เราได้ยินข่าวคราวรถยนต์ไฟฟ้า Tesla (เทสล่า) เกิดเหตุไฟลุกไหม้หลายครั้งหลายหนจนเป็นข่าวดังไปทั่วโลก แต่แท้จริงแล้ว รถอีวีสัญชาติอเมริกันมีความเสี่ยงมากกว่ารถเครื่องยนต์สันดาปจริงหรือไม่
เกือบทุกครั้งที่เกิดเหตุไฟลุกไหม้ทั้งในสหรัฐอเมริกา จีน และประเทศอื่น ๆ Tesla มักออกมาระบุว่าสาเหตุไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของตัวรถ แต่เกิดจากการใช้งานที่ไม่ถูกต้องของเจ้าของเองหรือมาจากสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้ระบบไฟฟ้าลัดวงจร
ล่าสุด ค่ายรถพลังงานไฟฟ้าจากแคลิฟอร์เนียยังเปิดเผยผลวิจัย ระบุว่ารถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปมีความเสี่ยงที่จะเกิดไฟไหม้มากกว่ารถของพวกเขาเองถึง 11 เท่าเลยทีเดียว
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
ยิ่งใช้งานนาน ยิ่งเสี่ยงไฟไหม้
รายงานของ Tesla ที่มีชื่อว่า "2020 Impact Report" มีเนื้อหานำเสนอผลการดำเนินงานตลอดหลายปีที่ผ่านมาและเป้าหมายในอนาคตในการ “ขับเคลื่อนโลกทั้งใบให้เดินหน้าไปสู่การใช้พลังงานที่ยั่งยืนมากขึ้น”
Tesla เล็งขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้งและผลักดันให้ลูกค้าทั่วโลกเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น โดยตั้งเป้าหมายตัวเลขการผลิตและจำหน่ายไว้ถึง 20 ล้านคันต่อปีภายในปี 2030 เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวเมื่อเทียบกับยอดขาย 5 แสนคันในปี 2020 ที่ผ่านมา
การส่งมอบรถ 5 แสนคันในปีที่แล้วผนวกกับการนำเสนอแผงโซลาร์เซลส์ทำให้ลูกค้า Tesla สามารถช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ 5.0 ล้านเมตริกตันเลยทีเดียว
ขณะเดียวกัน ประเด็นสำคัญของรายงานฉบับนี้คือการอ้างถึงการสำรวจความเสี่ยงที่จะเกิดไฟไหม้ตัวรถ Tesla ระบุว่าระหว่างปี 2012 – 2020 ที่ผ่านมา เกิดเหตุไฟไหม้รถยนต์ Tesla ทุก 1 คันต่อการขับขี่ระยะทาง 205 ล้านไมล์ ตัวเลขดังกล่าวถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับรถเครื่องยนต์สันดาปที่จะเกิดไฟไหม้ทุก 1 คันต่อการขับขี่ระยะทาง 19 ล้านไมล์
“เราเดินหน้าปรับปรุงวัสดุเคมีในแบตเตอรี่ เซลล์แบตเตอรี่ และชุดโครงสร้างแบตเตอรี่อย่างต่อเนื่องเพื่อลดความเสี่ยงเกิดไฟไหม้ให้เป็นศูนย์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้รถยนต์ Tesla เราจะมอบข้อมูลที่จำเป็นให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ดังกล่าว” Tesla ระบุ
รายงานฉบับนี้รวมรวมข้อมูลจากสมาคมป้องกันอัคคีภัย (National Fire Protection Association หรือ NFPA) และกระทรวงคมนาคมของสหรัฐอเมริกา ก่อนจะประมวลผลเป็นสัดส่วนที่ชี้ว่ารถยนต์ Tesla มีความเสี่ยงน้อยกว่ารถเครื่องยนต์สันดาปทั่วไปถึง 11 เท่า อย่างไรก็ตาม ข้อสังเกตของรายงานฉบับนี้คือการขาดแหล่งอ้างอิงถึงอายุใช้งานของตัวรถทั้งสองประเภท
เป็นที่ทราบกันว่ารถเครื่องยนต์สันดาปทั้งเบนซินและดีเซลที่มีอายุใช้งานนานกว่า 10 ปีขึ้นไปมักถูกละเลยในด้านการบำรุงรักษาจึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดไฟไหม้มากกว่า ขณะที่รถยนต์ Tesla นั้นถือว่าใหม่กว่ามากและเพิ่งผลิตออกจำหน่ายในวงกว้างตั้งแต่ปี 2015 เท่านั้น
ขณะเดียวกัน รายงานฉบับนี้ยังไม่ได้ระบุถึงวิธีการดับไฟเมื่อเกิดเหตุลุกไหม้ของรถยนต์ไฟฟ้า เว็บไซต์ Drive ของออสเตรเลียระบุว่ารถอีวีต้องใช้น้ำมากถึง 150,000 ลิตรในการควบคุมเพลิง ขณะที่รถเบนซินหรือดีเซลใช้น้ำอยู่ที่ 500 – 1,000 ลิตรเท่านั้น
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });