้รถมีความโดดเด่น มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จับต้องได้จริง เพื่อเป้าหมายหลักในการบุกตลาดโลกนั่นเอง

Xpeng P7 สปอร์ตซีดานที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี

เมื่อมีเวลากลับไปพิจารณาการปรับแต่งตัวสินค้าอีกครั้ง He กลับมาพร้อมกับการนำเสนอรถยนต์นั่งแบบสปอร์ต ที่เรียกเสียงฮือฮากับเทคโนโลยีที่อัดแน่นเข้ามา พร้อมด้วยการเดินหน้าพิสูจน์อย่างเคร่งครัดไปกับ Xpeng P7 (เอ็กซ์เพ็ง พี7)

ด้วยราคาจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นไปเป็น 229,900 หยวน (ประมาณ 1.16 ล้านบาท) รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดของ He มาพร้อมระยะทางวิ่งถึง 706 กิโลเมตร เอาชนะรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ รวมถึง Tesla Model 3 (เทสล่า โมเดล 3) ขาดลอย 

โมเดล 3 นั้นมีระยะทำการที่ 445 กิโลเมตร หรือแม้แต่ NIO ES6 (นีโอ อีเอส6) ก็มีระยะการวิ่งที่ 490 กิโลเมตร ณ วันที่เปิดตัว พี7 มีระยะวิ่งที่เป็นรองแค่ Li ONE (หลี่ วัน) รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนอีกแบรนด์ที่ทำได้ 800 กิโลเมตรเท่านั้น

อ่านเพิ่มเติม: รถจีนไปไกลแล้ว NIO สร้างสถานีสลับแบตเตอร์รี่ครั้งแรกของโลก ไม่รอชาร์จ เร็วกว่าเทสล่า

แต่อนาคตของยานยนต์ไฟฟ้าไม่ใช่แค่เรื่องของการวิ่งไกล เพราะมันสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการเปลี่ยนแบตเตอรี่แบบที่นีโอคิดมาแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือการทำให้รถคันนี้มีความน่าใช้งานและสามารถตอบโจทย์ลูกค้ายุคใหม่ได้

ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เอ็กซ์เพ็งได้ทำการทดสอบที่น่าตื่นเต้น ด้วยการส่งฟลีตรถยนต์พี7 ของพวกเขาสิ่งทำการทดสอบระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ยาวและนานที่สุดเท่าที่เคยทดลองกันในประเทศจีน กับการทดสอบที่ยาวนานถึง 8 วัน

ตลอดเส้นทางการทดสอบนานเกิน 1 สัปดาห์ รถยนต์เอ็กซ์เพ็ง พี7 จะวิ่งด้วยระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเท่านั้น จากเส้นทางกว่างโจวไปยังปักกิ่ง ซึ่งเป็นเส้นทางที่ต้องวิ่งผ่านทางหลวงอันขวั่กไขว่และวุ่นวายที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศจีน

รถถูกนำทางด้วยระบบที่เรียกว่า NGP -National Guide Pilot ที่คิดและพัฒนาขึ้นมา และประสบความสำเร็จด้วยการสร้างสถิติว่าระบบขับเคลื่อนอัตโนมัตินี้ ต้องการความช่วยเหลือจากมนุษย์เพียง 0.71 ครั้งต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร

เดินหน้าสู่อนาคตด้วยเทคโนโลยีที่ไม่หวั่นเกรงใคร

หลังจากสร้างพี7 ให้กลายเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ไว้วางใจได้มากที่สุดแห่งยุคสมัยแล้ว อนาคตของเอ็กซ์เพ็งก็จะเดินหน้าต่อไปด้วยการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาผสานกับรถยนต์ไฟฟ้าของพวกเขา พร้อมการอัพเกรดต่อเนื่อง

He นั้นมีความเชื่อมั่นว่ารถยนต์ไฟฟ้านั้นก็ไม่แตกต่างอะไรจากโทรศัพท์มือถือที่ต้องการอัพเดตแอพพลิเคชั่นตลอดเวลา นั่นคือสาเหตุที่ G3 และ P7 ได้รับการอัพเดตซอฟแวร์แบบออนไลน์ไปแล้ว 23 ครั้ง เพิ่ม 128 ฟังชั่นใหม่เรียบร้อย

ก้าวต่อไปก็คือการเปิดตัว Xpeng P5 (เอ็กซ์เพ็ง พี5) รถซีดานรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในไตรมาส 4 และเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่ผลิตจำหน่ายในวงกว้าง ที่มาพร้อมเทคโนโลนี Lidar ที่เทสล่าบอกว่าแพงเกินกว่าจะใส่ในรถที่จำหน่ายจริงได้

ลิดาร์ คือเทคโนโลยีการใช้เลเซอร์ที่มีระยะทางที่แตกต่างกันออกไปในการคำนวนและช่วยเหลือควบคุมรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งการนำมาใช้นี้ เป็นผลงานการพัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยีใหม่ ๆ สำหรับรถยนต์แห่งโลกอนาคต

เอ็กซ์เพ็งยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ที่จะมีกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 1 แสนคันต่อปี ซึ่งจะเพิ่มกำลังการผลิตรถรวมของพวกเขาไปที่ 2.5 แสนคัน และจะผลักดันเศรษฐกิจของอู่ฮั่นให้กลับมาเติบโตอีกครั้งในอนาคต