Tesla เสียแชมป์รถไฟฟ้าน่าเชื่อถือให้ NIO ที่ลูกค้าไว้ใจกว่า และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ล้มเหลว

Tesla (เทสล่า) เสียความเชื่อถือประเภทรถไฟฟ้าให้กับแบรนด์จีนอย่าง NIO (นีโอ) เป็นผลจากการสำรวจของสภาบัน J.D.Power ที่ทำในประเทศจีน งานนี้วัดผลอย่างไร คนจีนจะเข้าข้างแบรนด์ประเทศตัวเองหรือเปล่า แล้วทำไมเทสล่าถึงได้คะแนนต่ำกว่าแบรนด์จีน เรามาดูข้อมูลกัน

J.D.Power คือสถาบันที่สำรวจความพึงพอใจ โดยสอบถามจากลูกค้าโดยตรง ในครั้งนี้ใช้กลุ่มตัวอย่างชาวจีน 3,267 คนที่เลือกใช้รถยนต์ 40 รุ่นจาก 20 แบรนด์ต่างกัน โดยกระจายกลุ่มตัวอย่างไปทั่ว 28 หัวเมืองใหญ่ในประเทศจีน 

กลุ่มตัวอย่างใช้รถมาแล้ว 1 ปี

ลูกค้าที่ทำการตอบแบบสอบถามนี้ เป็นผู้ที่ซื้อรถยนต์ใหม่ป้ายแดงตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2019 ถึงเดือนเดียวกันในปี 2020 และต้องใช้รถยนต์มาเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2 เดือน จนถึงมากสุด 6 เดือน ไม่จำกัดระยะทาง ซึ่งไม่เพียงสำรวจรถไฟฟ้าเท่านั้น ยังสำรวจรถไฮบริดไปพร้อมกันด้วย

สำรวจปัญหา 236 แบบทุกซอกมุม

การสำรวจความน่าเชื่อถือของรถนั้น ก็ต้องดูจากปัญหาที่เกิดขึ้นในการใช้งาน 1 ปีที่ผ่านมา โดยคำถามจะเริ่มจากพื้นฐานด้านการดีไซน์ที่มีผลต่อการใช้งาน จนลึกลงไปถึงด้านการประกอบ คุณภาพวัสดุ อุปกรณ์ ฟังก์ชั่นการใช้งานที่แม่นยำ ซอร์ฟแวร์ที่รวดเร็ว รวมถึงการบริการหลังการขาย รวมทั้งหมด 236 ด้านที่สำรวจในรถ 1 คัน

ผลการประเมิน

จากปัญหาทั้งหมด 236 จุดที่สำรวจแต่ละคัน สรุปออกมาว่า เฉลี่ยทุก ๆ 100 คันจะเกิดจำนวนปัญหาเท่าไหร่ (หน่วย PP100) ดังนั้นยิ่งได้เลขน้อยเท่าไหร่ ก็ยิ่งดี โดยมีค่าเฉลี่ยกลางทุกยี่ห้อมีปัญหาอยู่ที่ 138 PP100 และเราได้สรุปผลการสำรวจเอาไว้แล้วตามประเภทรถดังนี้

รถไฟฟ้ามีปัญหาเสียงเข้าด้วย

ปัญหาของรถไฟฟ้าที่ลูกค้าพบมากที่สุดคือ การมีเสียงลมและเสียงถนนเล็ดลอดเข้ามามาก อาจจะเป็นเพราะไม่มีเสียงเครื่องยนต์รบกวน เลยทำให้รับเสียงรบกวนอื่น ๆ ได้ดีขึ้น และอีกปัญหาที่พบมากในรถไฟฟ้าคือ กลิ่นของรถใหม่เหม็นเกินไป คาดว่ามาจากการรีบส่งมอบโดยไม่มีการทำความสะอาดซ้ำ

คนจีนไม่เข้าข้างรถชาติตัวเอง

ผลการสำรวจความพอใจที่รถแบรนด์จีน NIO ชนะ Tesla แบบนี้ ไม่ได้เป็นเพราะว่าคนจีนเข้าข้างรถที่ทำจากประเทศตัวเอง เพราะจากการศึกษาพบว่า รถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์จีนทั้งหมด ถูกร้องเรียนปัญหามากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ต่างประเทศ

รถยนต์ไฟฟ้าจีนมีค่าปัญหาทั้งหมด 147 PP100 ส่วนแบรนด์ต่างประเทศมีค่าปัญหา 112 PP100 เท่านั้น แสดงให้เห็นว่าคนจีนพบปัญหาในรถจีนเยอะกว่า และไม่นิ่งเฉย รีบร้องเรียนทันที

เทสล่าเคยสอบตกคุณภาพมาแล้ว

เรื่องการวัดคุณภาพของเทสล่าแล้วแพ้ค่ายรถอื่น ๆ นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะว่าเมื่อกลางปี 2020 ที่ผ่านมา แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอเมริกันนี้ ก็สอบตกมาตรฐานการสำรวจของ J.D.Power สหรัฐอเมริกา ด้วยค่าปัญหาสูงถึง 250 PP100 แถมเทสล่ายังไม่อนุญาตให้ J.D.Power ไปสำรวจชาวมะกันในอีก 15 รัฐที่เหลือด้วยเหตุผลไม่ทราบได้

นอกจากนี้ยังมีอีกกรณีที่เทสล่าเสียภาพลักษณ์จาก Consumer Reports ในปี 2019 ได้ถูกถอดชื่อจากการเป็นรถยนต์รุ่นแนะนำน่าซื้อ และในปี 2020 ได้รับการร้องเรียนปัญหารถยต์กว่า 127 คันทั่วสหรัฐ เกิดคันเร่งค้าง ทำให้เกิดอุบัติเหตุถึง 110 ครั้ง โชคดีที่แค่บาดเจ็บรอดชีวิตผ่านมาได้หมดทุกคน